คู่มือเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง ฉบับอัพเดทล่าสุด 2567

รวมข้อมูลการเตรียมตัวไปเที่ยวเกาหลี อากาศและอุณหภูมิของประเทศเกาหลี ที่เที่ยวเกาหลีในโซล ปูซาน เมียงดง ฮงแด ฯลฯ การเลือกที่พักในเกาหลี อาหารเกาหลีห้ามพลาด ของฝากเกาหลี เช็คกันได้ที่นี่เลย!

ข้อมูลประเทศเกาหลีใต้

ประเทศเกาหลีใต้มีประชากรประมาณ 52 ล้านคน ตั้งอยู่ในเขตเอเชียตะวันออก พรมแดนติดกับประเทศเกาหลีเหนือและประเทศญี่ปุ่น ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาและที่ราบลุ่ม และเต็มไปด้วยเกาะประมาณสามพันเกาะ ประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีวัฒนธรรมที่โดดเด่น มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ติดอันดับต้นๆของโลก ระบบขนส่งสาธารณะมีคุณภาพ มีรถไฟฟ้าความเร็วสูง การศึกษาของประชาชนและทักษะแรงงานเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ที่สำคัญคือทิวทัศน์ที่สวยงาม และอาหารอร่อย หากใครมีแพลนจะเดินทางไปเที่ยวเกาหลีครั้งแรก อ่านคู่มือการเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองฉบับสมบูรณ์ได้ที่นี่เลย 12Go ได้รวบรวมข้อมูลไว้ให้คุณแล้ว

อากาศประเทศเกาหลีใต้

อากาศที่ประเทศเกาหลีใต้ในแต่ละเดือนนั้นแตกต่างกันออกไป เนื่องจากที่เกาหลีมีทั้งหมด 4 ฤดูกาล

อากาศและอุณหภูมิในแต่ละเดือน

มกราคม กุมภาพันธ์

ช่วงฤดูหนาว อาจมีหิมะตกบ้าง อุณหภูมิที่โซลโดยเฉลี่ยคือ -5 ถึง 7 องศา
นับเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการเล่นสกีและแช่น้ำร้อน

มีนาคม

จุดเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ อาจมีลมหนาวบ้างเป็นครั้งคราว อุณหภูมิที่โซลโดยเฉลี่ยคือ 2 ถึง 12 องศา ช่วงปลายเดือนดอกซากุระมักจะเริ่มบานเกือบพร้อมๆกันทั่วประเทศเลย ถ่ายรูปสวยมาก แต่เนื่องจากว่าสภาพอากาศนั้นไม่แน่นอน จึงควรเช็คพยากรณ์อากาศ และติดตามข่าวล่าสุดก่อน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมชมเทศกาลซากุระบานได้ที่แม่น้ำฮัน

เมษายน

อากาศเริ่มอุ่นขึ้น อุณหภูมิที่โซลโดยเฉลี่ยคือ 7 ถึง 17 องศา ดอกซากุระอาจบานต่อเนื่องในช่วงต้นเดือน (ควรเช็คพยากรณ์อากาศ และข่าวล่าสุดก่อน)

พฤษภาคม

เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิอย่างเต็มรูปแบบ อุณหภูมิสูงขึ้นอีก ที่โซลโดยเฉลี่ยคือ 12 ถึง 22 องศา อากาศดีมาก ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี สดชื่น

มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม

ฤดูร้อน อากาศจะร้อนชื้น อุณหภูมิที่โซลโดยเฉลี่ยคือ 18 ถึง 30 องศา ฝนจะตกบ่อย เพราะเข้าสู่ช่วงมรสุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงกลางเดือนมิถุนายน ถึงกลางเดือนกรกฏาคม ที่ฝนอาจตกหนัก

กันยายน

เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูกาลแห่งใบไม้เปลี่ยนสี ฝนตกน้อยลง อากาศจะเริ่มเย็นสบาย อุณหภูมิที่โซลโดยเฉลี่ยคือ 14 ถึง 24 องศา ในช่วงสิ้นเดือนใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีในเกาหลี

ตุลาคม

เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงเต็มที่ นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อชมทิวทัศน์ที่สีสันสวยงาม เนื่องจากทัศนียภาพเต็มไปด้วยเศษใบไม้ร่วงโทนสีน้ำตาล แดง ส้ม อากาศเย็นชิวๆ อุณหภูมิที่โซลโดยเฉลี่ยคือ 9 ถึง 18 องศา

พฤศจิกายน

ช่วงต้นเดือนอากาศยังคงสดชื่น แต่หลังจากนั้นอากาศจะเริ่มเย็นลงอีก อุณหภูมิที่โซลโดยเฉลี่ยคือ 3 ถึง 11 องศา

ธันวาคม

เริ่มกลับเข้าสู่ฤดูหนาวอีกครั้ง อากาศเย็น และอาจมีหิมะตกในบางพื้นที่อีกด้วย มีการเฉลิมฉลองและประดับไฟสวยงาม

