คู่มือเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง อัพเดทล่าสุด 2567
ใครอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นยกมือขึ้นนน ญี่ปุ่น นับเป็นหนึ่งในประเทศที่คนไทยนิยมไปกันมากที่สุด สำหรับคนที่จะไปญี่ปุ่นครั้งแรก อาจมีคำถามมากมายในใจ ไปญี่ปุ่นกับทัวร์จะดีมั้ย เป็นผู้หญิงไปเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวจะไหวมั้ย จะอันตรายรึเปล่า ฯลฯ แต่ว่าแท้จริงแล้วการไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองนั้นไม่ยากเลย ขอแค่เตรียมตัวให้พร้อม 12Go ได้รวบรวมข้อมูลและที่เที่ยวประเทศญี่ปุ่นล่าสุดไว้ให้ที่นี่แล้ว
ใบตม.ญี่ปุ่นออนไลน์
ปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นได้ทำการยกเลิกการใช้แอพลิเคชั่น Mysos ไปแล้ว นักท่องเที่ยวไม่ต้องแสดงประวัติการฉีดวัคซีนและผลตรวจโควิดแบบ RT-PCR อีกต่อไป สามารถเลือกกรอกใบตม.เข้าเมืองเมื่อไปถึงสนามบินที่ญี่ปุ่นแล้ว หรือจะกรอกใบตม.ญี่ปุ่นออนไลน์ล่วงหน้าไว้ก่อนก็ได้ ที่ Visit Japan Web
การเดินทางจากไทยไปญี่ปุ่น
ในการขึ้นเครื่องบินจากไทยไปญี่ปุ่น เนื่องจากที่ญี่ปุ่นมีหลายสนามบินมากๆ คุณจึงสามารถเลือกสนามบินปลายทางได้ตามความเหมาะสม หรือความใกล้ของสถานที่ๆจะไป เช่น
- ไปเกาะโอกินาว่า สามารถไปลงได้ที่ สนามบินนาฮา (OKA)
- ไปโอซาก้า สามารถไปลงได้ที่ สนามบินคันไซ (KIX)
- ไปชานเมืองโตเกียว สามารถไปลงได้ที่ สนามบินนาริตะ (NRT)
- ไปโตเกียว สามารถไปลงได้ที่ สนามบินฮาเนดะ (HND)
- ไปนาโกย่า สามารถไปลงได้ที่ สนามบินชูบุเซ็นแทรร์ (NGO)
- ไปเกาะฮอกไกโด สามารถไปลงได้ที่ สนามบินนิวชิโตเสะ (CTS)
- ไปฟุกุโอกะ สามารถไปลงได้ที่ สนามบินฟุกุโอกะ (FUK)
สายการบินที่มีเที่ยวบินตรงจากไทยสู่ญี่ปุ่น เช่น Thai Airways, Japan Airlines, All Nippon Airways, Airasia, AirAsia X, Bangkok Airways, Thai Vietjet เป็นต้น
ราคาค่าตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นโดยปกติแล้วขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น ซื้อตรงกับสายการบิน หรือ Travel Agency โปรโมชั่นตั๋ว ระยะเวลาที่ซื้อตั๋วล่วงหน้า วันที่จะบินเป็นวันอะไรในสัปดาห์ อยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือเทศกาลหรือไม่ เที่ยวบินตรงหรือต้องเปลี่ยนเครื่อง ทั้งนี้คุณควรเช็ค เปรียบเทียบราคาและตารางเที่ยวบินให้ดีก่อนการจอง
เช็คราคาค่าตั๋วเครื่องบิน หรือจองตั๋วเครื่องบินได้กับ 12Go
เช็คตารางเที่ยวบิน ซื้อตั๋วเครื่องบินจากไทยไปญี่ปุ่น
กรุงเทพไปโอซาก้า
กรุงเทพไปนาริตะ
กรุงเทพไปนาโกย่า
กรุงเทพไปโตเกียว
เช็คตารางเที่ยวบิน ซื้อตั๋วเครื่องบินจากญี่ปุ่นกลับไทย
โอซาก้ามากรุงเทพ
นาริตะมากรุงเทพ
นาโกย่ามากรุงเทพ
โตเกียวมากรุงเทพ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
ประเทศญี่ปุ่นในภาษาญี่ปุ่น
ชื่อประเทศญี่ปุ่นในภาษาญี่ปุ่นเขียนว่า 日本 อ่านได้สองแบบคือ “นิปปง” หรือ “นิฮง” การออกเสียงโดยคนญี่ปุ่นขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมาจากภูมิภาคไหน
ปลั๊กญี่ปุ่น
