คู่มือเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง อัพเดทล่าสุด 2567

ข้อมูลประเทศสิงคโปร์

ประเทศสิงคโปร์ (Singapore) มีลักษณะเป็นเกาะที่มีขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบไปด้วยเกาะหลัก และเกาะเล็กๆอีกมากกว่า 60 เกาะ สิงคโปร์เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการค้าและเศรษฐกิจที่สำคัญของโลก มีความก้าวหน้าทางด้านการปกครองและสาธารณสุข มีความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติ ประชาชนมีการศึกษาสูง รายได้เฉลี่ยต่อคนสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก

ตำแหน่งประเทศสิงคโปร์บนแผนที่โลก

แผนที่ประเทศสิงคโปร์

การเตรียมตัวไปสิงคโปร์

จะไปเที่ยวสิงคโปร์ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างนะ อย่างแรกเลยคือหนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน นับจากวันที่จะเดินทาง เอกสารอีกอย่างที่ต้องใช้คือใบรับรองการฉีดวัคซีน (Vaccination Certificate) ที่สามารถขอได้จากแอพลิเคชั่นหมอพร้อม และสุดท้ายนักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนขาเข้าสิงคโปร์ SG Arrival Card หรือตม.ออนไลน์นั่นเอง

ทิปเล็กทิปน้อย

เที่ยวสิงคโปร์ใช้งบเท่าไหร่

คำถามนี้จริงๆแล้วตอบยาก เพราะว่าค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวและเดินทางนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แตกต่างกันไปตามความเหมาะสมและความพอใจของแต่ละคน ทั้งนี้หากใครอยากเที่ยวสิงคโปร์แบบงบน้อย สามารถทำได้ด้วยการเลือกวันเที่ยวนอกเทศกาล ใช้บริการเที่ยวบินของสายการบินต้นทุนต่ำ (low cost airlines) เลือกที่พักราคาประหยัด เน้นทานอาหารสตรีทฟู้ดหรือทานอาหารตามฟู้ดคอร์ดแทนการนั่งทานในภัตตาคาร เดินทางโดยใช้การเดินหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะ ซื้อบัตรนักท่องเที่ยวแบบแพจเกจ ช้อปของฝากตามแหล่งราคาดี เช่น ตลาดนัดหรือถนนคนเดิน เลือกสถานที่เที่ยวและกิจกรรมที่จะเข้าร่วมตามงบประมาณที่ตั้งไว้ การเที่ยวแบบงบน้อยคุณต้องศึกษาหาข้อมูลเยอะหน่อย เพื่อเปรียบเทียบราคาก่อนการตัดสินใจ

งบเที่ยวสิงคโปร์แบบประหยัดสุดตัว ราคาโดยประมาณ

สภาพอากาศประเทศสิงคโปร์

เนื่องจากประเทศสิงคโปร์อยู่ในเขตมรสุม จึงทำให้ภูมิอากาศสิงคโปร์นั้นร้อนชื้น ลมแรง และมีฝนตกเกือบตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25 - 32 องศา เย็นกว่าเมืองไทยนิดหน่อย

อุณหภูมิและสภาพอากาศที่สิงคโปร์
ธันวาคม - กุมภาพันธ์ ช่วงที่อากาศเย็นที่สุด อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 23 - 26 องศา ต่ำสุดประมาณ 20 องศา
เมษายน - มิถุนายน ช่วงที่ร้อนที่สุด อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 31 - 34 องศา สูงสุดประมาณ 36 องศา
ส่วนเดือนอื่นๆนั้นสภาพอากาศคล้ายกันคือ อบอุ่น มีฝนและลม

แนะนำว่าควรเช็คพยากรณ์อากาศสิงคโปร์ในทุกวันตอนเช้าก่อนออกเดินทางไปเที่ยว เผื่อว่าวันไหนฝนตก จะได้พกร่มหรือเตรียมเสื้อกันฝนติดตัวไปด้วย

การเดินทางไปสิงคโปร์

โดยปกติแล้วการนั่งเครื่องบินไปสิงคโปร์เป็นวิธีการเดินทางที่คนนิยมกันที่สุด สายการบินที่มีเที่ยวบินจากไทยไปสิงคโปร์ก็มีให้เลือกใช้บริการมากมาย เช่น สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) การบินไทย (Thai Airways) สกู๊ต (Scoot) แอร์เอเชีย (AirAsia) ฯลฯ

ค้นหาเที่ยวบิน เช็คราคาค่าตั๋วเครื่องบิน และจองตั๋วเครื่องบินจากไทยไปสิงคโปร์ได้กับ 12Go

กรุงเทพ ไป สิงคโปร์
สุวรรณภูมิ ไป สิงคโปร์
ดอนเมือง ไป สิงคโปร์
หาดใหญ่ ไป สิงคโปร์
ภูเก็ต ไป สิงคโปร์
เชียงใหม่ ไป สิงคโปร์