ช่วงเวลาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวนิยมเที่ยวเกาหลีกันช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง เพราะไม่หนาวไม่ร้อนเกินไป ได้ดูดอกไม้บาน หรือใบไม้ร่วง แต่ถ้าหากคุณสนใจเข้าร่วมกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆหรือ festivals ฤดูร้อนจะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเช็คพยากรณ์อากาศล่วงหน้าก่อนเดินทางได้ เนื่องจากสภาพอากาศและอุณหภูมิอาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เพื่อการเตรียมตัวที่เหมาะสมที่สุด

วีซ่า และมาตรการการจัดการโควิด-19

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยสามารถไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่าแล้ว เพียงแค่ลงทะเบียน K-ETA และ Q-CODE ผ่านทางช่องทางออนไลน์ก่อนบินอย่างน้อย 72 ชม. รออนุมัติแล้วเตรียมตัวไปได้เลย ไม่ต้องตรวจโควิดก่อนบิน ไม่ต้องใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีน เมื่อไปถึงเกาหลีแล้วก็ไม่ต้องตรวจโควิดแบบ RT-PCR แล้วด้วย สะดวกขนาดนี้ พร้อมที่จะไปกันหรือยัง

การเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้

  1. ออกเดินทางจากกรุงเทพ สนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) หรือ สนามบินดอนเมือง (DMK)
    สามารถไปลงที่สนามบินอินชอน (ICN) ในกรุงโซล หรือ สนามบินกิมแฮ (PUS) ในเมืองปูซานได้
  2. หากคุณออกเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ (CNX) สนามบินภูเก็ต (HKT) หรือ สนามบินกระบี่ (KBV)
    สามารถไปลงที่สนามบินอินชอน (ICN) ในกรุงโซลได้

สายการบินที่มีเที่ยวบินตรงสู่ประเทศเกาหลี เช่น Korean Air, Asiana Airlines, Thai Airways, AirAsia และอื่นๆ

ทั้งนี้คุณควรเช็คและเปรียบเทียบตารางเที่ยวบินก่อนการจองและการเดินทาง

ตั๋วเครื่องบินไปเกาหลี

ตั๋วเครื่องบินไปโซล
ตั๋วเครื่องบินไปปูซาน

เตรียมตัวไปเที่ยวเกาหลี

ถ้าหากคุณมีแพลนจะเดินทางไปเที่ยวเกาหลีครั้งแรก หรือเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง จะต้องใช้เงินเท่าไหร่ ควรตั้งงบประมาณไว้เท่าไหร่ อ่านวิธีเตรียมตัวได้ที่นี่เลย

1. ข้อมูลและแผนการเที่ยว

หาความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ภาษา มารยาททางสังคม การก้มหัวทักทาย การถอดรองเท้าในบางสถานที่ ข้อปฏิบัติทั่วไปของประเทศเกาหลีใต้ ฯลฯ คุณอาจใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้คำศัพท์หรือประโยคภาษาเกาหลีง่ายๆ อาจได้ใช้ประโยชน์ระหว่างทริปด้วยนะ ทำแพลนการเที่ยวคร่าวๆ ลิสไว้เลยว่าอยากไปที่ไหนบ้าง จะได้เก็บให้ครบไม่มีพลาด

2. เอกสาร

เตรียมพาสปอร์ต และเอกสารอื่นๆที่จำเป็น เช่น ประกันการเดินทาง เอกสารการจองที่พัก ที่สำคัญเลยคือลงทะเบียน K-ETA และ Q-CODE ให้พร้อมก่อนการเดินทาง

3. แพคกระเป๋า

เตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับสภาพอากาศตลอดทริป รองเท้าที่ใส่แล้วเดินสบาย อาจพกแบตเตอร์รี่สำรองเผื่อไว้ด้วยก็ได้

4. อินเตอร์เน็ต

ซื้อซิมการ์ด หรือไวไฟพกพา จะได้มีอินเตอร์เน็ตใช้และสามารถติดต่อสื่อสารกับคนสำคัญระหว่างทริป โหลดแอพบนมือถือที่จะช่วยให้การเที่ยวในเกาหลีราบรื่นมากขึ้น เช่น แผนที่ เครื่องมือแปลภาษา

5. การเดินทางในเกาหลี

ในเมืองหลักๆอย่างเช่น โซล ปูซาน หรือ แทกู ล้วนมีรถไฟใต้ดินและรถบัสให้บริการ ซึ่งบริการเหล่านี้สะดวกสบายและรวดเร็ว รวมทั้งยังราคาไม่แพงอีกด้วย คุณอาจซื้อบัตร T-Money เพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้นในการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ สามารถใช้ได้กับรถไฟ รถไฟฟ้าใต้ดิน รถบัส โดยหาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ หรือเปิดเว็บ 12Go เพื่อจองการเดินทางล่วงหน้า ให้ทริปนี้ไม่มีติดขัดและสะดวกสบายที่สุด

6. งบประมาณในการใช้จ่าย

ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด โดยรวมแล้วประมาณ 3500 บาท

ค่าที่พักนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละประเภท ที่พักราคาประหยัดอย่าง hostel หรือ เกสท์เฮ้าส์ ประมาณ 500 - 1500 บาทต่อคืน ในขณะที่โรงแรมระดับกลางๆค่าเข้าพักประมาณ 2000 - 4500 บาทต่อคืน ส่วนโรงแรมหรูนั้นเริ่มต้นที่ 5000 บาท ต่อคืนขึ้นไป