ที่ญี่ปุ่นเขาใช้ปลั๊กขาแบนเหมือนบ้านเรานั่นแหละ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเอาพวกหัวแปลงปลั๊กไฟไปก็ได้ ยกเว้นว่าปลั๊กของคุณเป็นแบบหัวกลม อันนั้นจะต้องใช้หัวแปลงนะ
แรงดันไฟฟ้า
เนื่องจากที่ไทยกับญี่ปุ่นค่าแรงดันไฟฟ้าต่างกัน จึงควรตรวจสอบค่าแรงดันไฟฟ้าของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แต่ละชิ้นที่จะนำไปใช้ระหว่างทริปญี่ปุ่นด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่ มิฉะนั้นอาจทำให้อุปกรณ์ต่างๆใช้งานได้ไม่เต็มที่ หรืออาจเกิดอัคคีภัยได้
ห้องน้ำญี่ปุ่น
ตามพื้นที่สาธารณะที่ประเทศญี่ปุ่นมักมีห้องน้ำให้ใช้บริการ ต่างก็สะอาดและสะดวกสบายในการใช้งาน มีทิชชู่ให้ใช้ฟรีด้วย ชักโครกญี่ปุ่นมีความไฮเทคสูง เต็มไปด้วยปุ่มสั่งการมากมาย ทางที่ดีควรศึกษาวิธีใช้คร่าวๆก่อนไปนะ
ธนบัตรญี่ปุ่น
ในช่วงต้นปี 2024 ประเทศญี่ปุ่นจะมีการออกแบงค์ใหม่ด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ นั่นคือแบงค์ 1000 เยน 5000 เยน และ 10000 เยน แบงค์ญี่ปุ่นใหม่เหล่านี้ใช้เทคโนโลยีที่เหนือกว่าเดิมในการผลิต เพื่อป้องกันการถูกปลอมแปลง
ซามูไร
นักรบญี่ปุ่นสมัยโบราณ ใช้ดาบเป็นอาวุธ มีหน้าที่คุ้มครองจักรพรรดิและกลุ่มชนชั้นสูง มีความจงรักภักดีต่อนาย ยึดหลักปฏิบัติที่เรียกว่า บูชิโด (Bushido) ภักดี ศิลปะป้องกันตัว และเกียรติยศ
งบเที่ยวญี่ปุ่น
เที่ยวญี่ปุ่นใช้งบเท่าไหร่ อยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบประหยัดต้องทำยังไง? งบในการเที่ยวประเทศญี่ปุ่นจริงๆแล้วขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วิธีการเดินทาง สถานที่ที่ไป ระดับความสะดวกสบาย ประเภทของที่พัก นอกจากนี้ยังมีค่าอาหาร ค่าของฝาก ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ค่าช้อปปิ้ง ฯลฯ
จากการคำนวนคร่าวๆ หากคุณต้องการเที่ยวญี่ปุ่น 5 - 7 วัน จะต้องใช้งบประมาณ 30000 บาท เที่ยวญี่ปุ่น 10 วัน งบประมาณ 50000 บาท โดยส่วนใหญ่แล้วแต่ละคนจะมีค่าใช้จ่ายโดยรวมประมาณ 3000 - 5000 บาทต่อวัน
ฤดูท่องเที่ยวญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นสภาพอากาศจะแตกต่างกันไปในแต่ละเดือน กิจกรรมที่มีให้เข้าร่วมก็แตกต่างกันไปเช่นกัน ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เที่ยวได้ทั้งปีทุกฤดูกาล แล้วแต่ว่านักท่องเที่ยวแต่ละคนต้องการประสบการณ์แบบไหน หากคุณเลือกไม่ถูกว่าเที่ยวญี่ปุ่นเดือนไหนดี 12Go สรุปมาให้แล้วว่าในแต่ละเดือนสภาพอากาศเป็นยังไง เหมาะสมกับประสบการณ์แบบไหนกันบ้าง
มกราคม ช่วงปีใหม่เป็นฤดูหนาวของญี่ปุ่น อากาศเย็นและแห้ง เหมาะสำหรับการเล่นหิมะ มีกิจกรรมให้เข้าร่วมมากมาย เช่น ล่องเรือบนแม่น้ำผิวน้ำแข็ง เล่นสกี ปั้นตุ๊กตาหิมะ
กุมภาพันธ์ ยังคงอยู่ในช่วงหน้าหนาวญี่ปุ่น
มีนาคม เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ อากาศอุ่นขึ้น ดอกซากุระบานเริ่มบานในบางพื้นที่
เมษายน เป็นช่วงที่ดอกซากุระบานสุด มีการจัดเทศกาลฮานามิ (Hanami) เทศกาลชมดอกซากุระบาน
พฤษภาคม ดอกซากุระยังคงบานอยู่ในบางที่ ชมสวนดอกไม้สีสันสวยงาม