สถานที่ท่องเที่ยวในสิงคโปร์

ประเทศสิงคโปร์มีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเยอะ เรามาเริ่มทริปสิงคโปร์กันเลยดีกว่า

อ่าวมารีนาเบย์ (Marina Bay)

มารีน่าเบย์ สิงคโปร์ สถานที่พักผ่อนสวยทันสมัย เต็มไปด้วยร้านขายอาหารอร่อย คาเฟ่กลางแจ้ง สถาปัตยกรรมโดดเด่น ทิวทัศน์สวยงาม ธรรมชาติเขียวขจี พิพิธภัณฑ์สุดยอดการออกแบบ บูติกแฟชั่นระดับโลก สวนน้ำเด็ก เรือนำเที่ยว การแสดงดนตรีสด และรีสอร์ตครบวงจร หรือสั้นๆก็คือที่นี่มีทุกอย่างเลยนั่นแหละ

มารีน่าเบย์ แซนด์ส (Marina Bay Sands)

โรงแรม 5 ดาวหรูหราแห่งนี้เป็นหนึ่งในที่เที่ยวสิงคโปร์กลางคืน ตั้งอยู่บนมารีน่าเบย์ เป็นทั้งศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำและคาสิโนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ตัวตึกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง เป็นรูปไพ่ 3 สำรับเรียงกันที่ถูกวางทับด้านบนด้วยสระว่ายน้ำกลางแจ้งรูปทรงเรือ
ส่วนทางด้านหน้าโรงแรมเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ข้างๆกันมีตึกรูปทรงดอกบัวรูปที่ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ศิลปะ ริมมารีน่าเบย์มีลานสำหรับเดินเล่น และสะพานรูปทรงเกลียวแปลกตาที่เชื่อมไปยังฝั่งของโรงละครเอสพลานาด (Esplanade) ตอนกลางคืนวิวสวยอลังที่สุด

เกาะเซ็นโตซ่า สิงคโปร์ (Sentosa)

เกาะรีสอร์ทที่เต็มไปด้วยกิจกรรมและความสนุกตื่นเต้น มีชายหาดเงียบสงบสวยงามเหมาะสำหรับการพักผ่อนชิวๆ โรงแรมหรูสำหรับประสบการณ์บริการชั้นเยี่ยม ที่สำคัญเลยคือบนเกาะเซ็นโตซ่าที่เที่ยวและกิจกรรมเยอะมากๆ มีทั้งยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studios Singapore) กิจกรรมกระโดดร่ม (Skydiving) สลิงลอยฟ้า กิจกรรมไต่เชือก ปีนหน้าผา วินด์เซิร์ฟ (Windsurfing) สไลเดอร์และเครื่องเล่นอื่นๆทางน้ำ กระเช้าลอยฟ้า กิจกรรมนั่งรถเลื่อน และอื่นๆอีกมาก

ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studios Singapore)

ชื่อเต็มของยูนิเวอร์แซลสิงคโปร์ (Universal Singapore) ที่คนไทยเรียกกันติดปากนั่นเอง สถานที่เที่ยวสิงคโปร์บนเกาะเซ็นโตซ่า ที่ถ้าไม่มาถึงว่าพลาดสุดๆ บางคนถึงขนาดซื้อทัวร์สิงคโปร์เพื่อมาเที่ยวยูนิเวอร์แซลสิงคโปร์โดยเฉพาะเลยละ

สวนสนุกแห่งนี้มาในธีมภาพยนตร์และการ์ตูนของค่ายยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ (Universal Studios) มีทั้งฉากให้ถ่ายรูปสวยๆและเครื่องเล่นสนุกๆเพียบ โดยที่นี่จะมีการแบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 โซนด้วยกัน พื้นที่ทั้งหมดรวมกันนั้นกว้างใหญ่มาก หากใครกลัวหลงทางหรือหาเครื่องเล่นที่ต้องการไม่เจอ สามารถค้นหาเส้นทางได้จากแผนที่ยูนิเวอร์แซลสิงคโปร์

บัตรของยูนิเวอร์แซลสิงคโปร์มีหลายชนิด หลายราคา หลายแพคเกจให้เลือกซื้อ มีแม้แต่บัตรอภิสิทธิ์เอ็กซ์เพรสพาส (Express Pass) บัตรเสริมที่ต้องซื้อเพิ่มจากบัตรเข้าสวนสนุก ช่วยให้คุณไม่ต้องต่อคิวเพื่อเล่นเครื่องเล่นส่วนใหญ่ บัตรเข้ายูนิเวอร์แซลสิงคโปร์ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2000 บาท ใครอยากได้ตั๋วยูนิเวอร์แซลสิงคโปร์ราคาถูกแนะนำให้ซื้อล่วงหน้าก่อนไป จะได้ราคาที่ดีกว่า