ในส่วนของอาหาร สตรีทฟู้ดและร้านอาหารท้องถิ่นนั้นราคาย่อมเยาว์ ประมาณ 200 - 500 บาท ส่วนร้านอาหารใหญ่ๆส่วนใหญ่แล้วขายอาหารราคาหลักพัน

การเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ ราคาประมาณ 70 - 200 บาทต่อเที่ยว แท็กซี่มีให้บริการทุกที่ แต่ราคาจะสูงกว่ามากๆ

7. ความปลอดภัย

แม้ว่าประเทศเกาหลีใต้จะเป็นประเทศที่ค่อนข้างที่จะปลอดภัย แต่คุณก็ควรจะใช้ความระมัดระวังและดูแลตัวเองให้ดี พกช่องทางการติดต่อ เบอร์โทรสำคัญๆติดตัวไว้เสมอ เช่น เบอร์โทรสถานทูต เบอร์ติดต่อฉุกเฉินของประเทศเกาหลี เบอร์ที่พัก เผื่อไว้ยามฉุกเฉินหรือเวลาต้องการความช่วยเหลือ

วิธีเดินทางจากโซลไปปูซาน

การเดินทางในประเทศเลยเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆเพราะเกาหลีใต้มีระบบขนส่งสาธารณะดี

รถไฟ

รถไฟด่วน KTX (Korea Train Express) เป็นวิธีที่รวดเร็ว สะดวกที่สุด และเป็นที่นิยมที่สุดในการเดินทางระหว่างโซลและปูซาน ใช้เวลาประมาณ 2.5-3 ชั่วโมง มีที่นั่งที่สะดวกสบาย ควรจองตั๋วล่วงหน้า รถไฟอื่น ๆ ถูกกว่า แต่ใช้เวลาในการเดินทางนานกว่า

รถบัส

รถบัสด่วน เป็นวิธีเดินทางที่คุ้มค่ารองลงมา แต่ต้องต่อคิว จากโซลไปปูซานใช้เวลาประมาณ 4.5-5.5 ชั่วโมง สะดวกสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำ ไวไฟ รถบัสระหว่างเมือง ช้ากว่ารถบัสด่วน แต่ถูกกว่า

เครื่องบิน

คุณสามารถเดินทางโดยเครื่องบินจากโซลไปปูซาน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง วิธีนี้จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารถไฟหรือรถบัส แต่ประหยัดเวลาในการเดินทาง

รถเช่า

หากคุณต้องการความยืดหยุ่น หรืออยากแวะเที่ยวระหว่างทางจากโซลไปปูซาน รถเช่าคือคำตอบของคุณ อย่างไรก็ตาม ก่อนการขับรถในเกาหลี คุณควรศึกษากฎจราจรและสัญญาณไฟให้ดี เพราะที่เกาหลีค่อนข้างเข้มงวดเรื่องบนท้องถนน

วิธีอื่นๆ

รวมวิธีเดินทางหลายแบบเข้าด้วยกัน เช่น เดินทางโดยรถไฟด่วน KTX จากโซลไปเมืองใกล้ปูซาน แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสเพื่อไปปูซานต่อ สัมผัสประสบการณ์หลายๆแบบในทริปเดียวไปเลย

แนะนำที่เที่ยวเกาหลี

ที่เที่ยวโซล (Seoul)

เมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้ สัมผัสกับความผสมผสานที่ลงตัวของประเพณี วัฒนธรรม และความทันสมัยในที่เดียว

ที่เที่ยวซงพา (Songpa)

ล็อตเต้เวิลด์ (Lotte World) เขตบันเทิงขนาดใหญ่ ที่นี่มีสวนสนุกทั้งในและนอกอาคาร เครื่องเล่น การแสดงสด และโซนจัดแสดงต่างๆ เป็นสถานที่ที่รวมความสนุกในร่มและกลางแจ้งไว้ในที่เดียว เปิดประสบการณ์ตราตรึงใจสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย

ที่เที่ยวยงซาน (Yongsan)

หอคอยเอ็นโซลทาวเวอร์ หรือ นัมซานทาวเวอร์ (N Seoul Tower or Namsan Tower) หลบหนีความวุ่นวายไปที่สวนสาธารณะนัมซาน เดินขึ้นไปที่หอชมวิวเอ็นโซลทาวเวอร์ หรือจะนั่ง cable car ขึ้นไปก็ไม่ว่ากัน บนตึกจะมีร้านอาหารที่หมุนไปเรื่อยๆ คุณสามารถแวะทานอาหาร แล้วสัมผัสกับทัศนียภาพของกรุงโซลแบบเต็มๆตา 360 องศา ไปพร้อมๆกัน ระหว่างทางลงสามารถแวะใช้กุญแจล็อคความรักของคุณบนรั้ว "Locks of Love" คนเกาหลีเชื่อว่า ถ้าอธิษฐานให้ความรักผลิบานยั่งยืนที่นี่แล้ว คำขอจะเป็นจริง

ที่เที่ยวชงโน (Jongno)

หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village) ย้อนเวลากลับไปที่หมู่บ้านเกาหลีเก่า ชมบ้านฮันอกที่ได้รับการรักษาไว้อย่างดี สถาปัตยกรรมแบบเกาหลีดั้งเดิม สัมผัสกับวัฒนธรรมเกาหลีแท้ๆได้ที่นี่เลย

พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) ชมความงดงามของประวัติศาสตร์เกาหลีได้ที่นี่ พระราชวังนี้ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในกรุงโซล คุณสามารถเข้าชมพิธีรับมอบตำแหน่ง สำรวจห้องโถงสวยงาม หรือจะเดินเล่นในสวนรอบๆพระราชวังก็สวยสดชื่น

ที่เที่ยวเมียงดง (Myeong-dong)

ถนนตลาดเมียงดง (Myeong-dong Shopping Street) ถนนคึกคัก สตีทฟู้ดรสเด็ด ช้อปกระจายได้ที่นี่ มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์

ทงแดมุนดีไซน์พลาซ่า (Dongdaemun Design Plaza หรือ DDP) แวะชมความงามของสถาปัตยกรรมและการออกแบบล้ำๆ ที่อาคารแห่งนี้ได้ ที่นี่เป็นศูนย์รวมกิจกรรมทางด้านศิลปะและการออกแบบ มักมีจัดงานทางด้านศิลปะและแฟชั่น เช่น งานแฟชั่นโชว์ นิทรรศการศิลปะ และอื่นๆอีกมาก

ที่เที่ยวฮงแด (Hongdae)

มาบริหารความคิดสร้างสรรค์กันหน่อยที่ฮงแด ย่านสุดฮิปของวันรุ่ยเกาหลีที่ขึ้นชื่อเรื่องการแสดงริมถนน และความคึกคักยามค่ำคืน สัมผัสชีวิตกลางคืนที่คลับและบาร์ต่างๆ เลือกซื้อของอินดี้ๆ แวะคาเฟ่ชิคๆ ชมการแสดงดนตรีสด หรือจะเข้าร่วมคลาสเรียนเต้นสไตล์ K-pop ก็สนุกไม่แพ้กัน

ถนนมหาวิทยาลัยฮงอิก (Hongik University Street) ย่านอาร์ตๆ สดใส เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีทั้งร้านค้า คาเฟ่ และการแสดงริมถนน

ตลาดฮงแดฟรีมาร์เก็ต (Hongdae Free Market) แวะดูงานศิลปะและงานฝีมือของศิลปินท้องถิ่น

พิพิธภัณฑ์สามมิติ (Trick Eye Museum) เยี่ยมชมศิลปะภาพลวงตาสุดอลังการ

Style Nanda Pink Pool Cafe คาเฟ่สุดชิคตีมสระว่ายน้ำสีชมพู สำหรับแวะพักผ่อนคลาย ถ่ายรูป และจิบกาแฟหอมๆ

ที่เที่ยวกังนัม (Gangnam)

ห้างสรรพสินค้าโคเอ็กซ์ (COEX Mall) หนึ่งในห้างที่อยู่ใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เป็นสถานที่ช้อปปิ้งและความบันเทิงในที่เดียว มีร้านค้าให้เลือกช้อปมากมาย มีร้านอาหาร โรงหนัง มีลานสเก็ตน้ำแข็งด้วยนะ

วัดบงอึนซา (Bongeunsa Temple) พักใจให้สงบที่วัดพุทธในใจกลางเมือง

ถนนช้อปปิ้งกาโรซู-กิล (Garosu-gil) ถนนชิคๆ มีร้านคูลๆเยอะมาก คาเฟ่ ห้องจัดแสดงศิลปะต่างๆ

ถนนอัพกูจอง โรดิโอ (Apgujeong Rodeo Street) แหล่งช้อปปิ้งของแบรนด์เนม

สุสานหลวง ซอลลึง & จองนึง (Seolleung and Jeongneung Royal Tombs) มรดกโลกยูเนสโกที่เงียบสงบ

ที่เที่ยวอินซาดง (Insadong)

ดื่มด่ำไปกับความสุดยอดของงานศิลปะและงานหัตถกรรมเกาหลี ที่นี่มีร้านค้าและห้องจัดแสดงศิลปะแบบโบราณ มีทั้งจานเซรามิก ของโบราณต่างๆ ของที่ระลึกเกาหลี ขอแอบกระซิบหน่อยว่า มาที่นี่แล้วอย่าลืมชิมสตรีทฟู้ดและชาเกาหลีแบบดั้งเดิมนะ เด็ดอย่าบอกใคร

ที่เที่ยวปูซาน (Busan)

ไปถึงปูซานแล้วลองชิมแกงเผ็ดทะเลแฮมุลจิเก (Haemul Jjigae) หรือซุปหมูปูซานทเวจีกุกบับ (Dwaeji Gukbap) ดูสิ รับรองไม่มีผิดหวัง

ชายหาดแฮอุนแด (Haeundae Beach) หาดดังของปูซาน บรรยากาศคึกคัก มีทั้งกิจกรรมทางน้ำ กิจกรรมผ่อนคลาย ที่สำคัญคือในเดือนตุลาคมที่นี่จะมีงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน

หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน (Gamcheon Cultural Village) หมู่บ้านสีสันสดใสไม่เหมือนใครนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา เดินสำรวจซอย ชมวิวเมืองและชายฝั่งทะเล รับชมศิลปะ ภาพวาด งานประดิษฐ์สีสันสวยงาม ที่นี่มีหอศิลป์ลับรอให้คุณไปค้นหาด้วยนะ

สวนแทจองแด (Taejongdae Park) สวนขึ้นที่ชื่อเรื่องความสวยงามและความเงียบสงบ ที่นี่มีหน้าผาอลังการ ประภาคาร วิวชายฝั่งทะเล 360 องศา ให้คุณได้ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศธรรมชาติเงียบสงบ

ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market)

ตลาดอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี เต็มไปด้วยปลาตัวใหญ่ ปลาแปลกๆ ว่ายน้ำอยู่ในตู้ให้เลือกซื้อ ชิมซีฟู้ดสดๆได้ที่นี่เลย บรรยากาศก็คึกคักสนุก

ปูซานทาวเวอร์ (Busan Tower) จุดชมวิวและชมท่าเรือ มองเห็นปูซานทั้งเมือง

วัดเบียวเมียวซา (Beomeosa Temple) พักจากความวุ่นวายในเมืองกันสักหน่อยที่วัดพุทธบนภูเขา สถาปัตยกรรมสวยงามละเอียดอ่อน เงียบสงบ นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าพักในวัดนี้ได้อีกด้วย สำหรับคนที่อยากได้ประสบการณ์ลึกซึ้งในพระธรรม

ตลาดกุกเจ (Gukje Market) และตลาดบูพยอง (Bupyeong Market) อย่าพลาดตลาดกลางคืนสุดจี๊ด อาหาร ช้อปปิ้ง สินค้าท้องถิ่นมีให้เลือกซื้อเยอะแยะเลย

ที่เที่ยวอินชอน (Incheon)

อินชอนไชน่าทาวน์ (Incheon Chinatown) สัมผัสวัฒนธรรมจีน กินอาหารอร่อยๆ

สวนสาธารณะกลางซองโด (Songdo Central Park) สวนสาธารณะสวยงาม เดินเล่นรับชมประติมากรรมต่างๆ

สวนสนุกวอลมิ (Wolmido Island) สวนสนุก ที่เดินเล่น สตรีทฟู้ดท้องถิ่น

อนุสรณ์สถานยกพลขึ้นบกอินชอน (Incheon Landing Operation Memorial Hall) เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการลงทัพในอินชอนช่วงระหว่างสงครามเกาหลี

สวนอินชอนแกรนด์ปาร์ค (Incheon Grand Park) สวนสาธารณะขนาดใหญ่วิวสวยงาม ข้างในมีทั้งสวนสวยๆ และสวนสัตว์ในตัว

ที่เที่ยวเกาะเชจู (Jeju island)

เนื่องจากขนส่งสาธารณะบนเกาะมีจำกัด นักท่องเที่ยวนิยมเช่ารถ หรือเรียกแท็กซี่ เพื่อการเดินทางบนเกาะที่สะดวกกว่า ทิปเด็ด ลองชิมอาหารพื้นเมืองของเกาะเชจูดูสิ อย่างเช่น หมูดำย่าง หรือโจ๊กหอยทาก

หมู่บ้านนางเงือก (Haenyeo Village) สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเลย ชมการดำน้ำ free diving ของชาวหมู่บ้าน การเก็บอาหารทะเลและจับปลามือเปล่า ทั้งหมดนี้โดยไม่ใช้แม้แต่อุปกรณ์ช่วยหายใจ

อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน (Hallasan National Park) ปีนขึ้นยอดเขาสูงสุดในเกาหลีใต้แล้วดื่มด่ำกับวิวสวยงามจากข้างบน

ยอดเขาซองซาน อิลชุลบง (Seongsan Ilchulbong Peak) ชมพระอาทิตย์ขึ้นจากสถานที่ที่ได้รับการยอมรับให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก

เชจู เลิฟแลนด์ (Jeju Loveland) สวนแห่งความรัก ถ่ายรูปกับรูปปั้นสุดเซ็กซี่จักจี้หัวใจได้ที่นี่

ถ้ำลาวามันจังกุล (Manjanggul Cave)

ถ้ำลาวาภูเขาไฟ ความมหัศจรรย์ใต้ดิน หนึ่งในมรดกโลกจากยูเนสโก

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเชจูวิลเลจ (Jeju Folk Village Museum) สัมผัสวัฒนธรรมเจจูท้องถิ่น สถาปัตยกรรม และการแสดง

ยอดเขาซองซาน อิลชุลบง (Seongsan Ilchulbong Peak) มรดกโลกจากยูเนสโก ชมวิวแบบ 360 องศาจากบนยอดเขา ตอนเย็นสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นจากทะเลได้ สวยมากก

เชจู โอลเล เทรล (Jeju Olle Trail)

เดินชมวิวเรียบชายฝั่ง มีหลายเส้นทางให้เลือก ซึ่งแต่ละเส้นทางคุณจะได้เห็นวิวเกาะเชจูที่ต่างกันออกไป มีทั้งภูเขาไฟ ป่า หน้าผา

