อาหารในเวียดนาม – อาหาร, เครื่องดื่มที่ดีที่สุด และคำแนะนำ

นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปประเทศเวียดนามยังคงมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวมักจะชอบอาหารเวียดนาม เนื่องจากอาหารที่นี่มีการผสมผสานระหว่างรสชาติที่หลากหลาย ทั้งรสเปรี้ยว, เค็ม, เผ็ด และหวาน และสูตรอาหารเก่าแก่ที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น อาหารจานโปรดของนักท่องเที่ยว ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยว ข้าว ขนมปังแบบบาแก็ตขนาดเล็กที่เรียกว่า “บั๋นหมี่” นอกจากนี้ที่นี่ยังมีอาหารทะเล และอาหารมังสวิรัติหลากหลายให้เลือกทานอีกด้วย และนี่คือ คู่มือแนะนำการชิมอาหารประจำชาติของประเทศเวียดนาม

อาหารท้องถิ่นน่าลอง

เมื่อนึกถึงอาหารมื้อแรกเมื่อมาถึงที่นี่ ก็คงอยากรู้กันแล้วใช่ม๊าา ว่าอาหารอะไรกันน้า? ที่นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จะต้องลิ้มลอง
ลองดูลิสต์อาหารต้องห้ามพลาดนี้ดูสิ

1. เฝอ (Pho)

เฝอ เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของเวียดนาม ที่สามารถหาทานได้ทั่วประเทศเวียดนาม และยังเป็นอาหารที่มีเสิร์ฟอยู่ในทุกๆ ภัตตาคารทั่วโลก ก๋วยเตี๋ยวนี้มาพร้อมกับ เส้นกลมที่มีขนาดใหญ่กว่าเส้นขนมจีนเล็กน้อยที่เรียกว่า บั๊ญเฝอ (bánh phở) ใส่ลงไปในน้ำซุปที่มีทั้งเครื่องเทศ และสมุนไพรต่างๆ ระหว่างที่กำลังท่องเที่ยวในเมือง ลองดูตามร้านอาหารริมทางดูสิ คุณจะสามารถพบได้ทั่วไป โดยปกติจะมีให้เลือก 2 อย่างคือ เฝอโบ (Pho Bo) ซึ่งเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และ เฝอกา (Pho Ga) ก๋วยเตี๋ยวไก่ แอดขอแนะนำให้ลองทั้ง 2 อย่างเลย เรียกได้ว่า อร่อยคนละแบบ โดยปกติแล้วการเสิร์ฟเฝอ จะมีให้เลือกผักที่ต้องการจะใส่ด้วย

2. บั๋นหมี่ (Banh Mi)

เป็นหนึ่งในมรดกของยุคอาณานิคมของฝรั่งเศสในอินโดจีน มีลักษณะคล้ายกับบาแกตต์หรือขนมปังฝรั่งเศสทรงสั้นชนิดหนึ่งที่มีผิวบางกรอบและเนื้อนุ่มโปร่ง ผ่าตามยาวแล้วนำส่วนผสมต่างๆ เช่น หมูยอ ผักชี แตงกวา แคร์รอตดอง หัวไชเท้าดอง มาใส่ระหว่างกลางอย่างแซนด์วิช คุณจะได้เจอแม่ค้าเข็นรถเข็นขายแซนวิชแสนอร่อยนี้แทบทุกมุมของถนน ซึ่งปกติคนมักจะทานบั๋นหมี่เป็นมื้อเช้าหรือทานเป็นอาหารว่าง

3. แบ๋งแส่ว (Banh Xeo)

อีกหนึ่งอาหารเวียดนามที่อร่อยที่สุดก็คือ แบ๋งแส่ว (หรือที่เราเรียกกันว่าขนมเบื้องเวียดนามนั่นเอง) เป็นอาหารเวียดนามที่ทำจากแป้งข้าวจ้าว น้ำ ผงขมิ้นหรือกะทิ (หากแปลตรงตัว แบ๋งแส่วจะแปลว่าขนมซ่า) โดยปกติมักจะสอดไส้ไปด้วยกุ้ง และหมู พร้อมกับถั่วงอกประมาณ 1 กำมือและโรยด้วยขมิ้น เป็นอาหารว่างที่มักจะรับประทานพร้อมกับแป้งแผ่นที่ทำจากข้าว ผัก และซอสมัสตาร์ด

4. เกาหลา (Cao Lau)