การเดินทางไปยูนิเวอร์แซลสิงคโปร์

  1. นั่งรถไฟฟ้า MRT ไปที่สถานีฮาร์เบอร์ฟรอนท์ (Harbour Front) จากนั้นไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้าสิงคโปร์ (Singapore Cable Car) ที่ศูนย์การค้าฮาร์เบอร์ฟรอนท์เซ็นเตอร์ (HarbourFront Centre) เพื่อข้ามไปเกาะเซ็นโตซ่า วิธีนี้คุณจะได้ชมวิวสิงคโปร์แบบ 360 เลยทีเดียว
  2. นั่งรถไฟฟ้า MRT ไปที่สถานี Harbour Front เช่นกัน แต่ไปต่อรถไฟที่ศูนย์การค้าวีโว ซิตี้ (VivoCity) เพื่อข้ามไปยังเกาะเซ็นโตซ่า
  3. ใช้บริการรถรับส่งของที่พัก ลองสอบถามทางที่พักของคุณดู ว่ามีบริการไปที่ยูนิเวอร์แซลสิงคโปร์ไหม
  4. หากมากับทัวร์ อาจมีรถบริการรับส่งที่รวมมาในแพคเกจทัวร์แล้ว ลองเช็คกับทัวร์ดูก่อนนะ
  5. นั่งแท็กซี่หรือแกร๊บ แต่วิธีนี้อาจแพงหน่อยนะ
  6. ใช้แผนที่กูเกิล (Google Map) ดูคำแนะนำวิธีเดินทางอื่นๆที่เหมาะสม

การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay)

พื้นที่สุดล้ำที่ประกอบไปด้วยเรือนกระจกปรับอากาศขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พืชพันธุ์และดอกไม้หายากจาก 5 ทวีป สวนแนวตั้ง งานศิลปะที่สรรค์สร้างขึ้นมาจากดอกไม้และไม้แกะสลัก น้ำตกในร่ม มีแม้แต่สวนลอยแห่งบาบิโลน และที่มองข้ามไปไม่ได้เลยคือซูเปอร์ทรี (Supertree) ไฮไลท์เด็ดอยู่ที่การแสดงแสงสีเสียงช่วงกลางคืนที่สวยงามสุดๆ

จีเวลชางงี (Jewel Changi Airport)

หรือที่รู้จักกันในนามจีเวลสิงคโปร์ (Jewel Singapore) อาคารศูนย์การค้าในสนามบินชางงีที่จัดเต็มที่สุด ด้วยการออกแบบที่น่าทึ่งทั้งภายในและภายนอกทำให้ที่นี่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์มากๆ การผสมผสานกันที่ลงตัวของสถาปัตยกรรมสุดล้ำกับธรรมชาติ มอบประสบการณ์การมองเห็นที่แตกต่างไปจากห้างอื่นๆ นอกจากความสวยงามกลมกลืนของดีไซน์แล้ว ของที่ขายอยู่ข้างในก็เต็มที่ไปเลย มีทั้งเหล่าแบรนด์ดังจากทั่วโลกและท้อปแบรนด์ต่างๆของสิงคโปร์เองด้วย

สวนสาธารณะฟอร์ทแคนนิง (Fort Canning Park)

ที่เที่ยวสิงคโปร์แบบธรรมชาติแห่งนี้พื้นที่กว้างขวาง ร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้และกลิ่นอายของประวัติศาสตร์สิงคโปร์ เนื่องจากที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของฐานบัญชาการทหารและเป็นหลุมหลบภัยในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ภายในสวนมีอุโมงบันไดวนที่มีฉากหลังเป็นต้นไม้ จุดถ่ายรูปสิงคโปร์สุดฮิต นอกจากสดชื่นสุดๆแล้วยังได้รูปสวยๆกลับไปอวดเพื่อนกันด้วย อย่างนี้จะไม่มาได้ยังไง

สิงคโปร์ ฟลายเออร์ (Singapore Flyer)

จุดท่องเที่ยวสิงคโปร์ที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปนั่งดูวิวกัน เนื่องจากชิงช้าสวรรค์นี้ใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูง 165 เมตร ทำให้มองเห็นวิวสิงคโปร์ได้เต็มๆตาแบบ 360 องศา ตัวกระเช้าถูกทำขึ้นเป็นรูปทรงเหมือนแคปซูล มีกระจกกันรังสี UV มีทั้งหมด 28 แคปซูล แต่ละแคปซูลบรรจุคนได้ 28 คน โดยราคาค่าขึ้นเริ่มต้นที่ประมาณ 500 บาทต่อคน