เรือดำน้ำโซกวิโพ (Seogwipo Submarine) ลงสู่ทะเลลึกไปกับทัวร์ดำน้ำ สำรวจโลกใต้น้ำรอบเกาะเจจู ชมชีวิตสัตว์โลกใต้ทะเล ปะการัง ซากเรือจม

น้ำตกจองบัง (Jeongbang Waterfall) เป็นน้ำตกแห่งเดียวบนเกาะเชจูที่ไหลตรงสู่ทะเล สัมผัสความงดงามของธรรมชาติ สดชื่นไปกับไอน้ำตกรอบตัว และชมวิวชายทะเลสวยงาม

ตลาดซอกวีโพ โอลเล่ (Seogwipo Maeil Olle Market) เลือกซื้อของว่างและของที่ระลึกท้องถิ่นได้ที่นี่เลย

ที่เที่ยวแทกู (Taegu หรือ Daegu)

พิพิธภัณฑ์ยาแผนโบราณแทกูยังนยองสิ (Daegu Yangnyeongsi Museum of Oriental Medicine) เรียนรู้เกี่ยวกับการแพทย์และสมุนไพรเกาหลีแบบดั้งเดิม

สวนอัปซาน (Apsan Park) ชมความสวยงามธรรมชาติ ร่วมทำกิจกรรม เดินขึ้นสู่ยอดเขาอัปซานหรือหอชมวิวเพื่อชมวิวเมืองแทกู ที่นี่เป็นที่ชื่นชอบของคนรักธรรมชาติและนักเดินป่า

ถนนคิมกวางซอกกิล (Kim Gwangseok-gil Street) ถนนที่ได้รับการอุทิศให้แก่นักดนตรีชื่อดัง คิมกวางซอก มีรูปปั้นสวยๆให้ถ่ายรูปเรียงราย และคาเฟ่ให้แวะมากมาย

อีเวิลด์ (E-World) สวนสนุกที่มีเครื่องเล่นสุดตื่นเต้น สวนสัตว์ และสวนสวยงามในที่เดียว

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สมัยใหม่แทกู (Daegu Modern History Museum) เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองแทกูผ่านการจัดแสดงต่างๆ

ที่เที่ยวซูวอน (Suwon)

ป้อมฮวาซอง (Hwaseong Fortress) สถานที่มรดกโลกยูเนส ชมกำแพงป้อมปราการที่ถูกรักษาไว้ในสภาพดี รับชมการแสดงทางวัฒนธรรมจากชาวบ้าน

พระราชวังฮวาซอง แฮงกุง (Hwaseong Haenggung Palace) สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม สวนเกาหลีแบบดั้งเดิม เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของราชวงศ์โชซอน

พิพิธภัณท์ ซูวอน ฮวาซอง (Suwon Hwaseong Museum) เรียนรู้ประวัติศาสตร์ป้อมฮวาซองไปกับการจัดแสดงที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ด้วย

สนามกีฬาซูวอนเวิลด์คัพสเตเดียม (Suwon World Cup Stadium) สนามกีฬาที่เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันรอบชิงแชมป์โลก FIFA ปี 2002

ตลาดพัลดัลมุน (Paldalmun Market) ตลาดคึกคัก เต็มไปด้วยสตรีทฟู้ด

ที่เที่ยวยงอิน (Yongin)

สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ (Everland) หนึ่งในสวนสนุกใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดในเกาหลีใต้ มีทั้งเครื่องเล่นความเร็วสูง เครื่องเล่นหวาดเสียว และที่ห้ามพลาดเลยคือ T-Express หนึ่งใน roller coaster ที่ชันที่สุดในโลก ไม่เล่นอันนี้เหมือนมาไม่ถึงนะ นอกจากนี้แล้วที่นี่ยังมีเครื่องเล่นสำหรับครอบครัว สวนสัตว์ซาฟารี และ สวนดอกไม้ด้วย

หมู่บ้านพื้นเมืองเกาหลี (Korean Folk Village) รับชมการแสดงทางวัฒนธรรมเกาหลี การสาธิตเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคนเกาหลีในยุคต่างๆ ชมสถาปัตยกรรมเกาหลี นักท่องเที่ยวนิยมใส่ชุดฮันบกถ่ายรูปกันที่นี่ ได้ฟีลสุดๆ

ยงอินแดจังกึมพาร์ค (Yongin Daejanggeum Park) สถานที่ถ่ายทำ "แดจังกึม" ซีรีย์เกาหลีสุดฮิต

ที่พักในเกาหลี

ราคาของที่พักในเกาหลีขึ้นอยู่กับประเภทของที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวก ความใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหรือระบบขนส่งสาธารณะ และฤดูกาล ก่อนการเดินทางควรอ่านรีวิว เปรียบเทียบราคา และจองที่พักล่วงหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว

โรงแรม

โรงแรมมีหลายราคาให้เลือก มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ สะดวกสบาย ส่วนใหญ่แล้วจะมีร้านอาหาร สปา และฟิตเนสให้ใช้บริการ
ข้อเสีย ราคาอาจสูงกว่าตัวเลือกอื่น พื้นที่อาจเล็กหน่อยถ้าเลือกพักในโรงแรมราคาประหยัด