มิถุนายน เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนญี่ปุ่น เหมาะสำหรับการชมสวน ชมทะเล หรือไปสวนสนุก
กรกฎาคม หน้าร้อนญี่ปุ่น ฝนตกบ่อย ในช่วงนี้มีการจัดเทศกาลมากมาย
สิงหาคม ยังคงร้อนและมีฝนตก
กันยายน อากาศเริ่มเย็นขึ้นอีกครั้ง เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วญี่ปุ่น
ตุลาคม เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงเต็มตัว อากาศเย็นขึ้น
พฤศจิกายน อากาศเย็นขึ้นอีก
ธันวาคม กลับเข้าสู่ฤดูหนาว
ที่เที่ยวในประเทศญี่ปุ่นล่าสุด
ประเทศญี่ปุ่นแบ่งออกเป็น 8 ภูมิภาค ทั้งหมด 47 จังหวัด และในแต่ละจังหวัดก็แบ่งออกเป็นเขตและเมืองย่อยๆ โดยแต่ละจังหวัดมีเมืองหลวงเป็นของตัวเอง
ภูมิภาคคันโต (Kanto)
อยู่ทางตะวันออกของเกาะฮอนชู (Honshu) ภูมิภาคนี้เต็มไปด้วยสถานที่น่าเที่ยวมากมาย รวมถึงเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงด้วย
จังหวัดโตเกียว (Tokyo)
มหานครโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น มีความสำคัญทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ มีประชากรมากที่สุดในญี่ปุ่น มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม การเที่ยวในโตเกียว 1 วัน อาจไม่พอ เพราะมีที่ให้เที่ยวเยอะมาก แต่ละย่านในโตเกียวต่างก็มีสิ่งให้ไปค้นหามากมาย 12Go ช่วยคุณแพลนโปรแกรมเที่ยวโตเกียวด้วยตัวเองไว้แล้ว หากพร้อมแล้วก็ไปเที่ยวรอบโตเกียวกันเลย
โตเกียวโดม (Tokyo Dome)
ตั้งอยู่ในเขตบุงเกียว (Bunkyo) ใกล้กับสถานีโตเกียวและศูนย์การค้าใหญ่ๆ เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬา เช่น เบสบอลและมวยปล้ำซูโม (Sumo) รวมทั้งยังเป็นสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ต งานแสดงสินค้า และงานเทศกาลต่างๆ ข้างในมีร้านค้าและโรงแรมด้วย ใครหาที่เที่ยวรอบๆโตเกียวแนะนำเลย
โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)
สัญลักษณ์ของจังหวัดโตเกียว ตั้งอยู่ในเขตมินาโตะ (Minato) นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปยังชั้นสูงสุดของโตเกียวทาวเวอร์เพื่อชมวิวโตเกียว ภายในตึกมีร้านค้าและร้านอาหาร มีการจัดแสดงแสงสีในตอนกลางคืน
สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoo)
ที่เที่ยวเด็กในโตเกียวที่ผู้ใหญ่ต่างก็หลงรัก ตั้งอยู่ในเขตไทโต (Taito) สวนสัตว์อุเอโนะเป็นสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ข้างในมีสัตว์กว่า 400 ชนิดจากทั่วโลกให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาอย่างใกล้ชิด เช่น ยีราฟ สิงโต หมีขั้วโลก สัตว์เลื้อยคลาน แมลงชนิดต่างๆ มีการแสดงให้อาหารสัตว์และการแสดงของสัตว์หลายชนิดให้ชม
ตลาดอะเมโยโกะ (Ameyoko Market)
หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวโตเกียวแปลกๆ ลองมาที่นี่ดูสิ ตลาดนี้ตั้งอยู่ที่เขตไทโตเช่นกัน ที่นี่คือแหล่งช้อปปิ้งสำหรับทุกอย่าง มีทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง อาหารสด เครื่องดื่ม อาหารทะเล ผลไม้ ขนมหวาน และของที่ระลึกให้เลือกซื้อมากมาย เนื่องจากในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นี่เคยเป็นสถานที่ขายของและอาหาร ปัจจุบันจึงมีขายสินค้าเก่าและของสะสมด้วย
โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)
ที่เที่ยวโตเกียวหน้าหนาวสุดฮิต ตั้งอยู่ในเขตซุมิดะ (Sumida) ตึกนี้สูง 634 เมตร เป็นหนึ่งในจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิในโตเกียวที่ดีที่สุด นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมวิวช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ภายในมีห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ของที่ระลึก และด้านล่างมีลานสเก็ตน้ำแข็งที่เปิดให้บริการเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น
เกาะโอไดบะ (Odaiba)
เกาะเทียมที่เกิดจากการเอาขยะมาถมกัน ตั้งอยู่ในอ่าวโตเกียวเบย์ (Tokyo Bay) ซึ่งอยู่ในสองเขต นั่นคือเขตโคโต (Koto) และเขตชินะงาวะ (Shinagawa) เกาะนี้เป็นศูนย์รวมความไฮเทค แหล่งชอปปิ้ง และความบันเทิง มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ ร้านอาหาร สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี รวมถึงจุดชมวิวในห้องชมวิวทรงกลมที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market)
ลองแวะมาเที่ยวตลาดปลาญี่ปุ่นที่โด่งดังที่สุดในโตเกียว บรรยากาศคึกคัก นอกจากปลาแล้วที่นี่ยังมีอาหารทะเลสดๆประเภทอื่นให้เลือกมากมาย นักท่องเที่ยวนิยมมาร่วมชมการประมูลปลาในตอนช่วงเช้า ไฮไลท์ของที่นี่เลยละ
ย่านอากิฮาบาระ (Akihabara)
สถานที่รวมตัวของเหล่าโอตาคุ ผู้รักอนิเมะ มังงะ และเกมเมอร์ทั้งหลาย ตั้งอยู่ในเขตชิโยดะ (Chiyoda) มีทั้งหอคอยอนิเมะ การจัดงานแสดงอนิเมะ คาเฟ่สไตล์ชาวเหล่าโอตาคุ ร้านขายเกมคอนโซล ของสะสม และเกมเซ็นเตอร์
ย่านกินซ่า (Ginza)
กินซ่าเป็นย่านที่อยู่ในเขตชูโอ (Chuo) ช้อปกระจายได้ที่นี่ มีร้านขายของแบรนด์ดังเยอะมากๆ เหนื่อยก็แวะกินข้าวในร้านอาหารชื่อดังแถวๆนั้นที่มีให้เลือกมากมาย ตบท้ายด้วยการแวะชมการแสดงสดในโรงละคร
ย่านชินจูกุ (Shinjuku)
ย่านชินจูกุที่เราเรียกๆกัน หมายถึงบริเวณเขตชินจูกุ ศูนย์กลางด้านการปกครอง การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมในโตเกียว ย่านนี้เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า ร้านค้า แฟชั่น ของใช้ สินค้ามือสอง ร้านอาหาร ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เอ็นเตอร์เทนเมนท์ สวนสาธารณะ อาคารสำนักงานสูงๆ โรงแรมหรู และเป็นที่อยู่ของคาบุกิโจ (Kabukicho) แหล่งเอนเตอร์เทนเมนท์ยามค่ำคืน เรียกได้ว่าชินจูกุนั้นมีทุกอย่างเลยละ
ย่านชิบูย่า (Shibuya)
ย่านชิบูย่า หมายถึงบริเวณเขตชิบูย่า เขตศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจของโตเกียว ย่านนี้คึกคัก เต็มไปด้วยสินค้าแฟชั่น ห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ยังเป็นเป็นที่ตั้งของรูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko Statue) อนุสรณ์ของสุนัขที่มานั่งรอคอยเจ้าของอยู่ 9 ปี และห้าแยกชิบูย่าสุดฮอตฮิตที่คนเดินนิยมข้ามถนนแล้วถ่ายรูปชิคๆกัน
ย่านฮาราจูกุ (Harajuku)
