คู่มือเที่ยวฮานอยด้วยตัวเอง ฉบับอัพเดทล่าสุด 2567

ซินจ่าว กลับมาอีกครั้งกับคู่มือท่องเที่ยวจาก 12Go ในฉบับนี้เราจะพาคุณเตรียมตัวไปเที่ยวฮานอย เมืองหลวงประเทศเวียดนามกัน ใครอยากไปเที่ยวฮานอยด้วยตัวเอง แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรเตรียมตัวอย่างไร เดินทางไปยังไง ไปถึงฮานอยแล้วจะไปไหนมาไหนอย่างไร แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮานอยมีที่ไหนเด็ดๆบ้าง จะช้อปปิ้งที่ไหน เที่ยวหลายวันมีเวลาเยอะทำกิจกรรมอะไรดี เราได้ทำการรวบรวมข้อมูลทุกอย่างไว้ให้คุณแล้ว อ่านกันได้ที่นี่เลย!

ข้อมูลฮานอย

ฮานอย (Hanoi) ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ ต่อมาในปีพ.ศ. 2519 ได้กลายมาเป็นเมืองหลวงของเวียดนามมาจนถึงปัจจุบัน ฮานอยตั้งอยู่ในทางเหนือของประเทศเวียดนามบนริมฝั่งแม่น้ำแดง (Hong River) ประกอบไปด้วยพื้นที่รวมกว่า 3000 ตารางกิโลเมตร มีจำนวนประชากรมากกว่า 8 ล้านคน โดยอุตสาหกรรมที่สำคัญของฮานอย คือ เครื่องจักรต่างๆ ไม้อัด สิ่งทอ เคมีภัณฑ์ และสินค้าจากการหัตถกรรม

สภาพอากาศที่ฮานอย

ฤดูใบไม้ผลิของเวียดนามเหนือโดยรวมจะเริ่มประมาณเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 20 - 27 องศา เข้าสู่ฤดูฝนในช่วงเดือนพฤษภาคม ยาวไปจนถึงเดือนสิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 28 - 35 องศา ในช่วงนี้อากาศจะร้อนและมีฝนตกบ่อย จากนั้นในเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมจะเป็นฤดูใบไม้ล่วง อากาศแห้งและเย็นลงเรื่อยๆ อุณหภูมิอยู่ที่ 20 - 30 องศา เหมาะกับการเที่ยวชมธรรมชาติ ส่วนฤดูหนาวจะเริ่มในประมาณเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยที่ 10 - 22 องศา

การเตรียมตัวไปเที่ยวฮานอย

การที่เราจะไปเที่ยวฮานอยเองนั้น ต้องมีการวางแผนก่อนไปกันสักหน่อยเพื่อความพร้อม นอกจากการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักแล้ว นักท่องเที่ยวควรแลกเปลี่ยนเงินไทยเป็นเงินดองเวียดนาม (1 บาท มีค่าเท่ากับประมาณ 690 ดอง) หรือเตรียมบัตร travel card ไว้ใช้จ่ายระหว่างทริปที่ฮานอย อาจซื้อซิมการ์ดเตรียมไว้พอเครื่องลงที่นั่นจะได้มีอินเตอร์เน็ตใช้เลยและไม่ขาดการติดต่อระหว่างการท่องเที่ยว โหลดแอพสำหรับดูแผนที่บนมือถือ เช่น Google Map และวางแผนการเดินทางพร้อมจุดท่องเที่ยวที่ต้องการไปไว้บนแผนที่ท่องเที่ยวฮานอยของคุณ เพียงเท่านี้ทริปเที่ยวฮานอยของเราก็จะราบรื่นสุดๆแล้วล่ะ

การเดินทางไปฮานอย

จากไทยไปฮานอย

วิธีเดินทางจากไทยไปฮานอยที่เป็นที่นิยมที่สุดคือการนั่งเครื่องบิน เพราะสะดวกและรวดเร็วที่สุด มีทั้งบินตรงและต่อเครื่อง ผู้ให้บริการก็หลากหลาย โดยสายการบินที่มีเที่ยวบินไปฮานอยก็มีหลายเจ้า เช่น การบินไทย (Thai Airways) เวียดนามแอร์ไลน์ (Vietnam Airlines) แอร์เอเชีย (AirAsia) เวียดเจ็ทแอร์ (VietJet Air) เวียดทราเวลแอร์ไลน์ (Vietravel Airlines) อินดิโก (IndiGo) และ ฮานแอร์ (Hahn Air) เป็นต้น

เช็คเที่ยวบิน ดูราคาค่าตั๋วเครื่องบิน จองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย กับ 12Go
กรุงเทพ ไป ฮานอย
สุวรรณภูมิ ไป ฮานอย
ดอนเมือง ไป ฮานอย
เชียงใหม่ ไป ฮานอย

จากลาวไปฮานอย

วิธีถัดมาจะเป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักเดินทางที่แวะไปเที่ยวลาวก่อน และไปเที่ยวเวียดนามต่อ เนื่องจากยังไงลาวก็เป็นทางผ่าน นั่นคือการนั่งรถบัสหรือรถไฟ โดยขึ้นรถไปลาว เที่ยวลาวเสร็จแล้วนั่งรถจากลาวไปเวียดนามต่อ บางคนก็นั่งเครื่องบินไปลาว แล้วนั่งรถไปฮานอย หรือนั่งรถไปลาว แล้วนั่งเครื่องบินไปฮานอย คือไม่ว่าจะวิธีไหนก็สนุกและได้เที่ยวทั้งลาวทั้งเวียดนามแบบเน้นๆไปเลย

แวะเที่ยวลาวก่อน แล้วค่อยไปเวียดนาม?
จองรถบัส รถตู้ เครื่องบิน นั่งจากลาวไปฮานอยกับเราได้นะ
หลวงพระบาง ไป ฮานอย
เวียงจันทน์ ไป ฮานอย

การเดินทางในฮานอย

เดินเที่ยวฮานอย

หากสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต้องการจะไปอยู่ไม่ไกลมาก หรือไม่ได้รีบร้อนอะไร สามารถเดินไปได้เลย วิธีนี้ได้ประหยัดเงินไปในตัวอีกด้วยแน่ะ ใครสนใจเดินเที่ยวฮานอย อย่าลืมพกหมวกติดตัวไปด้วย เนื่องจากแดดที่นั่นก็ร้อนไม่แพ้ไทยเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าร้อน ส่วนคนที่จะเดินเที่ยวฮานอยในหน้าฝน แนะนำให้เตรียมร่มไปด้วยนะ จะได้เที่ยวไม่มีสะดุด

นั่งสามล้อถีบ

สามล้อถีบ หรือ ซิกโล (Xich Lo) ได้ฟีลมาเที่ยวเวียดนามเน้นๆ นั่งชิลๆ สบายมากเพราะมีคนพาไป ของหลายๆที่มีหลังคากันแดดกันฝนให้ในระดับหนึ่งด้วย ระหว่างทางก็ได้ชมวิว มองดูวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นแบบใกล้ชิด สามล้อถีบมีให้บริการตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ ในส่วนของราคานั้นต้องต่อรองกันเอาเองหน้างานนะ ระหว่างทริปฮานอยแนะนำให้ลอง เปิดประสบการณ์ใหม่สนุกๆดี