เกาเหลา เป็นอาหารดั้งเดิมในเวียดนาม มักจะได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุดจากฮอยอันเสมอ ลองจินตนาการถึงข้าวเปล่า ผสมกับหมูและถั่วงอกในซุป จากนั้นใส่แครกเกอร์ข้าวและแป้งแผ่นที่ทำจากข้าวลงไป นั่นแหละคือ เกาเหลา
หากคุณอยู่ในเวียดนามตอนกลาง คุณจะสามารถพบกับเมนูนี้ได้ตามร้านอาหารทั่วไป และนี่คือหนึ่งในอาหารที่ต้องลองในเวียดนาม

5. บุ๋นเรียว (Bun Rieu)

บุ๋นเรียว เป็นหนึ่งในอาหารประเภทซุปที่ดีที่สุดในเวียดนาม น้ำซุปทำจากปูอัด คลุกเคล้าด้วยเส้นหมี่ มะเขือเทศ เต้าหู้ทอด หมู และเลือดหมูต้ม ถ้าฟังจากคำอธิบาย อาจดูธรรมดาๆ ไม่ค่อยน่าลอง แต่หากลองได้ทานดูสักครั้งคุณจะแปลกใจว่า ทำไมรสชาติมันดีอย่างนี้เนี่ย ท่ามกลางอาหารเวียดนามอร่อยๆ คุณจะได้พบว่า ไม่มีอะไรดีไปกว่า บุ๋นเรียว หนึ่งชาม ที่ปรุงด้วยพริกหนึ่งช้อนและมะนาวสดหนึ่งหรือสองหยดอีกแล้ว

6. อ๊ก (Oc)

อ๊ก หรือ หอยเป็นอาหารริมทาง ยอดนิยมในเวียดนาม ชาวบ้านจะนั่งบนเก้าอี้พลาสติกขนาดเล็กและโต๊ะที่วางเรียงรายอยู่ข้างถนน
เพื่อดื่มด่ำกับหอยแครง หอยทาก และหอยกาบ มีให้เลือกระหว่างนึ่ง ย่าง หรือแกง แอดขอให้แนะนำ หากคุณเดินทางไปเวียดนาม ให้ลองทานหอยกับเบียร์เย็นๆ สักแก้วหรือสองแก้ว เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ อ๊ก 1-3 จาน กับเบียร์ มีราคาประมาณ 10 USD (225,000 VND) เท่านั้น

7. โซย (Xoi)

โซย ถ้าจะให้เรียกในภาษาไทยก็คือ ข้าวเหนียว ปกติแล้วโซย มักจะถูกแบ่งขายเป็นขนาดประมาณก้อนหยิบมือ คู่กับ หมู ไก่ หรือไข่
อาหารโปรดของคนเวียดนามคือ โซย กับ ไส้กรอก หรือไก่สับ ที่มักจะทานกันเป็นอาหารเช้า
พ่อค้า/แม่ค้า ส่วนมากมักจะเข็นรถเข็นขายโซย ตามเมืองต่างๆ เช่น โฮจิมินห์ ดานัง และฮานอย

8. จ๋าหย่อ (Cha Gio)

คำที่คนเวียดนามทางตอนใต้มักจะเรียกว่า จ๋าหย่อ (Cha Gio) แต่ถ้าเป็นทางตอนเหนือมักจะเรียกว่า แนมซ้าน (Nem Ran)
ซึ่งก็คือปอเปี๊ยะทอด แม้จะมีขนาดเล็ก แต่แอดบอกได้เลยว่าอร่อยมาก ถึงจะไม่ค่อยดีต่อสุขภาพ แต่ก็เป็นอาหารที่ต้องลองสักครั้ง
ไส้ทั่วไปของจ๋าหย่อได้แก่ ผักสับ เนื้อสับ(ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อหมู) เต้าหู้ และปู ทานคู่กับซอสรสเปรี้ยวที่เสิร์ฟเคียงกัน อร่อยลืมมม

9. บู๊นจ๋า (Bun Cha)

ในปี 2559 อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบามา ได้เดินทางไปเวียดนามอย่างเป็นทางการ เมื่อเขามาถึงฮานอย อาหารมื้อแรกที่เขาทานคือบู๊นจ๋า เป็นอาหารประเภทเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่เนื้อย่างถ่าน เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในเวียดนามทางตอนเหนือ คุณสามารถหาบู๊นจ๋าทานได้ในทุกส่วนของประเทศโดยแต่ละแห่งจะมีรูปแบบ และรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง หลังจากที่โอบามากินอาหารประจำชาติของเวียดนามแล้ว เขาก็ไม่ได้ให้อะไรนอกจากคำชม และแน่นอนแอดก็เป็นแบบเดียวกันค่ะ 555555