เป็นส่วนหนึ่งของเขตชิบูย่า มีศูนย์การค้าใหญ่ๆหลายเจ้า ร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น สินค้าไอดอล ร้านอาหาร คาเฟ่ สวนสาธารณะ และวัดสวยๆ ที่สำคัญคือที่นี่เป็นแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมคาวาอี้ (Kawaii) สตรีทแฟชั่นที่มีสไตล์หลากหลาย ใครอยากสนุกก็ปลดปล่อยความเป็นตัวคุณออกมาได้ที่นี่เล้ย
ย่านนากาโนะ (Nakano)
ย่านนากาโนะ หมายถึงบริเวณเขตนากาโนะ เนื่องจากที่นี่เป็นย่านที่มีจำนวนประชากรเยอะมาก จึงเต็มไปด้วยตลาดขายของสะสม สินค้ามือสอง ร้านค้า แฟชั่น อาหาร ของกิน ของใช้ สวนพักผ่อน และคาเฟ่สวยๆมากมายที่รอให้คุณไปลองสัมผัส
จังหวัดกุนมะ (Gunma)
กุนมะเป็นจังหวัดที่เป็นธรรมชาติมากๆ เต็มไปด้วยภูเขา สวนสาธารณะ จุดชมวิวเด็ดๆขึ้นชื่อ บ่อน้ำพุร้อนหรือออนเซนหลายแห่ง คนรักธรรมชาติมาที่นี่มีฟินแน่นอน
เมืองคุซัตสึ (Kusatsu)
เมืองออนเซ็นใกล้โตเกียว เมืองนี้เป็นที่อยู่ของคุซัตสึ ออนเซน (Kusatsu Onsen) ออนเซนที่ดังมากๆของญี่ปุ่น ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นเองต่างก็นิยมมาแช่น้ำร้อนผ่อนคลาย เพลิดเพลินไปกับวิวงดงามและความอลังการของออนเซนนี้ นอกจากนี้ เมืองนี้ยังมีสวนซาอิโนะคาวาระ (Sainokawara Park) แหล่งแช่ออนเซ็นขนาดใหญ่ที่น้ำอุ่นไหลลงมาจากภูเขา และยูทะบาเกะ (Yutabake) บ่อน้ำพุร้อนที่ใช้เก็บน้ำแร่ก่อนที่จะลำเลียงไปในเมือง
เมืองมินาคามิ (Minakami)
เมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ แวะชมวิวสวยๆบนภูเขาทานิกาวะ (Mount Tanigawa) จริงๆแล้วภูเขานี้ตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างจังหวัดกุนมะ กับจังหวัดนีงาตะ (Niigata) ภูเขาทานิกาวะเป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องวิวสวย มีทางเดินเท้าและที่ปีนเขา ใครรักธรรมชาติพลาดไม่ได้เลยนะ
จังหวัดคานางาวะ (Kanagawa)
ที่เที่ยวใกล้โตเกียว ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและเงียบสงบของธรรมชาติ เป็นศูนย์กลางการค้าและการท่องเที่ยวของภูมิภาค เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่รอให้คุณค้นพบ
เมืองโยโกฮาม่า (Yokohama)
หนึ่งในเมืองน่าเที่ยวในญี่ปุ่น เมืองหลวงของจังหวัดคานางาวะ มีสัญลักษณ์คือนาฬิกาคอสโม 21 (Cosmo Clock 21) นาฬิกาชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้เมืองนี้ยังมีฮัคเคจิมะ ซีพาราไดส์ (Hakkeijima Sea Paradise) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่รอมอบประสบการณ์สุดตื่นเต้นให้กับคณ ภายในมีสวนสนุกในตัวด้วย
เมืองคามาคุระ (Kamakura)
ทาสแมวห้ามพลาดเลยน้า เมืองนี้เป็นที่ตั้งของเกาะเอโนชิมะ (Enoshima Island) หรือที่รู้จักกันในชื่อ เกาะแมว ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่แมว และ สำหรับชาวพุทธ แนะนำให้แวะชมวัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) แลนด์มาร์คของเมืองคามาคุระ สักการะพระใหญ่ไดบุตสึ แห่งเมืองคามาคุระ (Great Buddha of Kamakura หรือ Kamakura Daibutsu Buddha) สัญลักษณ์ของเมือง
จังหวัดชิบะ (Chiba)