ปั่นจักรยาน

ตัวเลือกคนรักสุขภาพ การเช่าจักรยานมาใช้เดินทางในฮานอยก็เป็นอีกไอเดียที่ดี ได้ออกกำลังกายไปในตัว ปั่นสบายๆ รับลมสดชื่น แล้วยังได้ดื่มด่ำกับวิวไปตลอดทาง มีความคล่องตัวสูง ไปที่ไหนก็หาที่จอดได้ง่ายๆ อยากแวะที่ไหนก็จอดเลย หากไม่อยากหาเช่าก็สามารถนำจักรยานไปเองก็ได้นะ โหลดขึ้นเครื่องบินโลด ประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะเลยทริปนี้

ขี่มอเตอร์ไซค์

ที่เวียดนามคนนิยมเดินทางกันด้วยมอเตอร์ไซค์เยอะมากก นักท่องเที่ยวอย่างเราก็สามารถเข้าแก๊งกับเค้าได้เหมือนกัน ข้อดีก็คล้ายๆกับการเดินทางโดยจักรยานนั่นแหละ แต่จะเป็นการเช่ามอเตอร์ไซค์มาขับเที่ยวเอง วิธีนี้เหนื่อยน้อยกว่า ถึงจุดหมายปลายทางรวดเร็ว ใครอยากขี่จากไทยไปเที่ยวฮานอยเลยก็สามารถ ไปถึงแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่าเช่า ก่อนถึงเวียดนามจะแวะเที่ยวลาวก่อนก็ได้อีกด้วยแน่ะ

เช่ารถพร้อมคนขับ

สำหรับใครที่มองหาตัวเลือกที่มาพร้อมความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายขั้นสุด เช่ารถพร้อมคนขับไปเลยจ้า อยากไปไหนก็ได้ไป ไม่ต้องขึ้นรถลงเรือหรือรอใคร อยากแวะเที่ยวที่ไหนก็ตามใจ ถูกใจชาวเราเป็นที่สุด ราคาเหมาๆต่อวัน ปตกต่างกันไปในแต่ละผู้ให้บริการ ข้อดีอีกอย่างคือเราสามารถเลือกราคาที่ถูกใจแล้วจองล่วงหน้าได้เลย ไม่ต้องไปโบกรถหรือต่อราคาหน้างาน เริ่ดอยู่นะ

นั่งรถบัส

ราคาค่าใช้บริการจะขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท ซึ่งต่างก็สบายกระเป๋าทั้งนั้น ส่วนรถบัสนอนก็มีให้บริการในเส้นทางที่ต้องไปไกลหน่อย บนรถมักมีไวไฟและที่ชาร์จแบตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้บริการ แต่ว่าไม่มีห้องน้ำนะ ที่สำคัญหากใครมีกระเป๋าลากติดตัวไปควรเตรียมเงินค่านำกระเป๋าขึ้นรถไปกับเราด้วย โดยราคาค่ากระเป๋าจะประมาณเท่ากับค่าผู้โดยสารเลย

นั่งแท็กซี่

ใช้บริการรถแท็กซี่คือที่สุดของความสะดวกแล้ว เดินทางสบาย แอร์เย็นๆ ถึงจุดหมายก็ลง วิธีนี้จะเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ช่ำชองและรู้เท่าทันแท็กซี่เวียดนาม เพราะอาจต้องระวังโดนพาขับวน สลับแบงค์ ปรับมิเตอร์ ฯลฯ ที่สำคัญควรเรียกแท็กซี่ของบริษัทที่พอเชื่อถือได้ เช่น วีนาซัน (Vinasun) และ ไมลิญ (Mailinh) หากใครไม่อยากยุ่งยากก็ใช้บริการแอพเรียกรถไปเลย เช่น แกร็บ (Grab)

นั่งรถประจำทาง

นั่งรถโดยสารประจำทาง หรือ รถเมล์ ของที่นี่จะแบ่งออกเป็นสายที่วิ่งในท้องถิ่น สำหรับการเดินทางระยะสั้นๆ และสายเดินทางระหว่างเมือง ทั้งสองแบบล้วนราคาถูกมาก หากเดินทางท่องเที่ยวภายในเมืองฮานอยรถอาจแออัดสักหน่อย เพราะผู้โดยสารเยอะ สำหรับคนที่เที่ยวฮานอยจนอิ่มแล้วอยากไปเที่ยวเมืองอื่นต่อ สามารถนั่งรถเมล์สายระหว่างเมืองได้ แอร์เย็นฉ่ำ นั่งสบาย มีไวไฟให้ใช้ด้วย

เที่ยวอยู่เวียดนาม จะไปฮานอยต่อ?
จองรถไฟ รถบัส รถตู้ เครื่องบิน แท็กซี่ ไปเที่ยวฮานอยกับเราสิ!
ดานัง ไป ฮานอย
โฮจิมินห์ ไป ฮานอย

รวมสถานที่ท่องเที่ยวฮานอย

โอลด์ควอเตอร์ (Old Quarter)

โอลด์ควอเตอร์ ย่านเมืองเก่าฮานอย แหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดที่นักท่องเที่ยวมาฮานอยต้องแวะกันแทบทุกคน เดินกินและช้อปไปในท่ามกลางบรรยากาศสุดวินเทจ เข้มข้นไปด้วยกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์เวียดนามแบบดั้งเดิม ย่านนี้เป็นที่ตั้งของ ถนน 36 สาย (The 36 Old Streets) แหล่งช้อปของที่ระลึกและของกินหลากหลายและราคาถูกที่โด่งดัง ประตูเมืองโบราณฮานอย (O Quan Chuong) จุดเช็คอินสำคัญที่ถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมงดงาม ร้านอาหารอร่อยๆ คาเฟ่ชิคๆ ทั้งชาวฮานอยเองและนักท่องเที่ยวต่างมาเดินซื้อของกันคึกคัก

วัดบัคหม่า (Bach Ma Temple)

วัดโบราณที่ตั้งอยู่ในย่านโอลด์ควอเตอร์ ว่ากันว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง สร้างขึ้นในประมาณปี พ.ศ. 1335 โดยจักรพรรดิลี้ท้ายโต๋ เพื่อให้เกียรติแก่ม้าสีขาวที่พาท่านมาถึงพื้นที่ดังกล่าวที่เหมาะสมสำหรับการสร้างกำแพงเมืองแข็งแกร่ง โดยชื่อของวัดนั้นก็แปลว่าม้าสีขาวนั่นเอง ชมการตกแต่งขลิบสีทองสวยงามอร่ามบนโครงไม้ของตัววัด สัมผัสกับประวัติศาสตร์เมืองหลวงของเวียดนามและวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าที่ได้รับการรักษาไว้ที่สะท้อนจากการออกแบบ ร่วมสักการะเทพผู้พิทักษ์ลองโด (Long Do) เทพเม๊าทว่าย (Mau Thoai) และขงจื๊อ (Confucius) เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเองกันได้