10. เกิมตั๋ม (Com tam)

คุณกำลังท้องร้องและมองหาอาหารรองท้องอยู่ใช่ม้าา? ลองมองหาร้านอาหารเล็กๆ แล้วสั่งเมนู เกิมตั๋ม ดูสิ
เกิมตั๋ม ประกอบไปด้วยข้าวหักกับหมูสับย่างโปะหน้าจานด้วยผักดอง หมูย่างติดถนน แบบอาหาร อารมณ์เหมือนข้าวหน้าหมูย่างบ้านเราเลย ราคาต่อจานน้อยกว่า 1 USD อีกนะ (ประมาณ 22,000 VND) เรียกได้ว่า ทั้งอิ่มทั้งคุ้มเลยทีเดียว

ห้าเครื่องดื่มท้องถิ่นที่ดีที่สุดที่ควรลอง

นอกจากเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นแล้ว อย่าลืมลองชิมเครื่องดื่มพิเศษของเวียดนามด้วย ไม่ว่าคุณจะต้องการจิบกาแฟดำเข้มข้นในตอนเช้าหรือเพลิดเพลินกับเบียร์ท้องถิ่นสักแก้วในตอนเย็น คุณไม่ควรพลาดสิ่งต่อไปนี้

1. ก่าเฟเสือด๊า (Ca Phe Sua Da )

ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดแน่นอน เครื่องดื่มนี้มีชื่อว่า “ก่าเฟเสือด๊า” ผู้คนทั่วโลกตกหลุมรักกาแฟนี้ วิธีการทำคือ ดริปกาแฟผ่านตัวกรองกาแฟลงในแก้วทรงสูงใส่น้ำแข็ง กาแฟเวียดนามทั้งอร่อยและเข้มข้น มีสองแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น ก่าเฟเสือด๊า (Ca Phe Sua Da) กาแฟใส่นม หรือ ก่าเฟด๊า (Ca Phe Da) กาแฟดำเปล่าๆ นั่นแหละ (เชื่อว่าหลายคนก็ลองขยับปากอ่านชื่อกาแฟตามแล้ว) กาแฟเวียดนามหนึ่งแก้วราคาประมาณ 1.30 USD (30,000 VND) เองน้า

2. จ่าเสือ (Tra Sua)

จ่าเสือ (ไม่ใช่ชื่อแบรนด์นะจ๊ะ) เป็นชื่อเรียกชานมไข่มุกเวอร์ชั่นเวียดนาม และยังเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกเพศทุกวัย หากได้ลองชิมชาเย็นนมที่มีเยลลี่ผลไม้ชิ้นเล็กๆ หรือมันสำปะหลังเป็นก้อนให้ในช่วงบ่ายที่แดดกำลังร้อนจนแทบละลายละก็ รับรองว่าสดชื่นแน่ๆ ค่ะ ส่วนมากชานมไข่มุกที่ขายในคาเฟ่จะมีให้เลือกหลายแบบ นอกจากนี้ยังมีขายตามร้านที่เป็นรถเข็นด้วย

3. เนื้อก เมี๊ยะ (Nuoc Mia)

ระหว่างที่เดินไปรอบๆ เราจะสังเกตุได้ว่ามีร้านเครื่องดื่มที่เป็นร้านแผงลอยเล็กๆ มีกิ่งต้นไม้ยาวคล้ายไผ่ ตั้งเรียงรายอยู่ใกล้ๆ เมื่อมีคนสั่งเครื่องดื่ม คนขายก็จะหยิบมันสอดมันเข้าไปในเครื่องบดแล้วทุบเพื่อทำเป็นเครื่องดื่ม นี้เรียกว่า เนื้อก เมี๊ยะ หรือน้ำอ้อย เครื่องดื่มสุดหวานที่บางคนได้ลองแล้วชอบมาก แอดแนะนำว่าลองชิมดู แล้วลองตัดสินใจดีกว่า ว่าอร่อยจริงมั้ย อิอิ

4. เบียร์ฮอย (Bia Hoi)

เป็นเบียร์สดประเภทหนึ่งในท้องถิ่น 1 แก้วมีขนาดประมาณ 330 มล. ราคาไม่ถึง 0.5 USD มีส่วนผสมของแอลกอร์ฮอลเพียง 3-4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น รสชาติจะอ่อนกว่าเบียร์ปกติ มักจะมีให้ดื่มในบาร์เล็กๆ ร้านริมทางหากคุณเป็นนักดื่มเบียร์ อย่าลืมแวะไปลองล่ะ