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสิงคโปร์ (S.E.A. Aquarium)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก่อนจะได้ชมความน่ารักสดใสของปลาทะเลกัน เราต้องเก็บความรู้กันก่อน ภายในแบ่งออกเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อยๆ ซึ่งแต่ละโซนจะมีการบอกเล่าเรื่องราวของสิ่งต่างๆ ทั้งเส้นทางขนส่งสินค้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยังส่วนอื่นของโลก เส้นทางสายไหม และเรือสำเภา จากนั้นเราสามารถเดินชมอควาเรียมกันต่อได้ โดยข้างในก็มีด้วยกันทั้งหมด 10 โซนเลยทีเดียว

สวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo)

สวนสัตว์นี้กวาดรางวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย ทั้งรางวัลในฐานะหนึ่งในสวนสัตว์ที่ดีที่สุดในโลกจากนิตยสาร Forbes Traveler รางวัล Asian Attraction Awards รางวัล STB 22nd Tourism Award และยังขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 3 สวนสัตว์ชั้นนำของโลกโดย TripAdvisor อีกต่างหาก ดีกรีดีสุดๆขนาดนี้ต้องแวะแล้วละ ทั้งสัตว์น่ารัก การแสดงน่าประทับใจ และกิจกรรมสนุกๆรอคุณอยู่ที่นี่

โปเตโต้เฮด (Potato Head Folk)

ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตเดโค (Art Deco) ประกอบกับโลเคชั่นสุดยอดที่ตั้งอยู่บนหัวโค้งถนนพอดี ทำให้ร้านอาหารและรูฟท็อปบาร์นี้กลายมาเป็นที่ถ่ายรูปสิงคโปร์ที่ชาวไทยโปรดปราน ร้านก็สวย อาหารก็อร่อย แวะไปแชะกันได้ที่ย่านไชน่าทาวน์ สิงคโปร์ (Chinatown Singapore)

พิพิธภัณฑ์ไอศกรีมสิงคโปร์ (Museum of Ice Cream)

จากอเมริกาตรงสูู่สิงคโปร์ พิพิธภัณฑ์ไอศกรีมสิงคโปร์มีพื้นที่ทั้งหมด 60,000 ตารางฟุต โทนสีชมพูพาสเทลแต่มีความจี๊ดในตัว ข้างในมีสนามเด็กเล่นและเครื่องเล่นให้เด็กและผู้ใหญ่ได้สนุกกัน นอกจากนี้ยังมีของหวานให้ชิมแบบไม่จำกัดอีกด้วย ทั้งไอศกรีมรสชาติพิเศษ และเครื่องดื่มที่เข้ากั๊น เข้ากัน ร้านขายของที่ระลึกก็มีแต่ของน่ารักๆ

หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ (National Gallery)

ตึกนี้ในสมัยก่อนเคยเป็นที่ทำการศาลฎีกาและศาลาว่าการมาก่อน และได้กลายมาเป็นหอศิลป์แห่งชาติในภายหลัง การบำรุงรักษาอย่างดีทำให้ความสวยงามแบบออริจินัลของตึกนี้ถูกรักษาไว้ในสภาพดีเยี่ยม พื้นที่ภายในจัดแสดงผลงานระดับชาติของชาวสิงคโปร์ มรดกทางวัฒนธรรมต่างๆ งานศิลปะสมัยใหม่ ผลงานศิลปะต่างๆที่มีเอกลักษณ์ของเหล่าศิลปินที่กำลังมาแรง อีกทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ของทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

ถนนออร์ชาร์ด (Orchard Road)

หนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งสิงคโปร์สุดฮิต ทั้งชาวสิงคโปร์ทั้งนักท่องเที่ยวเดินช้อปกันคึกคัก ถนนนี้ประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และร้านอาหารชั้นนำมากมาย หลักๆเลยคือเป็นที่รู้กันว่าถนนออร์ชาร์ดนั้นคือแหล่งขายของราคาดี ทั้งสินค้าแบรนด์หรู สินค้าแฟชั่นทั่วไป และสินค้าไลฟ์สไตล์ต่างๆ ถูกมากก

ห้างสรรพสินค้า IMM (IMM Outlet Mall)

ที่ตั้งของเอาท์เล็ต (Outlet) สิงคโปร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สถานที่รวม outlet ของแบรนด์ชั้นนำและแบรนด์ไฮสตรีทต่างๆ มีของให้เลือกซื้ออย่างเยอะ นอกจากร้านค้าแบรนด์ดังแล้วที่นี่ก็ยังมีร้านอาหารอร่อยหลากหลายราคาให้เติมพลังกันระหว่างช้อปด้วยนะ

วิโวซิตี้ (VivoCity)