อนุสรณ์สถานเรือนจำหว่าลอ (Hoa Lo Prison Relic)

เที่ยวโอลด์ควอเตอร์เสร็จ แนะนำมาต่อที่นี่ใกล้ๆ เรือนจำจากปีพ.ศ. 2439 ที่ฝรั่งเศษสร้างไว้เมื่อเวียดนามตกเป็นอาณานิคม เพื่อกังขังผู้คนที่ต่อต้านการปกครองของฝรั่งเศษและในเวลาต่อมาใช้จำจองเชลยศึกชาวอเมริกันในช่วงสงครามเวียดนามครั้งที่ 2 ปัจจุบันเรือนจำหว่าลอได้ถูกแบ่งสัดส่วนและกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ อาคารที่พัก และโรงแรม โดยในส่วนของพิพิธภัณฑ์นั้นจัดแสดงลักษณะการจำขังประเภทต่างๆ ห้องขังรวมพร้อมรูปปั้นนักโทษจำลอง อุปกรณ์ที่เคยถูกใช้ในการลงโทษ ทรมาณ และประหารชีวิตเหล่านักโทษ ข้าวของและเครื่องใช้ของนักโทษในอดีต

ทะเลสาบฮว่านเกี๊ยม (Hoan Kiem Lake)

ทะเลสาบฮว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ แลนด์มาร์คในใจกลางเมืองฮานอยท่ามกลางธรรมชาติเขียวสด เป็นสถานที่ฮอตฮิตสำหรับการพักผ่อนของชาวฮานอยและจุดท่องเที่ยวห้ามพลาด โดยนอกจากที่นี่จะสวยงามสดชื่นแล้ว ความน่าสนใจของทะเลสาบแห่งนี้คือตำนานที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบ ซึ่งเล่ากันไว้ว่าหลังจากที่จักรพรรดิเลเหล่ยได้ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ขับไล่ชาวจีนที่เคยมารุกราน ได้มีตะพาบยักษ์โผล่ขึ้นมาจากทะเลสาบแห่งนี้และบอกให้องค์จักรพรรดิส่งดาบคืนจ้าวมังกร จากนั้นดาบศักดิ์สิทธิ์ก็พุ่งเข้าไปในปากตะพาบและถูกนำกลับคืนลงสู่ใต้ทะเลสาบนั่นเอง

วัดหง็อกเซิน (Ngoc Son Temple)

วัดหง็อกเซิน หรืออีกชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันคือ วัดเนินหยก วัดสวยที่ตั้งอยู่บนเกาะในทะเลสาบฮว่านเกี๊ยม มีสะพานเทฮุก (The Huc) สีแดงสดเป็นตัวเชื่อมเข้ากับริมฝั่งแผ่นดิน ชมความงามของสถาปัตยกรรมสไตล์จีน ภายในวัดมีตะพาบยักษ์ที่ถูกสตัฟฟ์ไว้ ซึ่งชาวฮานอยเชื่อกันว่าตะพาบตัวนี้คือตัวเดียวกันกับในตำนานของทะเลสาบฮว่านเกี๊ยม นอกจากนี้ วัดวัดหง็อกเซินยังเป็นที่ตั้งของ อนุสาวรีย์ตรันคว็อกตวน แม่ทัพทหารที่เคยนำรบกับมองโกเลียในยุคที่เวียดนามถูกรุกราน

สวนลี้ท้ายโต๋ (Ly Thai To Park)

สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใกล้ๆทะเลสาบทะเลสาบฮว่านเกี๊ยม ที่ตั้งของอนุสาวรีย์จักรพรรดิลี้ท้ายโต๋ (Ly Thai To) ผู้ก่อตั้งเมืองทังลองที่ปัจจุบันคือฮานอยและรวบรวมประเทศเวียดนามให้เป็นปึกแผ่น ทางสวนเปิดให้ผู้คนมาเดินเล่น นั่งพักผ่อน ออกกำลังกาย สูดอากาศสดชื่น ชมต้นไม้น้อยใหญ่ที่ถูกปลูกไว้เพื่อให้ความสดชื่นร่มรื่น และน้อมรำลึกถึงท่านจักรพรรดิและเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ สวนลี้ท้ายโต๋มักจะคึกคักและเต็มไปด้วยชาวเมืองฮานอยและเหล่านักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเช้าและเย็นๆมืดๆที่คนจะเยอะมากเป็นพิเศษ

โรงละครหุ่นกระบอกน้ำทังลอง (Thang Long Water Puppet Theatre)

จุดเริ่มต้นของหุ่นกระบอกเวียดนามดังไกลไปทั่วโลก ที่นี่คือโรงละครเก่าแก่ที่จัดแสดงศิลปะวัฒนธรรมประจำชาติของประเทศเวียดนาม เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2512 ชมการเชิดหุ่นกระบอกไม้ที่ถูกแกะสลักลวดลายเป็นเอกลักษณ์และทาด้วยสีสันสวยงาม พริ้วไหวไปบนผืนน้ำ ถ่ายทอดเรื่องราวพื้นบ้านและตำนานของชาวเวียดนาม เคล้าไปกับเสียงดนตรีสไตล์เวียดนามแท้ๆ มาถึงเวียดนามทั้งทีจะพลาดได้ยังไง นอกจากนี้ โรงละครแห่งนี้ยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบฮว่านเกี๊ยม ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลสาบขึ้นชื่ออีกแห่งด้วย

โบสถ์เซนต์โจเซฟ (St. Joseph Cathedral)

ใกล้ๆทะเลสาบฮว่านเกี๊ยมยังมีอีกหนึ่งแลนด์มาร์คฮานอยที่พลาดไม่ได้ โบสถ์เซนต์โจเซฟเป็นศูนย์รวมใจของชาวโรมันคาทอลิก สถาปัตยกรรมงดงามด้วยแรงบันดาลใจจากมหาวิหารนอเทรอดามแห่งปารีสที่ถูกสร้างไว้ในสไตล์โกธิค (Gothic) ก่อตั้งขึ้นในยุคที่เวียดนามเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศษในประมาณปีพ.ศ. 2427 ตั้งชื่อตามชื่อของนักบุญองค์อุปถัมภ์ของประเทศเวียดนาม นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเช็คอินสวยๆกัน นอกจากนี้ ตัวโบสถ์ยังตั้งอยู่ในย่านที่เต็มไปด้วยร้านค้าและของกิน เก็บภาพกันเสร็จแล้วก็ช้อปต่อได้เลย อิอิ

จัตุรัสบาดิ่ญ (Ba Dinh Square)