5. ไวน์ข้าว (Rice Wine)

เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่หมักและกลั่นมาจากข้าว มีหลากหลายสายพันธุ์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วัฒนธรรมอาหารเวียดนามมักมีความเกี่ยวพันกับวัฒนธรรมการดื่ม ด้วยเหตุนี้ เราจึงสามารถพบไวน์ข้าวได้หลายประเภทในเวียดนาม ชาวต่างชาติมักจะได้รับเชิญให้ลองชิมไวน์ข้าวเหนียวหรือ ruou nep cam ซึ่งเป็นไวน์ยอดนิยมในหมู่คนในท้องถิ่น ไวน์ข้าวอื่นๆ มักจะมีส่วนผสมของสมุนไพรและบางครั้งก็เป็นงู!!! หากคุณเดินผ่านตลาด เบ๊นถั่ญ (Ben Thanh) ในนครโฮจิมินห์ คุณจะเห็นขวดโหลเล็กๆ ที่มีงูอยู่ข้างใน นั่นแหละคือไวน์ข้าวงู!!

ราคาอาหาร

เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ราคาอาหารเวียดนามนั้น มีราคาถูกกว่ามาก ราคาของอาหารท้องถิ่นใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยล่ะ

ค่าอาหารในร้านอาหารท้องถิ่นไม่ควรเกิน 10 USD (225,000 VND) ต่อคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราไปเที่ยวที่ไหน โดยทั่วไปราคาที่ว่านี้ จะรวมข้าว 1 จาน กับข้าว 2 อย่าง และเครื่องดื่มหนึ่งหรือสองแก้ว ค่าอาหารจะแพงขึ้นหากเป็นโซนท่องเที่ยว หากคุณมีงบจำกัด แอดแนะนำให้ไปที่ร้านอาหารท้องถิ่นที่มีเฝอหนึ่งชามและอาหารเวียดนามประเภทอื่นๆ ที่ราคาไม่เกิน 2 USD (45,000 VND) อาหารริมทางมีราคาประมาณ 1 USD (22,500 VND)

คำเตือน!! ให้ระวังร้านอาหารที่ไม่แสดงราคา พวกเขามักจะเรียกเก็บเงินจากชาวต่างชาติแพงหรือพยายามหลอกคุณ

ในส่วนของอาหารตะวันตก เช่นเดียวกับสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในเอเชีย มักจะมีราคาแพงกว่ามากเมื่อเทียบกับอาหารท้องถิ่น แต่ถ้าเทียบกับราคาของประเทศแถบตะวันตก ก็ยังถือว่าถูกกว่ามาก ที่นี่มีอาหารนานาชาติมากมาย เช่น อาหารตะวันตก อิตาลี ฝรั่งเศส อินเดีย และอาหารญี่ปุ่นในโฮจิมินห์ซิตี้, ฮานอย ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 15 USD (340,000 VND) ต่อคน

ความปลอดภัยของอาหาร

คุณภาพของอาหารท้องถิ่นของแต่ละที่นั้นแตกต่างกันไป ถึงแม้จะเป็นร้านอาหารหรู ความสะอาดก็อาจไม่ดีเท่าที่ควร ในแง่ของความปลอดภัยด้านอาหารของเวียดนาม โปรดใช้ความระมัดระวังในการเลือกสถานที่รับประทานอาหาร ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักท่องเที่ยวจะป่วยในช่วงสองสามวันแรก

สุขอนามัยไม่เพียงพอในร้านอาหารท้องถิ่นหลายแห่ง อาหารอาจถูกเก็บไว้ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสม ทำให้วัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรีย การปนเปื้อนจากสิ่งสกปรก ขยะมูลฝอย และมลพิษ ก็ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นปัญหาเช่นกัน ความสกปรกเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก เช่น การแคะจมูก ไม่ล้างมือ พนักงานเสิร์ฟเก็บอาหารที่หล่นจากพื้นกลับเข้าไปในจาน การทานอาหารแต่ละครั้งควรระวังเส้นขนหรือเจออะไรแปลกๆในจานด้วยน้า