ห้างที่มีรูปร่างแปลกตาเป็นเอกลักษณ์ ข้างในเต็มไปด้วยร้านขายของแบรนด์เนม ร้านอาหาร เป็นอีกแหล่งช้อปปิ้งที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะล่าหาของกัน นอกจากนี้ในช่วงเย็นตอนพระอาทิตย์ตกดินยังสามารถขึ้นไปชมวิวสวยๆจากบนดาดฟ้าได้ด้วย

การเดินทางภายในประเทศสิงคโปร์

การเดินทางในสิงคโปร์นั้นไม่ยาก มีหลายวิธีเลือกได้ตามความพอใจเลย ส่วนวิธีที่คนส่วนใหญ่แนะนำจะมีดังนี้

  1. รถไฟฟ้า MRT

ระบบรถไฟฟ้าสิงคโปร์นั้นเป็นเครือข่ายทั่วถึงกันทั้งเกาะ ทำให้การไปเที่ยวที่ไหนก็ตามในประเทศนี้เป็นเรื่องง่าย สะดวก และรวดเร็ว โดยราคาบัตรโดยสาร MRT สิงคโปร์ เริ่มต้นที่ประมาณ 25 บาท

บัตรสำหรับการเดินทางในสิงคโปร์
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมใช้บัตร EZ Link (Easy link) เพราะเป็นบัตรที่นอกจากจะใช้ขึ้นรถไฟฟ้า MRT แล้ว ยังใช้ได้กับรถเมล์ รถแท็กซี่ รวมถึงใช้ซื้อของตามร้านสะดวกซื้อหรือร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ได้ด้วย

  1. แกร็บ (Grab)

ใช้แอพ Grab เรียกรถแท็กซี่เพื่อไปที่ไหนก็ได้ในสิงคโปร์ ไม่ต้องขึ้นรถลงเรือกับคนอื่นเขาให้เมื่อย นั่งสบายแอร์เย็น เก็บแรงไว้เดินเที่ยวก็ดีเหมือนกัน ราคาค่าโดยสารก็โอเค บางทีถูกกว่าแท็กซี่ปกติด้วย

  1. เดิน

หากว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณอยากไปไม่ได้ไกลไปจากจุดที่อยู่ปัจจุบันสักเท่าไหร่ สามารถเดินไปได้เลย สิงคโปร์เป็นประเทศที่ค่อนข้างปลอดภัย ดังนั้นเดินไปเลยไม่ต้องกังวล

ตัวอย่างแผนที่เส้นทางรถไฟฟ้า MRT สิงคโปร์

ประเภทของที่พักในสิงคโปร์

ที่สิงคโปร์มีที่พักให้เลือกหลายแบบ หลายราคา มาในรูปแบบและระดับของความสะดวกสบายที่ต่างกัน การเลือกที่พักนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมของแต่ละคน

1 - เลือกตามราคาที่พัก

ที่พักราคาถูก

โรงแรม 5 ดาว
โรงแรมสิงคโปร์ 5 ดาวสุดหรู ใครเที่ยวแบบงบไม่จำกัดแนะนำเลย เตียงนุ่มนอนสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บริการดีเยี่ยม การตกแต่งสวยงามมีระดับ มีมุมให้ถ่ายรูปในโรงแรมเยอะ ใครเที่ยวมาทั้งวันแล้วเมื่อยก็มีสปาให้บริการ

2 - เลือกตามความต้องการ
เช่น บางคนอาจเน้นหาที่พักราคาถูก บางคนชอบการเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า MRT อาจชอบอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว หรือมองหาที่พักในไชน่าทาวน์โดยเฉพาะ ฯลฯ ที่พักและโรงแรมในสิงคโปร์ส่วนใหญ่มักตั้งอยู่ไม่ไกลจาก MRT และอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวอยู่แล้ว ราคาประหยัดแต่คุณภาพดีก็มีเยอะ เลือกที่พักที่ใช่แล้วจองเลย

ที่กินในสิงคโปร์

ที่สิงคโปร์ร้านอาหารอร่อยเยอะมากๆ ขอแนะนำย่านที่เต็มไปด้วยร้านอาหารเด็ดๆในสิงคโปร์ดังต่อไปนี้

1 - ศูนย์อาหารสไตล์สิงคโปร์ (Hawker Center)

ศูนย์หาบเร่ หรือ ศูนย์อาหารของชุมชน ความภูมิใจของชาวสิงคโปร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแบบจับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage of Humanity) โดยองค์กรยูเนสโก (UNESCO) สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของประเทศสิงคโปร์ ที่นี่มีตั้งแต่ข้าวมันไก่ไหหลำ หมี่ลักซาเปอรานา (Peranakan Laksa) แกงกะหรี่อินเดีย สะเต๊ะ โรตี ก๋วยเตี๋ยวผัด ไปจนถึงไอศกรีม