จัตุรัสบาดิ่ญ หรือ จัตุรัสบาดิงห์ สถานที่ท่องเที่ยวในใจกลางเมืองฮานอย เป็นจัตุรัสที่ท่านโฮจิมินห์ ผู้นำเวียดนาม อ่านคำประกาศอิสรภาพเพื่อแสดงความเป็นไทของประเทศเวียดนามจากฝรั่งเศษในวันที่ 2 กันยายน พ.ศ.2488 หลังกองทัพทหารของเวียดนามได้รับชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยในวันที่ท่านประกาศอิสรภาพเวียดนามนั้น มีชาวเมืองกว่า 500000 คนที่ร่วมชุมนุมอยู่ภายในจัตุรัสร่วมกันเป็นสักขีพยานเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์ของชาติ ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้กลายมาเป็นแหล่งอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และเต็มไปด้วยคุณค่าทางจิตใจสำหรับชาวเวียดนาม

พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Museum)

พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์แห่งเมืองฮานอย ตั้งอยู่ในจัตุรัสบาดิ่ญ ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และของมีค่าต่างๆของท่านโฮจิมินห์ เหมาะสำหรับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เวียดนามและชีวประวัติของผู้นำประเทศเวียดนาม ถัดมาข้างๆจะเป็น สุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Mausoleum) สุสานใหญ่ซึ่งเป็นที่พักร่างของอดีตผู้นำ ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมที่แตกต่างไม่เหมือนสุสานอื่นใด จากการผสมผสานกันของสไตล์จากสุสานเลนินในรัสเซียและการออกแบบของเวียดนามเอง เข้าชมและศึกษาประวัติและความสำคัญของท่านโฮจิมินห์ สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ท่ามกลางเหล่าทหารในเครื่องแบบเต็มยศ

บ้านพักโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh’s Stilt House)

บ้านไม้ยกพื้นสูงที่ท่านโฮจิมินห์พักอยู่ในปีพ.ศ. 2497 ถึง 2501 นักท่องเที่ยวสามารถเดินมาเยี่ยมชมได้ง่ายๆจากสุสานโฮจิมินห์ในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น ชมความเป็นอยู่ของอดีตท่านผู้นำที่เรียบง่าย ในบ้านจัดแสดงห้องนอนและห้องอ่านหนังสือ เครื่องมือและเครื่องใช้ รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ ส่วนใต้ถุนบ้านเคยเป็นสถานที่จัดประชุมทางทหารและวางแผนการรบระหว่างการกอบกู้เอกราชในยุคสงครามเวียดนาม ศึกษาประวัติศาสตร์เวียดนามและชีวประวัติของท่านโฮจิมินห์ สดชื่นไปกับต้นไม้ร่มรื่นที่ท่านปลูกไว้รอบๆตัวบ้าน โดยรวมแล้ว สถานที่แห่งนี้แม้จะแลดูสมถะแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและทรงพลัง

เจดีย์เสาเดียว (One Pillar Pagoda)

ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ คือสถานที่ตั้งของเจดีย์เสาเดียว สามารถเดินมาเที่ยวที่นี่ต่อได้ภายในไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้นเอง เจดีย์เสาเดียว คือ วัดที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเจ้าแม่กวนอิม ชมสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์ ตัวศาลาวัดสร้างจากไม้ ตกแต่งสไตล์โบราณดั้งเดิม ตั้งอยู่บนเสาหินต้นเดียวกลางสระบัว มองดูคล้ายกับดอกบัวพุทธที่ผุดขึ้นอยู่กลางน้ำ การัณตีการออกแบบที่โด่ดเด่นไม่เหมือนใครด้วยรางวัลจากกินเนสส์บุ๊ค (Guinness Book of World Records) นอกจากการการออกแบบที่ชวนตะลึงงันแล้ว แลนด์มาร์คฮานอยแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ฮอตสำหรับผู้ศรัทธาที่นิยมมาไหว้ขอลูกกับเจ้าแม่กวนอิมกัน

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำวินเพิร์ล (VinKE & Vinpearl Aquarium Times City)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งแรกของฮานอย มีความทันสมัยที่สุดในเวียดนาม การันตีโดยรางวัลมากมาย ที่นี่คือสถานที่เที่ยวกลางเมืองฮานอยขวัญใจนักเดินทางแบบครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มที่มีเด็กเล็ก เนื่องจากว่านอกจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเต็มไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิดที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว เค้ายังมีการจัดแสดงโชว์นางเงือกใต้น้ำ โชว์ให้อาหารปลา และให้อาหารเพนกวิน กิจกรรมที่สนุกและได้ความรู้ก็เยอะไม่แพ้กันไปอีก ทั้งโซนให้อาหารเต่า โซนใกล้ชิดกับสัตว์เลื้อยคลาน โซนสำรวจอาชีพในฝันสำหรับเด็กๆ ฯลฯ ใครมองหาที่เที่ยวฮานอยแบบในร่มแนะนำที่นี่เลย

โรงละครโอเปร่าฮานอย (Hanoi Opera House)

ปัจจุบันโรงละครแห่งนี้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรม สถานที่จัดประชุม สัมมนา ประกาศข่าว และต้อนรับแขกทางการเมือง เข้ารับชมการจัดแสดงต่างๆพร้อมดื่มด่ำไปกับสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโรงละครโอเปร่าในปารีส หรือ โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย (Palais Garnier) การจัดวางสถานที่ภายในตัวอาคารที่คล้ายกับโรงหนังยุโรปสมัยก่อน การตกแต่งสไตล์วิจเทจที่งดงามระยับของเครื่องตกแต่งและกระเบื้องละเอียดปราณีตสไตล์อิตาเลียน โคมไฟระย้าที่เคลือบด้วยทองและทองแดงโบราณ เก้าอี้นั่งแบบฝรั่งเศษยุคคริสต์ศตวรรษที่ 19 ฯลฯ

ทะเลสาบตะวันตก (West Lake)

ทะเลสาบตะวันตก หรือ ทะเลสาบเวสต์เลค ทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของฮานอย เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ทำกิจกรรม เดินเล่นชมสวน และออกกำลังกาย เช่นปั่นจักรยาน เป็นต้น ด้วยความที่ถูกล้อมรอบไปด้วยสวนร่มรื่น ร้านอาหาร ความบันเทิง และที่พัก ทำให้ที่นี่ทั้งอากาศดี มีความเงียบสงบแต่ก็คึกคัก เต็มไปด้วยผู้คนที่นิยมมา hang out กันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้าตรู่หรือยามเย็น ที่สำคัญจากที่นี่สามารถเดินไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์หลายแห่งที่อยู่ใกล้ๆได้สบาย เช่น เจดีย์เฉินก๊วก (Tran Quoc Pagoda) ที่ตั้งอยู่บนริมทะเลสาบเลย

วิหารวรรณกรรม (Temple Of Literature)