อีกอย่างหนึ่งคือน้ำแข็ง คนส่วนใหญ่ในเวียดนามนั้นไว้ใจได้ แต่ถ้าคุณมีเบียร์กับน้ำแข็งสักแก้ว พนักงานเสิร์ฟอาจจะเอาน้ำแข็งของคุณใส่กลับเข้าไปในถังแล้วนำไปรีไซเคิลใส่ในแก้วคนอื่นได้ น้ำแข็งใหม่ในแก้วอาจมาจากโต๊ะตรงข้าม หรือโต๊ะข้างๆ!!
อันนี้ควรระวังเอาไว้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ขอน้ำแข็งใหม่ที่มาจากตู้เย็นเท่านั้น หรือถ้าไม่จำเป็นก็ไม่เปลี่ยนน้ำแข็งดีกว่า

นักท่องเที่ยวที่คำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการเป็นพิเศษอาจท่องเที่ยวได้ลำบากในประเทศเวียดนาม เนื่องจากมีการนำผงชูรสมาใช้กันอย่างแพร่หลายในการปรุงอาหารทุกประเภท และการหาอาหารฮาลาลนอกร้านอาหารเฉพาะทางจะเป็นเรื่องที่ท้าทายเอามากๆ ชาวเวียดนามส่วนมากจะนิยมรับประทานเนื้อหมู และส่วนใหญ่น้ำมันที่นำมาใช้ปรุงอาหารจะถูกนำกลับมาใช้ซ้ำ!!!

นักท่องเที่ยวบางคนที่ชอบความท้าทาย มักจะชอบทานของแปลกในประเทศเวียดนาม ซึ่งที่นี่เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องเนื้อสัตว์แปลก หรือเมนูเปิบพิสดาร
หากคุณรู้สึกคลื่นไส้หรือเป็นคนรักสัตว์ แอดแนะนำให้ข้ามไปอ่านย่อหย้าถัดไปได้เลย! เนื้อสัตว์ที่กินได้นั้นถูกนิยามแตกต่างกันไปในเวียดนาม หากคุณชอบการผจญภัย คุณอาจมีโอกาสได้กินงู เต่า หนูนา ค้างคาว เนื้อจิ้งจอกย่าง บาลุต (ไก่ที่ปฏิสนธิหรือไข่เป็ด) เนื้อสุนัข (tit cho) และเนื้อแมว (thit meo) เนื้อสัตว์เหล่านี้มีเสิร์ฟเฉพาะในร้านอาหารพิเศษเท่านั้น ฉะนั้นมั่นใจได้ว่า คุณจะไม่พลาดทานอย่างใดอย่างหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจแน่นอน

ร้านอาหารที่ดีที่สุด

ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณไปเยี่ยมชมในเวียดนาม คุณอาจมีร้านอาหารให้เลือกมากมาย นี่คือสถานที่กินที่ต้องไปให้ได้ในแต่ละส่วนของประเทศ

ฟาร์มสุขภาพเมืองโฮจิมินห์

เครือร้านอาหารผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารมังสวิรัติในเวียดนาม ส่วนใหญ่ร้านจะตั้งอยู่ในเมืองโฮจิมินห์และมีหลายสาขา
รับประกันเลยว่าหากรับประทานอาหารที่นี่ คุณจะได้รับคุณค่าทางโภชนาการตามที่คุณต้องการอย่างแน่นอน ที่นี่มีบริการทั้งการนั่งทานในร้านและสั่งกลับบ้าน

ร้านอาหารเมย์ เมืองโฮจิมินห์

ร้านอาหารระดับไฮเอนด์ในเขต 1 ของเมืองโฮจิมินห์ ผสมผสานสไตล์เวียดนามเข้ากับรสชาติแบบฝรั่งเศส Mai Restaurant ตั้งอยู่ในหมู่บ้านอาณานิคมฝรั่งเศส ไม่เพียงแต่น่าเชื่อถือเท่านั้น แต่ที่นี่ยังให้บริการอาหารรสชาติดีที่สุดในเวียดนามอีกด้วย

สตอรี่บีชคลับ

คุณกำลังมองหาประสบการณ์การทำอาหารที่ไม่เหมือนใครในญาจางอยู่ใช่ไหม? ลองไปที่สตอรี่บีชคลับดูสิ ที่นี่มีทั้งเมนูอาหารเวียดนาม จีน เมดิเตอร์เรเนียนและยุโรปตะวันออก นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียหลายพันคนมาที่มาเที่ยวญาจางมักจะชอบแวะมาทานอาหารที่นี่ ร้านอาหารแห่งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทานอาหารที่คุ้นเคย