แหล่งรวมร้านสตรีทฟู้ดแผงลอยที่ถูกจัดวางรวมกันอย่างเป็นระบบนี้ มีโต๊ะเรียงรายให้นั่งกินกันตามสบาย แต่ละร้านได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วว่ามีมาตรฐาน สะอาด และถูกสุขอนามัย อาหารภายใน Hawker Center นั้นราคาไม่แพง และอร่อยถึงขนาดที่ว่าบางร้านได้รับดาวมิชลิน (MICHELIN Star) กันเลยทีเดียว ศูนย์อาหารสไตล์นี้มีอยู่กว่า 100 แห่งทั่วสิงคโปร์

2- ไชน่าทาวน์ สิงคโปร์ (Chinatown Singapore)

ย่านถนนคนเดินที่มีแต่อาหารอร่อย อาณาจักรแห่งของกินทุกเชื้อชาติ เป็นที่นิยมสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นเองด้วย ที่นี่มีทุกอย่างให้กินจริงๆ ตั้งแต่อาหารท้องถิ่นอย่างปูผัดพริกอบหม้อดิน ปลาบู่ทอดกรอบ ติ่มซำ ซุปรังนก ปลาหิมะนึ่ง ปลาหมึกย่างซอสข้าวโพด บาร์บีคิวสไตล์ออสเตรเลีย อาหารมาเลย์ น้ำแข็งไสรสลิ้นจี่ โมจิไส้ทุเรียน กาแฟโบราณ ไปจนถึงขนมปังปิ้งคายา อีกทั้งที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของไชน่าทาวน์ คอมเพล็กซ์ (Chinatown Complex) ศูนย์อาหารสไตล์สิงคโปร์ชื่อดัง

3- คลาร์กคีย์ (Clarke Quay)

ย่านคึกคักริม 2 ฝั่งแม่น้ำสิงคโปร์ (Singapore River) แหล่งกิน ดื่ม เที่ยว พักผ่อน และความบันเทิงยามค่ำคืน เต็มไปด้วยร้านอาหารริมน้ำชื่อดังหลากหลากหลายแนว รวมถึงผับและบาร์ที่น่าแวะมากมาย มีห้างสรรพสินค้า พื้นที่การแสดงมายากล เครื่องเล่น G-MAX Reverse Bungee (คล้ายๆบันจี้จัมป์) ลานน้ำพุ และมีท่าเรือนำเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วเรือแล้วล่องไปตามแม่น้ำได้เพื่อดูวิวสวยๆ ใครจะแวะไปที่นี่แนะนำว่าให้ไปตอนกลางคืนนะ เพราะว่าตอนกลางวันร้านส่วนใหญ่เขาจะปิดกัน มาที่นี่นอกจากจะได้กินของอร่อยแล้วยังได้ประสบการณ์สนุกๆอีกด้วยนะ

4 - ลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)

ที่ตั้งของศูนย์อาหารอินเดีย และเต๊กก่า เซ็นเตอร์ (Tekka Centre) แหล่งรวมร้านสตรีทฟู้ดแผงลอยสุดฮิตอีกแห่งที่ห้ามพลาด แต่ที่จริงแล้วย่านนี้ไม่ได้มีดีแค่อาหารอร่อยเยอะนะ ลิตเติ้ลอินเดียเป็นสถานที่แห่งวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยมัสยิด โบสถ์คาทอลิก วัดฮินดู และวัดจีน อาคารบ้านเรือนในพื้นที่นี้เป็นสไตล์โคโรเนียล (Colonial Style) ที่ถูกทาด้วยสีสดๆร้อนแรง นอกจากนี้ย่านนี้ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้า ถนนคนเดิน ร้านขายของฝาก ร้านสักเฮนนา และแหล่งช้อปปิ้งมากมาย เช่น ห้างมุสตาฟา เซ็นเตอร์ (Mustafa Centre) ห้างขายของราคาดีขวัญใจคนไทย ชาร์จพลังด้วยการกินอาหารอร่อยๆเสร็จแล้วเดินหน้าช้อปกระจายต่อได้เลย

5 - บูกิส (Bugis) และ กัมปง กีลาม (Kampong Glam)

สองย่านที่อยู่ติดกันจนคนมักแยกไม่ค่อยออก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะหยุดยั้งการกินของเหล่านักท่องเที่ยวได้ ที่นี่มีร้านอาหารท้องถิ่นเยอะแยะมากมายที่ต่างก็รสชาดอร่อยจนเกินคำบรรยาย ร้านคราฟต์เบเกอรี่ที่ขายครัวซองต์ ขนมหวานอร่อยเหาะ ตอนกลางคืนก็มีคาเฟ่ ผับ บาร์ดนตรีสดให้เลือกนั่งชิว นอกจากนี้ที่นี่ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม ร้านค้าสไตล์อาหรับ มัสยิดที่สถาปัตยกรรมสวยงาม มีถนนคนเดิน และแหล่งช้อปปิ้งสินค้าหลากหลาย