วิหารวรรณกรรม หรือชื่อเวียดนามคือ วัดวันเหมียว (Van Mieu) อดีตวัดขงจื๊อและมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศเวียดนาม สร้างขึ้นในประมาณปีพ.ศ. 1613 ชมความงามของสถาปัตยกรรมโบราณ ตั้งแต่ซุ้มประตูไปจนถึงอาคารของตัววิหาร โดยซุ้มประตูทางเข้าของที่นี่เป็นภาพที่ถูกใช้อยู่บนหลังแบงค์หนึ่งแสนดองของเวียดนาม แสดงให้เป็นว่าเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่สำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ วิหารวรรณกรรมเป็นที่ประทับของรูปปั้นเทพขงจื๊อ องค์เทพที่ว่ากันว่าหากมาทำการสักการะแล้วจะประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาเล่าเรียน

ป้อมปราการหลวงพระราชวังทังลอง (Imperial Citadel of Thang Long)

มรดกโลกทางวัฒนธรรมอายุกว่าพันปีที่ขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก (UNESCO) ในปีพ.ศ. 2553 ป้อมปราการหลวงพระราชวังทังลองถูกสร้างขึ้นด้วยหินล้วนๆ เป็นวังหินสุดท้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังคงไว้ซึ่งความสมบูรณ์ สถาปัตยกรรม งานแกะสลัก และการตกแต่งสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลจากจีน ในอดีตพระราชวังทังลองเคยเป็นศูนย์กลางอารยธรรมลุ่มแม่น้ำแดง ปัจจุบันที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการศึกษาวัฒนธรรมที่เก่าแก่ของประเทศเวียดนาม ชมความงามที่มีเสน่ห์ ตื่นตาไปกับความยิ่งใหญ่น่าเกรงขามของโบราณสถานแห่งนี้

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์กองทัพทหารเวียดนาม (Vietnam Military History Museum)

หนึ่งใน 7 พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของประเทศเวียดนามที่ตั้งอยู่ในกลางเมืองฮานอย ร่วมย้อนอดีตไปกับการจัดแสดงโบราณวัตถุ ซากอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร เอกสาร และภาพทางการทหารรวมพันๆชิ้นที่เคยถูกใช้ในยุคสงครามต่อต้านการปกครองของฝรั่งเศสและช่วงสงครามเวียดนาม เรียนรู้เกี่ยวกับการสู้รบที่ดุเดือด ยุทธศาสตร์และศิลปะการทหาร เกียรติประวัติของวีรชน และความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพประเทศต่างๆ ความน่าสนใจเต็มเปี่ยมทำให้ที่นี่เป็นทั้งศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เวียดนาม จุดท่องเที่ยวยอดฮิต และสถานที่นัดพบของเหล่านักท่องเที่ยวจากทั้งในและนอกประเทศ

ทำเนียบประธานาธิบดี (Presidential Palace)

ตึกแบบโคโลเนียล (Colonial Style) สีเหลืองมัสตาร์ดนวลน่าถ่ายรูป สร้างโดยฝรั่งเศสในประมาณปีพ.ศ. 2444 เพื่อใช้เป็นที่ทำการสำหรับผู้สำเร็จราชการจากประเทศฝรั่งเศส ก่อนที่จะกลายเป็นที่ทำงานของประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ส่วนปัจจุบันอาคารนี้เป็นทั้งที่ทำการของรัฐบาลเวียดนามและสถานที่ต้อนรับแขกทางการเมือง เนื่องจากยังมีการใช้งานอยู่จึงไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้านใน แต่ด้วยความที่การออกแบบของตึกและสีที่สวยงามนั้นช่างดึงดูดใจ นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาเก็บรูป เช็คอินกันด้านหน้าและถนนด้านข้างทำเนียบกันแบบล้นหลาม

เจดีย์เฉินก๊วก (Tran Quoc Pagoda)

เจดีย์อิฐของวัดเฉินก๊วก (Tran Quoc Temple) วัดพุทธมหายานอายุหลายร้อยปี ความสีแดงเข้มของเจดีย์บวกกับสถาปัตยกรรมสไตล์จีนโบราณและความสูง 15 เมตร ทำให้เจดีย์นี้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คฮานอยที่สวยงามโดดเด่นแสนสะดุดตา สามารถมองเห็นได้จากระยะในไกลๆเลย นอกจากนี้ด้วยความที่ตัวเจดีย์ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบตะวันตก ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้สวยชวนตะลึงยิ่งขึ้นไปอีก หากมาเที่ยวฮานอยไม่ควรพลาด แวะมาชมวิวเจดีย์สวยสูงตระหง่านริมทะเลสาบ ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สุดร่มรื่น สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสริมสิริมงคล และเดินชมสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของพุทธสถานเก่าแก่

ถนนทางรถไฟฮานอย (Hanoi Train Street)

ถนนทางรถไฟฮานอย หรือ ฮานอย เทรน สตรีท จุดเช็คอินฮานอยสุดชิคและหนึ่งในชุมทางรถไฟที่อายุกว่าเก่าแก่กว่าร้อยปีที่ฝังตัวอยู่ในย่านเมืองเก่าฮานอย พบกับทางรถไฟเล็กๆแต่ขึ้นชื่อไม่น้อย ขนาบข้างไปด้วยร้านค้า ร้านขายอาหารท้องถิ่น คาเฟ่เก๋ๆกว่า 50 ร้าน และบ้านเรือนที่อัดแน่นเรียงรายกันสองข้างทาง นักท่องเที่ยวในเมืองฮานอยนิยมมาถ่ายรูปเท่ๆกับทางรถไฟ เก็บภาพคู่กับรถไฟแบบใกล้ชิด นั่งจิบกาแฟบนริมทางรถไฟแบบได้บรรยากาศที่แตกต่าง บรรยากาศคึกคักฟีลวินเทจ น่าเดินเล่นขนาดนี้ต้องมาแล้วแหละ ส่วนใครที่กังวลเรื่องความปลอดภัยจากรถไฟก็สบายใจได้ เวลารถไฟจะมาเขาจะประกาศเตือนเราก่อน

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติเวียดนาม (Vietnam National Fine Arts Museum)

เอาใจสายอาร์ตเที่ยวฮานอยกันหน่อยกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติเวียดนาม แหล่งเรียนรู้และหนึ่งในศูนย์รวมวัฒนธรรมของเวียดนาม อาคารสวยสะดุดตาตั้งแต่ภายนอก ส่วนข้างในจัดแสดงงานศิลปะเวียดนามหลากหลายแขนง มีทั้งภาพวาด งานปั้นมือ งานแกะสลัก งานหล่อสามมิติ และงานกราฟฟิกต่างๆ จากวัสดุนานาชนิดตั้งแต่หินไปยันเซรามิก รวมผลงานศิลปะของศิลปินชาวเวียดนามจากสมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่นี่คือพื้นที่ค่อนข้างกว้างใหญ่มาก ด้วยพื้นที่จัดแสดงทั้งหมดประมาณ 3000 ตารางเมตร ใครจะมาเที่ยวที่นี่อาจต้องเผื่อเวลาเยอะๆหน่อย จะได้เงินครบทุกเม็ด เด็ดๆทั้งนั้น