เกสต์เฮาส์ และ โฮสเทล

หนึงในตัวเลือกที่คุ้มค่า มักจะมีให้เลือกว่าอยากได้ห้องนอนรวมหรือห้องส่วนตัว ราคาถูก ได้พบปะนักท่องเที่ยวคนอื่น มีพื้นที่ส่วนกลางเพื่อสังสรรค์ อาจมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ใช้ เช่น ห้องครัว
ข้อเสีย ความเป็นส่วนตัวจำกัด ต้องแบ่งกันใช้สิ่งอำนวยความสะดวก มีการให้บริการในสถานที่น้อย

ฮันอก (Hanok)

ที่พักสไตล์บ้านเกาหลีโบราณ รับประสบการณ์วัฒนธรรมเกาหลีใต้แบบเข้มข้น ล้อมรอบไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบเกาหลี สภาพแวดล้อมเงียบสงบ
ข้อเสีย มีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานเท่านั้น พื้นที่จำกัด และอาจไม่มีบริการในสถานที่ใดๆ

อพาร์ทเมนต์ และ Airbnb

อารมณ์เหมือนอยู่บ้านพักที่มีพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกหน่อย มีความเป็นส่วนตัว มีห้องครัว เครื่องซักผ้า ได้ลองใช้ชีวิตเหมือนคนท้องถิ่น
ข้อเสีย มีการให้บริการในสถานที่น้อย

โมเทล

ที่พักประหยัดงบ ปกติจะอยู่ใกล้ท่ารถบัส หรือศูนย์การเดินทางหลักๆ ทำให้สะดวกในการเดินทาง เหมาะสำหรับการแวะพักชั่วคราว
ข้อเสีย อาจไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก

วัด

วัดในเกาหลีมีบริการที่พักสำหรับผู้ที่ต้องการรับประสบการณ์วิถีชาวพุทธ ดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรม สภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ เป็นประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครแน่นอน
ข้อเสีย ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบเข้มงวดของวัด จำนวนที่พักมีจำกัด การให้บริการในสถานที่น้อย

อาหารเกาหลี

ทริปเกาหลีใต้จะไม่อาจสมบูรณ์ได้หากขาดอาหารสุดที่รักไป อาหารเกาหลีนั้นมีให้เลือกทานหลากหลาย ทั้งวุ้นเส้น ข้าวยำเกาหลี หรือ ข้าวคลุกเกาหลี ข้าวปั้น บะหมี่เย็น หรือ ก๋วยเตี๋ยวเย็น ข้าวผัดไก่ เกี๊ยวซ่า เนื้อย่าง ข้าวต้ม จัมปง คิมบับ บะหมี่ดําจาจังมยอน หมูสามชั้นต้ม ต๊อกบกกี และเครื่องเคียงที่ขาดไปไม่ได้เลยคือผักดอง และซอสถั่วเหลือง

ทิปเด็ด ลองซดโซจูหรือมักกอลลีควบคู่ไปกับอาหารดูสิ ฟินสุดๆ

ของฝากเกาหลี

สกินแคร์และเครื่องสำอางค์

เกาหลีมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและความงามขึ้นชื่อมากมายอย่าง Innisfree, Etude House, Laneige, Missha และอื่นๆ ที่สำคัญเลยคือ มาส์กหน้าเกาหลีคุณภาพดี มีให้เลือกซื้อมากมายในราคาย่อมเยาว์

สินค้า K-Pop
อัลบั้ม โปสเตอร์ การ์ดรูป เสื้อผ้า สำหรับแฟนเพลง K-Pop

งานฝีมือ
ชุดฮันบก งานเซรามิก ไม้เกาะสลัก สวยงามเหมาะจะซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกหรือของฝาก

ขนมเกาหลี

อาหารเกาหลี

ชาพื้นเมือง

บทส่งท้าย

ทริปนี้รับรองเลยว่า คุณจะได้รับประสบการณ์หลากหลายสุดๆ กินอาหารอร่อยเหาะ สัมผัสวัฒนธรรมเกาหลีเน้นๆ ชม ภูมิประเทศที่สวยงาม พระราชวังโบราณอลังการ และดื่มด่ำไปกับเสน่ห์ของแต่ละเมือง เราหวังว่าคู่มือเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งระหว่างการเตรียมตัวและระหว่างทริป สุดท้ายนี้ขอให้สนุกกับการเที่ยวเกาหลีนะ

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประเทศเกาหลีใต้

จะไปเที่ยวเกาหลีต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

คุณสามารถเตรียมไปเที่ยวเกาหลีได้ด้วยการหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศเกาหลีก่อนไป เพื่อจะได้วางแผนเที่ยวเกาหลีล่วงหน้าได้อย่างเหมาะสม เตรียมพาสปอร์ตและเอกสารต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ให้พร้อม รวมถึงลงทะเบียนในเว็บไซต์ K-ETA และ Q-CODE ล่วงหน้า อีกอย่างคืออย่าลืมจัดเสื้อผ้าให้เหมาะกับอุณหภูมิในเกาหลีช่วงที่จะไปเที่ยว อาจเตรียมอินเตอร์เน็ตไว้ให้พร้อมใช้ เมื่อไปถึงที่เกาหลีแล้วจะได้ติดต่อสื่อสารกันสะดวก ที่สำคัญเลยคือสำหรับคนที่วางแผนจะเดินทางเที่ยวเกาหลีโดยรถไฟ ควรศึกษาเส้นทางที่จะไปให้ดีก่อนนะ นอกจากนี้ควรเตรียมงบไว้ให้พร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆระหว่างทริปด้วยล่ะ