ของที่ระลึกสิงคโปร์

สินค้าลายเปอรานากัน (Peranakan)

หนึ่งในไอเดียของฝากที่แสดงถึงความเป็นสิงคโปร์สุดๆ ลายเปอรานากัน คือเอกลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ เกิดจากการผสมกันของวัฒนธรรมจีน มลายู(มาเลเซีย) และอินโดนีเซีย เป็นลายผ้าที่ได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิเต๋า ลัทธิขงจื๊อ และศาสนาพุทธนิกายมหายาน พบได้ทั้งบนเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องถ้วย จาน ชาม ไปจนถึงกระถางต้นไม้ ชุดยูนิฟอร์มของแอร์โฮสเตสสายการบินสิงคโปรแอร์ไลน์ (Singapore Airlines) สวยๆที่เราเห็นกัน ก็เป็นลายเปอรานากันเช่นกัน

ของที่ระลึกเมอร์ไลออน (Merlion)

สินค้าเมอร์ไลออนต่างๆมักจะมีขายตามสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไปในประเทศสิงคโปร์ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา พวงกุญแจ ที่ทับกระดาษ แม่เหล็กติดตู้เย็น ร่ม แก้วน้ำ หรือแม้กระทั่งช็อกโกแลตรูปทรงเมอร์ไลออน

สินค้าแฟชั่น

เครื่องประดับ

น้ำหอม เครื่องสำอางค์แบรนด์เนม

มาสิงคโปร์ทั้งที อย่าลืมแวะไปช้อปน้ำหอมและเครื่องสำอางค์กันนะ ที่สิงคโปร์ถูกมากก แนะนำว่าซื้อตามแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆอย่างถนนออชาร์ด หรือมารีน่าเบย์ จะได้ของแท้แน่นอน ทริปนี้คุ้มสุดๆ

ยา สมุนไพร

ของฝากจิปาถะ

ของกินสิงคโปร์

ขนมหวานโบราณ ทำจากผลไม้เสียบไม้เคลือบด้วยน้ำตาล รสชาดหวานอมเปรี้ยว กลมกล่อม หาซื้อได้ตามแหล่งของกิน

เครื่องดื่มประจำชาติสิงคโปร์ เป็นค๊อกเทลโซดาสีแดงซาบซ่า อร่อยถูกใจสาวๆ

แบรนด์ขนมสิงคโปร์ โด่งดังเรื่องหนังปลากรอบรสไข่เค็ม (Salted Egg Fish Skin) หนังปลาทอดกรอบๆกับไข่เค็มแท้สุดนัว แค่คิดก็หิวแล้ว หากกินแล้วอร่อยถูกใจลองทานสินค้าอื่นของ Irwins ดูก็อร่อยเหมือนกันนะ เขามีมันสำปะหลังและมันฝรั่งทอดกรอบขายด้วย

ร้านขายหมูแผ่นสิงคโปร์ (Bak kwa) ในตำนาน มีทั้งขายปลีกและส่ง หมูแผ่นมาในหลายรูปแบบ เช่นหมูบดอัด หมูแผ่นสไลด์บาง แต่นอกจากหมูแผ่นแล้วก็ยังมีทองม้วนหมูหยอง ไก่หยองด้วย มีสาขาเยอะมากก

แบรนด์ขนมชื่อดังจากสิงคโปร์ ขายมานานเกือบ 40 ปี เจ้านี้เขาโด่งดังเรื่องพายสับปะรดอร่อย เป็นไอเดียของฝากจากสิงคโปร์ที่ใครได้รับต่างก็ดีใจกันทั้งนั้น

ร้านขายบักกุ๊ดเต๋ เจ้าของรางวัลมิชลิน ไกด์ (Michelin Guide) 5 ปี ผงปรุงรสบักกุ๊ดเต๋ของร้านนี้หอมอร่อยสุดๆ เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบต้มซี่โครงหมูเครื่องเทศ

บทส่งท้าย

สิงคโปร์นี่ช่างมีที่เที่ยวน่าสนใจเยอะจริงๆ มีอาหารน่ากิน ห้างน่าช้อปเต็มไปหมด อีกทั้งกลิ่นความเจริญของประเทศนี้นั้นช่างหอมหวนชวนไปสัมผัสเสียจริงๆ และที่สำคัญเลยคืออยู่ไม่ไกลจากเมืองไทยด้วย ใครมีเวลาว่างๆ วันเสาร์-อาทิตย์ก็ไปได้ง่ายๆเลย 12Go ขอตัวไปจัดกระเป๋า จองตั๋วไปสิงคโปร์ก่อนนะ แล้วเจอกันที่สิงคโปร์นะทุกคนน