วัดกวานแถ่งห์ (Quan Thanh Temple)

วัดจีนลัทธิเต๋าเก่าแก่ ถูกสร้างขึ้นในช่วงประมาณระหว่าง พ.ศ. 1001-1100 เพื่อเป็นสถานที่สำหรับบูชาเทพเจ้าเสินหวู่ (Zhenwu) ที่ตามความเชื่อคือเทพผู้พิทักษ์ประจำทิศเหนือ ให้มนุษย์อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข คอยปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป ทางเข้าวัดจะเป็นซุ้มประตูสีขาวสวยงามยิ่งใหญ่อลังการ เดินผ่านเข้าไปจะพบกับวิหารที่สวยแปลกตา เงียบสงบ ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติร่มรื่น ส่วนรูปปั้นของเทพเสินหวู่จะอยู่ด้านในวิหารอีกที นักท่องเที่ยวสามารถแวะมานมัสการเทพเสินหวู่ พร้อมสัมผัสกับความสงบสุขทั้งทางกายและใจ ที่สำคัญสถาปัตยกรรมสไตล์จีนของที่นี่คือถ่ายรูปสวยจริงๆ

ป้อมปราการโก๋ลวา (Co Loa Citadel)

ย้อนเวลากลับไปในอดีตที่ป้อมปราการโก๋ลวา อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรเอาลักและศูนย์รวมความเจริญเวียดนามในปีพ.ศ. 295 นอกจากความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์แล้ว สถานที่แห่งนี้ยังมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและซับซ้อน กำแพง คูเมือง และรั้วของป้อมนี้ต่างก็ขึ้นชื่อเรื่องความงง ให้ฟีลเหมือนกับว่าเราเดือนอยู่ในเขาวงกตยังไงยังงั้น ภายในป้อมเป็นที่ตั้งของวัดอานเซืองเวือง (An Duong Vuong Temple) สถานที่สำมหรับสักการะกษัตริย์อานเซืองเวือง ที่ตามตำนานคือผู้ก่อตั้งป้อมปราการโก๋ลวา ส่วนด้านนอกรอบๆป้อมนั้นคือสวนเขียวขจีที่ชาวเมืองฮานอยและนักท่องเที่ยวต่างก็นิยมมานั่งปิคนิคกัน

แหล่งช้อปปิ้งฮานอย

ย่านโอลด์ควอเตอร์

ย่านโอลด์ควอเตอร์ที่เป็นศูนย์รวมทุกสิ่ง นอกจากร้านอาหารพื้นเมือง คาเฟ่ สตรีทฟู้ด ของกินจุบจิบ ผัก ผลไม้ และที่พัก ย่านนี้ยังเป็นที่อยู่ของถนน 36 สาย (The 36 Streets) แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่และคึกคักที่สุดในฮานอย ถนนเล็กๆที่เชื่อมถึงกันบนความซับซ้อนที่ไม่มีแบบแผนชัดเจน แต่ละถนนต่างก็มีชื่อที่สอดคล้องกับวัฒนธรรม อาชีพ และประเภทของสินค้าที่วางขายบนถนนนั้นๆ มาช้อปกระจุยกันได้ที่นี่เลย โดยเฉพาะใครที่มองหาสินค้างานหัตถกรรม เช่น เสื่อ เครื่องเย็บปักถักร้อย ผ้าไหม เครื่องเงิน ฯลฯ แม้แต่ร้านขายดอกไม้ เครื่องยาจีน เสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า ของเล่น ก็มากันหมด มีไปถึงเครื่องมือช่างและทุกอย่างที่คุณต้องการ

ถนนเส้นที่ฮอตๆหน่อยจะเป็น ถนนดงซวน (Dong Xuan Street) ที่อยู่ของตลาดนัดดงซวน (Dong Xuan Market) ถนนฮั่งบั๊ก (Hang Bac Street) ถนนห่างเดิว (Hang Dau Street) ที่ตลาดนัดกลางคืนฮานอย (Hanoi Weekend Night Market) ฝังตัวอยู่ ถนนห่างซา (Hang Da Street) ถนนห่างซาย (Hang Gai Street)

ละแวกใกล้เคียงย่านโอลด์ควอเตอร์

หากเดินถัดออกมานอกย่านโอลด์ควอเตอร์ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เพียงนิดเดียวเท่านั้น จะมีถนนงาเทอ (Nha Tho Street) ซึ่งมีอีกชื่อคือ ถนนโบสถ์ หรือ เชิร์ชสตรีท (Church Street) ถนนที่ตั้งของโบสถ์เซนต์โจเซฟซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งฮานอยอีกที่ที่อัดแน่นไปด้วยสินค้าน่าซื้อ เดินห่างออกมาอีกแล้วข้ามทะเลสาบทะเลสาบฮว่านเกี๊ยมมาอีกฝั่ง จะเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าตรังเตียน (Trang Tien Plaza) แหล่งช้อปน่าแวะอีกที่ ส่วนถัดจากตรังเตียนพลาซ่าไกลออกมาอีกนิดจะมีห้างทับทิม หรือ รูบี้พลาซ่า (Ruby Plaza) เรียกได้ว่ามาเดินสายซื้อของแถวนี้รับรองได้ของติดไม้ติดมือแน่นๆกันไปเลย ของกินก็อย่างเยอะ เติมพลังช้อปได้ตลอดทาง

กิจกรรมน่าสนใจในฮานอย

นั่งรถบัสชมเมือง

ที่ฮานอยจะมีรถบัสสองชั้นที่จะพาคุณเที่ยวชมรอบๆเมือง พร้อมเครื่องบรรยายเสียงที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมฮานอยไปตลอดทาง รถบัสนำเที่ยวจะพาเหล่านักท่องเที่ยวชมสถานที่ฮอตฮิตและแลนด์มาร์คต่างๆในฮานอย หากคุณอยากลงไปเที่ยวตามจุดต่างๆก็สามารถทำได้ โดยจำนวนครั้งที่สามารถขึ้นลงได้จะขึ้นอยู่กับประเภทของบัตร มีทั้งเหมาเป็นรายวัน บัตร 4 ชั่วโมง บัตรรอบเดียวที่ไม่สามารถขึ้นลงตามจุดเที่ยวได้ ฯลฯ กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าอยากแวะเที่ยวที่ไหนบ้าง หรืออยากชมเมืองแบบรวมๆ นั่งสบายๆ พร้อมรับฟังข้อมูลของสถานที่ต่างๆเพลินๆ

เล่นบอร์ดเกม

เที่ยวฮานอยเสร็จทำอะไรดีตอนบ่ายๆเย็นๆ? หากคุณเป็นสายบอร์ดเกมลองไปที่ร้านเดอะเนสท์ (The Nest Board Game Cafe) ร้านดังในฮานอย เกมเยอะและหลากหลาย ทางร้านเค้าอัพเดทคอลเลกชันใหม่ๆตลอด ภายในตกแต่งน่ารัก พนักงานใจดีเป็นกันเอง ภาษาอังกฤษดี เครื่องดื่มของร้านก็อร่อย