Cua Bien Quan, ดานัง

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารสุดพิเศษพร้อมวิวทะเล ให้ไปที่ Cua Bien Quan ในเมืองดานัง อาหารทะเลที่นี่สดใหม่มาก หอยนางรม และเมนูหอยสดก็มี เราสามารถเลือกได้ด้วยนะ ว่าจะรับประทานอาหารกลางแจ้งหรือรับประทานในห้องแอร์

Bun Cha Huong Lien, ฮานอย

ร้านอาหารเล็กๆ ในฮานอยแห่งนี้เคยตั้งอยู่ในมุมมืด ไม่มีอะไรที่แตกต่างจากร้านอื่นๆ หลายพันร้านที่อยู่ในเมืองหลวง จนกระทั่งอดีตประธานาธิบดีโอบามาและเชฟแอนโธนี บูร์เดน มาทานอาหารที่นี่ในปี 2559 ตั้งแต่นั้นมา ร้านอาหารเวียดนามทั่วไปที่มีเก้าอี้พลาสติกขนาดเล็กนี้ก็มีชื่อเสียงขึ้น หากคุณอยู่ในฮานอย ทำไมไม่ลองสั่งขนมปังและรับประทานอาหารแบบที่โอบามาทานดูล่ะ?

การเรียนทำอาหารเวียดนาม

ถ้าคุณรักอาหารเวียดนาม ทำไมไม่ลองเข้าเรียนในโรงเรียนสอนทำอาหารและเรียนรู้วิธีเตรียมอาหารที่คุณชอบเมื่อกลับถึงบ้านล่ะ?

Vietnam Cookery Center

ตั้งอยู่ในเขต 1 และมีราคา 37 USD ต่อคอร์ส ที่นี่เป็นสถานประกอบการแห่งแรกที่สอนนักท่องเที่ยวถึงวิธีการปรุงอาหารเวียดนาม เรียนรู้วิธีการเตรียมอาหารจานโปรดของคุณ รวมทั้งการทำปอเปี๊ยะและซุป อาจารย์ผู้สอนสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี เป็นมิตรและชอบพูดคุยกับนักท่องเที่ยว ใช้เวลาเรียนประมาณสองถึงสามชั่วโมง

Hanoi Cooking Centre

หากคุณอยู่ในฮานอยและต้องการเรียนรู้วิธีการปรุงอาหารจานพิเศษที่ดีที่สุดจากเวียดนามทางตอนเหนือ ลองจองคอร์สเรียนที่โรงเรียน Hanoi Cooking Centre ดูสิ โรงเรียนนี้ตั้งอยู่ที่ถนน Chau Long ที่นี่มีให้บริการคอร์สเรียนทำอาหารและเวิร์กช็อปต่างๆ ไฮไลท์ที่นี่คือ จะมีการสอนวิธีการเตรียมอาหารริมทาง เช่น ปอเปี๊ยะ อาหารมังสวิรัติและอาหารยอดนิยมอื่นๆ จากฮานอยด้วย
ที่นี่ เรายังสามารถเรียนวิธีการปรุงซุปก๋วยเตี๋ยวเนื้อและวิธีการเตรียมข้าวด้วย
ราคาต่อคอร์สจะอยู่ที่ 60 USD ซึ่งแพงกว่าที่แรก การันตีเลยว่าคนที่มาเรียนจะได้ทักษะการทำอาหารเวียดนามกลับไปอย่างแน่นอน

Da Nang Cooking Class

เป็นห้องเรียนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ แตกต่างจากโรงเรียนอื่นๆ นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์เต็มรูปแบบจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่นถึงสองคน คลาสจะเริ่มในช่วงเช้าหรือบ่าย โดยใช้เวลาประมาณห้าชั่วโมง คุณจะได้เที่ยวชมตลาดสดประจำท้องถิ่น ไปสวนผัก และเยี่ยมชมบ้านแบบดั้งเดิม หลังจากดื่มด่ำกับวัฒนธรรม เราจะได้มีโอกาสเตรียมมื้ออาหารง่ายๆ หลังจากซื้อวัตถุดิบสดจากตลาด

บทสรุป

อาหารเวียดนามอร่อยมาก อย่าลืมลองชิมอาหารแบบดั้งเดิมให้ได้มากที่สุดและล้างคอด้วยเบียฮอยสักแก้วหรือกาแฟเข้มข้นสักแก้ว และถ้าคุณตกหลุมรักอาหารเวียดนาม เช่นเดียวกับหลายๆ คน แอดแนะนำให้จองชั้นเรียนที่โรงเรียนสอนทำอาหารแห่งใดแห่งหนึ่งและนำอาหารกลับบ้าน