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์

เที่ยวสิงคโปร์ใช้งบเท่าไหร่

การไปเที่ยวสิงคโปร์แบบราคาประหยัด 1 วัน ใช้งบประมาณ 5,000 บาท ทริป 2 วัน 1 คืน ใช้งบประมาณ 10000 บาท หากเป็นทริป 3 วัน 2 คืน ใช้งบประมาณ 12000 บาท ส่วนทริป 4 วัน 3 คืน ใช้งบประมาณ 15000 บาท และทริปสิงคโปร์จุใจ 5 วัน 4 คืน ใช้งบประมาณ 17000 บาท ทั้งนี้งบอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับอาหารการกิน ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่นๆรวมกันด้วย

อากาศที่ประเทศสิงคโปร์เป็นอย่างไร

สิงคโปร์เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตมรสุม ภูมิอากาศจึงค่อนข้างที่จะร้อนชื้น มีลมแรง และตลอดทั้งปีสามารถมีฝนตกได้ตลอด อุณหภูมิโดยรวมเฉลี่ยที่ 25 - 32 องศา ต่ำกว่าอุณหภูมิของประเทศไทยเล็กน้อย หากแบ่งออกเป็นช่วง ในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์อุณหภูมิจะต่ำที่สุด เฉลี่ยแล้วประมาณ 23 - 26 องศา และต่ำสุดที่ 20 องศา ในเดือนเมษายนถึงมิถุนายนอุณหภูมิจะสูงที่สุด เฉลี่ยอยู่ที่ 31 - 34 องศา และขึ้นสูงสุดไปที่ 36 องศา ในส่วนของช่วงอื่นๆของปี อากาศจะอบอุ่นกำลังดี มีฝนและลมบ้าง นักท่องเที่ยวควรเช็คพยากรณ์อากาศก่อนออกจากที่พัก จะได้เตรียมร่มหรือเสื้อกันฝนไว้หากวันนั้นมีแนวโน้มว่าฝนจะตก

เลือกที่พักสิงคโปร์อย่างไรดี

เนื่องจากที่พักในสิงคโปร์มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ราคาและข้อดีของที่พักแต่ละชนิดก็จะแตกต่างกันออกไป โดยสามารถเลือกได้โดยการยึดราคาเป็นที่ตั้ง หากสนใจที่พักราคาประหยัด เช่น โรงแรมราคาถูก โรงแรมแคปซูล โฮสเทล หรือแอร์บีเอ็นบี คุณจะสามารถประหยัดงบในส่วนของที่พักไปได้ไม่น้อย ส่วนผู้ที่ต้องการพักในโรงแรมหรู 5 ดาว ก็มีตัวเลือกมากมายให้เข้าพัก หรือจะพิจารณาตามความต้องการก็ได้เช่นกัน เช่น เลือกจากทำเลที่เดินทางสะดวก ติดรถไฟฟ้า MRT หรือใกล้สถานที่ท่องเที่ยวไหนเป็นพิเศษก็หาได้ไม่ยากเลย

รถไฟฟ้า MRT ของสิงคโปร์นั่งยังไง

การเดินทางโดยระบบรถไฟฟ้าภายในประเทศสิงคโปร์นั้นสุดแสนจะสะดวกและรวดเร็วทันใจ ด้วยความที่ MRT สิงคโปร์นั้นมีความทั่วถึงในพื้นที่ส่วนใหญ่ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว ราคาของตั๋วโดยสารรถไฟฟ้า MRT ของสิงคโปร์เริ่มต้นที่เพียง 25 บาทเท่านั้น ส่วนใครที่มีบัตร EZ Link (Easy link) อยู่แล้วสามารถใช้บัตรนี้ขึ้น MRT ได้เลย ใครที่ยังไม่มีก็สามารถหาซื้อมาใช้ได้เช่นกัน เดินทางสะดวกขึ้นอีกเยอะ

อาหารสิงคโปร์อร่อยๆ อยู่ที่ไหน

อาหารอร่อยจริงๆแล้วสามารถพบได้อยู่ทั่วไปในประเทศสิงคโปร์ แต่หากจะให้แนะนำ ลองไปชิมอาหารสิงคโปร์สุดเด็ดได้ที่ศูนย์อาหารสไตล์สิงคโปร์ (Hawker Center) ที่มีอยู่กว่า 100 แห่งทั่วประเทศ พบกับสตรีทฟู้ดแผงลอยทุกอย่างตั้งแต่ข้าวมันไก่ไปจนถึงของหวานหลากหลายเมนู หากดูเป็นย่านๆไปแล้ว ไชน่าทาวน์ สิงคโปร์ (Chinatown Singapore) คลาร์กคีย์ (Clarke Quay) ลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) บูกิส (Bugis) และ กัมปง กีลาม (Kampong Glam) ต่างก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ติดอันดับท็อปย่านอาหารอร่อยในสิงคโปร์ไม่แพ้กัน