เล่นเอสเคปรูม (Escape Room)

มาบริหารสมองกันหน่อยกับเอสเคปรูม หรือ เกมห้องปริศนา ดื่มด่ำไปกับเนื้อเรื่องและฉากเสมือนจริง พร้อมไขปริศนาเพื่อหาทางหนีออกมาจากห้องโดยใช้ทักษะทั้งทางกายและไหวพริบทั้งหมดที่คุณมี กิจกรรมนี้ทั้งสนุก ตื่นเต้น และท้าทายสุดๆ ในฮานอยมีเอสเคปรูมดังๆอยู่หลายเจ้า เช่น Miss Terry, Trap Vietnam, Seen Escape ฯลฯ ต่างก็คุณภาพเน้นๆทั้งนั้นเลย

เล่นมินิกอล์ฟ

มินิกอล์ฟ กิจกรรมที่เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมือโปร คล้ายๆกับการตีกอล์ฟนั่นแหละ แต่เน้นความสุข ใช้เวลาเล่นไม่นาน จะมากับครอบครัว เพื่อน หรือแฟนก็เล่นกันได้ทุกคนเลย มาหนุกๆกับมินิกอล์ฟในฮานอยกันได้ที่เวสต์เลคมินิกอล์ฟ (Westlake Mini Golf) สนามมินิกอล์ฟกลางแจ้ง

เข้าสปา

หากมีเวลาว่าง เข้าร้านสปาปรนนิบัติผิวกายและฮีลใจกันหน่อยเป็นไง ในฮานอยร้านสปาเยอะมาก มีให้เลือกใช้บริการอยู่แทบทุกที่เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใกล้ๆแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ราคาค่าบริการแต่ละเจ้าก็สมเหตุสมผล บริการดี เอาใจใส่ลูกค้าสุดๆ

เข้าคาสิโน

กิจกรรมในฮานอยที่เหมาะสำหรับคนที่หาอะไรทำช่วงกลางคืน แนะนำ สตาร์ดัสท์ อี-เกมมิ่ง คลับ (Stardust E-gaming Club) คาสิโนที่เครื่องเล่นหลากหลาย อยากเล่นเกมอะไรก็มี ว่ากันว่าเป็นคาสิโนที่สะอาดและทันสมัยที่สุดในเมือง คนก็ไม่แน่นจนเกินไป บรรยากาศดีและผ่อนคลาย ที่สำคัญนักท่องเที่ยวต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบริการที่นี่คือดีเป็นเริ่ดและอาหารอร่อย

เข้าคลาสเรียนเวิร์คช็อป

ทำงานฝีมือ

เรียนทำมีด

ลองมาเรียนทำมีดกันไหมล่ะ กิจกรรมแปลกแหวกแนวไม่ซ้ำใคร เรียนรู้การเลือกใช้วัสดุสำหรับทำมีด ทดลองตีมีดเองกับช่างตีเหล็ก ทำเสร็จแล้วได้ผลงานตัวเองกลับบ้านไปใช้ด้วยนะ อย่างเท่อ่ะ คลาสเวิร์คช็อปทำมีดส่วนใหญ่จะเป็นแบบส่วนตัว ดังนั้นหากใครสนใจควรทำการจองล่วงหน้านะ

หัดทำเครื่องปั้นดินเผา

เรียนการทำเครื่องปั้นดินเผาจากขั้นตอนแรกจนถึงขึ้นตอนสุดท้ายเพื่อทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ จากผสมดินและน้ำในสัดส่วนที่ลงตัว การใช้แป้นหมุนเพื่อขึ้นรูปทรง เทคนิคการลงสี ไปจนถึงการเผา เปื้อนหน่อยแต่รับรองสนุกแน่ ใครสนใจลองไปที่สตูดิโอ Authentic Bat Trang ดูนะ

เข้าสตูดิโอวาดภาพ

ปลดปล่อยจินตนาการเหนือชั้นของคุณออกมากับกิจกรรมสุดชิว เข้าสตูดิโอแล้วนั่งวาดรูป ระบายสีเพลินๆ ทางร้านมีอุปกรณ์ โต้ะ และเก้าอี้นั่งให้พร้อมครบครันทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องวาดรูปเก่งหรืออะไรเลย สามารถเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ เพียงคุณพาตัวและหัวใจเดินเข้าไปก็สนุกได้ยาวๆแล้วล่ะ

ลองทำเครื่องประดับ

ใครที่ผีมือละเอียดปราณีต มาทำเครื่องประดับให้ตัวเองด้วยฝีมือของตัวเองหน่อยเป็นไง มีให้เลือกหลากหลายสตูดิโอเลย บางเจ้าก็เป็นคลาสสอนทำเครื่องประดับเงิน บางที่ก็เป็นเซรามิก แบบสบายๆหน่อยก็จะเป็นพวกร้อยลูกปัด อยากได้ตุ้มหู กำไล หรือแหวน ฯลฯ เลือกได้ตามความต้องการ ทำเสร็จแล้วได้ของกลับบ้านไปใช้ด้วย

ทำเครื่องหนัง

เรียนตัดเย็บเครื่องหนังเพื่อทำไว้ใช้เองก็น่าสนใจไม่น้อยนะ ไม่ว่าจะกระเป๋าหนัง เข็มขัดหนัง กำไลหนัง หรือเครื่องหนังอื่นๆ สามารถเข้าไปลองฝึกวิชา แล้วรับประสบการณ์สนุกๆพร้อมความรู้กันได้ที่สตูดิโอต่างๆในฮานอย อย่าลืมจองก่อนเข้าไปนะ

แกะสลัก

เวิร์คช็อปที่เราจะได้ทำงานแกะสลักมีอยู่หลายประเภท เช่น แกะสลักไม้เพื่อทำเป็นตุ๊กตา ภาพแกะสลัก ถ้วยชาม แจกัน หรือของแต่งบ้านต่างๆ บางคลาสเราจะได้แกะสลักวัสดุอื่นๆ เช่น ทำแสตมป์ เป็นต้น ทั้งสนุกทั้งได้ฝึกฝีมือ ใครสนใจก็จัดไป

เรียนถ่ายภาพแบบอนาล็อก

ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับกล้องอนาล็อกจากในอดีตจนถึงการใช้งานในปัจจุบัน วิธีถ่ายภาพด้วยกล้องอนาล็อก การล้างรูป และวิธีเก็บรักษาภาพถ่าย เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจการถ่ายรูปแบบวินเทจๆและผู้ที่ชื่นชอบกล้องและอุปกรณ์ถ่ายรูปต่างๆ แนะนำให้ไปลองที่ Hanoi Darkroom