ไปเกาหลีใช้เงินเท่าไหร่

สำหรับอาหารการกิน ค่าโดยสารในการเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆทั่วไป รวมกันแล้วคิดเป็นเงินประมาณ 3500 บาท ในส่วนของที่พัก หากเลือกพักใน hostel หรือ เกสท์เฮ้าส์ ควรเตรียมเงินในส่วนนี้ไว้สัก 500 - 1500 บาทสำหรับการพักต่อคืน แต่ถ้าพักในโรงแรมทั่วไป ราคาต่อคืนจะอยู่ที่ 2000 - 4500 บาท หากคุณอยากพักในโรงแรมที่มีระดับ การเข้าพักต่อคืนจะเริ่มที่ 5000 บาท นอกจากนี้ยังมีค่าอาหารที่บวกเข้ามา ใครชอบสตรีทฟู้ดหรือชอบชิมอาหารตามร้านท้องถิ่นสามารถเตรียมงบไว้ 200 - 500 บาท ส่วนอาหารตามภัตตาคารต่างๆราคามักจะอยู่ในหลักพัน ส่วนค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวนั้นส่วนใหญ่ราคาประมาณ 200 - 500 บาท

อากาศที่เกาหลีเป็นอย่างไร

อากาศในเกาหลีใต้จะต่างกันไปในแต่ละเดือน เพราะว่าเกาหลีนั้นมีครบทั้ง 4 ฤดูกาล โดยฤดูใบไม้ผลิจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ฤดูร้อนคือเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงในช่วงเดือนกันยายน และฤดูหนาวมักจะมาถึงในเดือนธันวาคม

เกาหลีอุณหภูมิเท่าไหร่

หากวัดอุณหภูมิเฉลี่ยโดยยึดเมืองโซลเป็นหลัก ในฤดูหนาวอุณหภูมิจะอยู่ที่ -5 ถึง 7 องศา ต่อมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิจะอยู่ที่ 2 ถึง 22 องศา เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนอุณหภูมิจะเฉลี่ยอยู่ที่ 18 ถึง 30 องศา ส่วนฤดูใบไม้ร่วง หรือ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี อุณหภูมิเฉลี่ยนั้นคือ 3 ถึง 24 องศา ทั้งนี้นักท่องเที่ยวมักไปเที่ยวเกาหลีกันในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง เพราะอากาศไม่เย็นหรือร้อนเกินไป แล้วยังได้ชมดอกไม้ใบหญ้าผลิบาน หรือชมวิวใบไม้ร่วงสวยงาม

ไปเกาหลีกินอาหารอะไรดี

อาหารเกาหลีนั้นขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยไม่แพ้ใคร ที่นักท่องเที่ยวนิยมทานกันเวลาไปเที่ยวเกาหลีก็มีหลายอย่าง เช่น แจยุกบ๊อกกึม หรือ หมูย่าง วุ้นเส้น บะหมี่ ข้าวผัดไก่ เนื้อย่าง จาจังมยอน หรือ บะหมี่ดำ และอื่นๆอีกมาก ส่วนใหญ่แล้วอาหารเกาหลีมักมาพร้อมกับเครื่องเคียงหลากหลาย เช่น ผักดอง และซอสที่ทำจากถั่วเหลือง ส่วนเครื่องดื่มเกาหลียอดนิยมอย่างโซจูและไวน์ข้าวหมักมักกอลลี ก็ให้ฟีลเกาหลี๊ เกาหลี หาซื้อได้ง่ายโดยทั่วไปในเกาหลีเลย

ซื้อของฝากอะไรจากเกาหลีดี

ไอเดียของฝากจากเกาหลีที่มองข้ามไม่ได้ อย่างแรกเลยคือสินค้าจำพวกสกินแคร์และเมกอัพเกาหลีที่คุณภาพเน้นๆทั้งนั้น สินค้าสำหรับผู้รัก K-Pop อย่างโปสเตอร์และเครื่องแต่งกายก็เป็นที่นิยมสำหรับการซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก หากใครชอบศิลปะหรือของแฮนด์เมด สามารถเลือกซื้องานฝีมืออย่างชุดฮันบก สินค้าเซรามิก หรือไม้เกาะสลักสวยๆได้ในเกาหลี นอกจากนี้ของกิน ขนม และเครื่องดื่ม ก็เหมาะสำหรับการซื้อไปเป็นของฝากเช่นกัน โดยเฉพาะโสมเกาหลีที่คุณภาพดีขึ้นชื่อ ใครได้รับเป็นของฝากรับรองยิ้มแก้มปริ