ชิมกาแฟ

ที่ Su Quan Roastery เขามีจัดคลาสชิมกาแฟล่ะ รับฟังเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของกาแฟเวียดนาม ลองทำกาแฟเวียดนามเมนูต่างๆ เช่น กาแฟไข่ กาแฟขึ้นชื่อของประเทศเวียดนาม ชิมกาแฟหลากหลายสายพันธุ์ ชมอุปกรณ์ที่ใช้ในการบดและชง เรียนไปสนุกไป จิบกาแฟไปด้วยตลอดอีกต่างหาก สายกาแฟคืออย่างฟิน

ทำอาหาร

เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบอาหารที่ใช้ในเวียดนาม พืชผักสายพันธุ์ของเวียดนาม เทคนิคการทำอาหารต่างๆ จากนั้นลงมือทำอาหารด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นจนจบ เสร็จแล้วได้ทานอาหารเวียดนามฝีมือตัวเองอีกแน่ะ อยากอร่อยแล้วได้ความรู้แนะนำให้ลองเลย

บทส่งท้าย

เมืองหลวงของเวียดนามนี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ทั้งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเวียดนามเข้มข้น สนุกคึกคัก ชาวเมืองเป็นมิตรและสุภาพ จะเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก ที่เที่ยวเยอะและหลากหลาย จะเที่ยวเองก็ง๊ายง่าย แหล้งช้อปก็ครอบคลุมทั้งของกินเริศรส ของใช้ และของฝากน่าประทับใจ กิจกรรมที่มากมาย ทำให้ไม่มีเวลาให้นั่งเบื่อแน่นอน 12Go หวังว่าคู่มือเที่ยวฮานอยฉบับนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่วางแผนทริปเที่ยวฮานอยอยู่ ให้การเดินทางของคุณราบรื่นและเต็มไปด้วยความสนุกสุขสันต์!

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฮานอย

เที่ยวฮานอยเดือนไหนดี

เที่ยวฮานอยช่วงไหนดีนะ? ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะนิยมเที่ยวฮานอยหน้าหนาวกัน หรือประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม เนื่องจากอากาศจะเย็นสบายกำลังดี อยู่ที่ประมาณ 10 - 22 องศา ทำให้เวลาเดินไปไหนก็ไม่เหนื่อยมาก รองลงมาคือช่วงฤดูใบไม้ผลิในช่วงมีนาคมถึงเมษายน เพราะอากาศอบอุ่นและยังและไม่มีฝนตก อุณหภูมิก็ไม่ร้อนมาก ประมาณ 20 - 27 องศา เหมาะสำหรับการเที่ยวธรรมชาติ แต่ถ้าหากจะให้จัดอันดับช่วงที่ฮานอยฮอตที่สุดนั้น จะเป็นประมาณช่วงสิ้นปี หรือเดือนธันวาคมนั่นเอง

เดินทางในฮานอยยังไง

การเดินทางในฮานอยนั้นมีหลายวิธี วิธีที่ประหยัดที่สุดคือ เดินเลยจ้า ถ้าสถานที่ๆจะไปอยู่ติดกันและไม่ไกล หรือนักท่องเที่ยวสามารถนำจักรยานไปปั่นที่ฮานอย ก็จะสามารถประหยัดค่าเดินทางไปได้ค่อนข้างมาก ส่วนวิธีที่ประหยัดรองลงมาคือเช่าจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ ซึ่งมีข้อดีคือได้ความคล่องตัวและไม่แพง บางคนก็ชอบนั่งรถเมล์ ใช้บริการรถบัส หากใครอยากได้ฟีลนักท่องเที่ยวต้องลองนั่งสามล้อถีบ ส่วนวิธีที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูงที่สุดคือเช่ารถ อาจเช่าพร้อมคนขับหรือไม่มีคนขับก็ได้ ราคาก็จะต่างกันไป หรือจะใช้บริการเรียกแท็กซี่ก็สะดวกดีเหมือนกัน

เที่ยวฮานอย 1 วัน ไปไหนดี

เมืองฮานอยนั้นเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว ดังนั้นสถานที่ๆน่าไปสำหรับแต่ละคนจะต่างกันตามจุดประสงค์และความต้องการ เช่น ถ้าเน้นช้อปปิ้งแนะนำไปเดินแถวย่านเมืองเก่า สายบุญควรแวะวัดบัคหม่า วัดหง็อกเซิน วัดเจดีย์เสาเดียว วัดเฉินก๊วก และ วัดกวานแถ่งห์ หากคุณชอบเรียนรู้ประวัติศาสตร์ อนุสรณ์สถานเรือนจำหว่าลอ สวนลี้ท้ายโต๋ จัตุรัสบาดิ่ญ พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ บ้านพักโฮจิมินห์ พระราชวังทังลอง พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์กองทัพทหารเวียดนาม ป้อมปราการโก๋ลวา คือที่ของคุณ ส่วนคนรักศิลปะต้องไม่พลาดโรงละครหุ่นกระบอกน้ำทังลอง ถนนทางรถไฟฮานอย และพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติเวียดนาม เป็นต้น

ไปฮานอย กินอะไรดี

มาเวียดนาม ก็ต้องลองอาหารพื้นเมืองเวียดนามสิจริงไหม นอกจากเฝอและแหนมเนืองที่เชื่อว่าคนไทยเรารู้จักกันเป็นอย่างดี เวียดนามเค้ามีเมนูเด็ดอีกมาก เช่น ก๋วยเตี๋ยวบุ๋นเรียว (Bun rieu) ปลาทอดจ่าก๋าหลาหว่อง (Cha ca la vong) ขนมจีนหมูย่างบุ๊นจ๋า (Bun cha) ข้าวเกรียบปากหม้อแบ๋งก๋วน (Banh cuon) ฯลฯ คือมีหลากหลายเมนูที่ควรได้ลิ้มรสกันสักครั้ง แล้วจะติดใจเมื่อรู้ว่าอาหารเวียดนามแท้ๆอร่อยขนาดไหน

ซื้ออะไรดีที่ฮานอย

สิ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อกลับไปเป็นของฝากจากฮานอยส่วนใหญ่แล้วเป็นของที่หาจากที่อื่นไม่ได้ง่ายๆ หรือหาซื้อได้แค่ในฮานอยหรือประเทศเวียดนามเท่านั้น เช่น ชุดอ่าวหญ่าย หมวกงอบ กระเป๋าผ้า สินค้าแฮนด์เมดสไตล์เวียดนาม โคมไฟเวียดนาม ฯลฯ หากเป็นของกินก็จะขาดกาแฟเวียดนามที่รสชาดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปไม่ได้ หอมกรุ่นสุดนัว ซื้อที่เวียดนามราคาถูกมาก ชาเวียดนามก็หอม ขมแบบพอดีๆ ขนมถั่วเขียวก็น่าซื้อกลับไปเป็นของฝาก แล้วยังมีเยลลี่เวียดนามรสผลไม้ชื่อดังที่พลาดไม่ได้ ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเวียดนามก็อร่อยไม่แพ้ประเทศไหนเลยล่ะ