จังหวัดชิบะเป็นที่รู้จักด้านสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการเรียนรู้ ความสนุกสนาน และการสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบเน้นๆ 12Go คัดเมืองเด็ดๆน่าเที่ยวมาให้คุณแล้ว
เมืองอูรายาซุ (Urayasu)
ใครจะไปดิสนีย์แลนด์ญี่ปุ่น อย่าหลงไปหาในโตเกียวนะ ต้องมาที่อูรายาซุเท่านั้น หนึ่งในเมืองฮิตในจังหวัดชิบะประเทศญี่ปุ่น ที่ตั้งของโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) เมืองแห่งความฝัน และ โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ส่วนสายอาร์ตต้องไปที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลทีมแลป พลาเนต โตเกียว (teamLab Planets TOKYO) เปิดประสบการณ์การชมงานศิลปะที่อลังการที่สุด ที่นี่คุณจะได้รู้สึกถึงเกือบทุกประสาทสัมผัสของร่ายกายเลย ทั้งแสงสี เต็มที่มากๆ
เมืองนาริตะ (Narita)
ที่ตั้งของสนามบินนาริตะ หากคุณมีเวลาเยอะก่อนไฟลท์บินกลับและหาที่เที่ยวใกล้สนามบินนาริตะ ลองแวะไปที่นาริตะ โอโมเตะซันโดะ (Naritasan Omotesando) ถนนที่มีขายสินค้าพื้นเมือง ซื้อของกินอร่อยๆแล้วเดินช้อปของฝากก่อนกลับบ้าน หรือจะไปที่อีออนมอลล์ (Aeon Mall) เพื่อช้อป กิน ชมการแสดง หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวในนาริตะที่มีทุกอย่าง
จังหวัดโทชิกิ (Tochigi)
เที่ยวชนบทญี่ปุ่นที่จังหวัดโทชิกิ ที่นี่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายที่ อาหารอร่อย สินค้าท้องถิ่นมีคุณภาพ และเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่น
เมืองนิกโก (Nikko)
เมืองใกล้โตเกียว หนึ่งในเมืองมรดกโลกของญี่ปุ่น สำหรับคนที่มีคำถามว่าที่เที่ยวนิกโก (Nikko) 1 วันมีอะไรบ้างนะ ที่ห้ามพลาดที่แรกเลยคือ ทะเลสาบชูเซ็นจิ (Chuzenji Lake) ทะเลสาบใหญ่ที่สุดของเมือง หรือจะแวะสดชื่นที่น้ำตกเคะงน (Kegon Falls) หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น นั่งกระเช้าลอยฟ้าอะเคจิไดระ (Akechidaira Ropeway) แล้วจบท้ายด้วยการย้อนประวัติศาสตร์ที่เอโดะ วันเดอร์แลนด์ นิกโก เอโดะมุระ (Edo Wonderland Nikko Edomura) ก็รับประสบการณ์ตราตรึงใจกันได้เต็มที่
เมืองอาชิคางะ (Ashikaga)
ที่ตั้งของสวนดอกไม้อาชิคางะ (Ashikaga Flower Park) หนึ่งในสวนดอกไม้ที่สวยงามและอลังการที่สุดของญี่ปุ่น ถึงขนาดได้รับขนานนามว่า เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ถ้าไม่มาถือว่าพลาด ที่นี่มีต้นไม้ใหญ่อายุกว่ากว่า 140 ปี และดอกไม้สวยงามมากมายที่จะออกดอกในช่วงเวลาที่ต่างกันของปี ดังนั้นไม่ว่าจะไปเดือนไหนที่นี่ก็สวยสดไม่มีผิดหวังแน่นอน
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu)
เกาะตอนใต้สุดของญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวนิยมเช่ารถแล้วขับเที่ยวรอบเกาะกัน เนื่องจากการเที่ยวคิวชูด้วยตัวเองนั้นไม่ยากเลย หาข้อมูลล่วงหน้า เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปเที่ยวคิวชูกันเลย
จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka)
หนึ่งในจังหวัดในคิวชูเหนือ ที่เที่ยวในฟุกุโอกะมีเยอะมากๆ จุดเด่นคือจังหวัดนี้ไม่มีหิมะในหน้าหนาวนะ ว่าแล้วก็จัดทริปไปฟุกุโอกะดีกว่า
เมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu)
แนะนำให้แวะไปที่สวนคาวาจิ วิสทีเรีย การ์เด้น (Kawachi Wisteria Garden) ที่เที่ยวสุดฮอตในฟุกุโอกะ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิอย่างเช่นเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม ชมดอกฟูจิ (ดอกวิสทีเรีย) บานสวยมากก หรือหากใครมาเที่ยวเมืองนี้ในฤดูใบไม้ร่วง อย่าพลาดชมใบไม้เปลี่ยนสีนะ ในเมืองนี้มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีเด็ดๆมากมาย เช่น สวนพฤกษศาสตร์ชิราโนเอะ (Shiranoe Botanical Garden)
เมืองฮากาตะ (Hakata)
อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของตลาดยานากิบาชิ (Yanagibashi Market) ศูนย์รวมอาหารทะเลสดๆของเมือง ที่นี่มีร้านค้าและร้านอาหารทะเลอร่อยๆมากมาย ส่วนที่หน้าสถานีฮากาตะ (Hakata Station) มักมีการจัดแสดงไฟสวยๆตอนกลางคืนในช่วงเทศกาล ใครหาที่เที่ยวฟุกุโอกะหน้าหนาวอย่าลืมแวะไปถ่ายรูปสวยๆกันนะ
จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki)
อีกหนึ่งจังหวัดในคิวชูเหนือ ประเทศญี่ปุ่น เมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เป็นจังหวัดที่เคยถูกระเบิดนิวเคลียร์โจมตีในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองนอกเหนือจากจังหวัดฮิโรชิมา (Hiroshima)
เมืองนางาซากิ (Nagasaki)
เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ผลกระทบจากระเบิดนิวเคลียร์ มิตรภาพระหว่างประเทศ และสันติภาพของโลกได้ที่พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum) แวะชมสะพานแว่นตามากาเนะบาชิ (Meganebashi Bridge) สะพานเก่าแก่อายุหลายร้อยปีที่มีรูปทรงคล้ายแว่นตาขนาดใหญ่ เชื่อมต่อระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่ของนางาซากิ เป็นจุดท่องเที่ยวที่ไม่ว่าใครมาเมืองนี้ ต่างก็นิยมมาถ่ายรูปสวยๆกัน
เมืองฮิกาชิโซโนกิ (Higashisonogi)
พลาดไม่ได้เลยกับการถ่ายรูปที่สถานีรถไฟชิวาตะ (Chiwata Station) สถานีไม้สุดคลาสสิคริมทะเลนางาซากิ ตอนพระอาทิตย์ตกวิวสวยจนแทบลืมหายใจ นอกจากนี้คุณยังสามารถชมธรรมชาติและเล่นน้ำตกที่หุบเขาริวโตะเซน (Ryutosen) ซึ่งชื่อนี้มีความหมายในภาษาญี่ปุ่น แปลว่าน้ำพุหัวมังกร หุบเขานี้ประกอบไปด้วยน้ำตกและแอ่งน้ำหลายแห่ง เหมาะสำหรับการถ่ายรูปสวยๆและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ มาที่นี่ได้เที่ยวธรรมชาติญี่ปุ่นเต็มๆ
จังหวัดโอกินาว่า (Okinawa)
เต็มไปด้วยธรรมชาติแบบไม่น้อยหน้าใคร น้ำทะเลใส ทรายขาว อ่าวสวยๆ ที่สำคัญคือมีอาหารท้องถิ่นที่อร่อยและไม่เหมือนใคร เช่น โอกินาว่าโซบะ (Okinawa Soba) และขนมชินซุโค (Chinsuko) ที่ไม่ว่าใครได้ลิ้มลองต่างก็ถูกใจ ใครจะไปโอกินาว่าอย่าลืมชิมกันด้วยละ
เมืองคุนิกามิ (Kunigami)
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium หรือ Okinawa Ocean Expo Aquarium) สวนสัตว์น้ำคุณภาพคับแก้ว มีทั้งฉลามวาฬ และกระเบนราหู มีกิจกรรมให้อาหารและการแสดงสัตว์น้ำน่าตื่นเต้นมากมาย หรือจะซื้อทั้วร์ไปดำน้ำที่ถ้ำสีฟ้า (Blue Cave) มีให้เลือกทั้งดำน้ำตื้นแบบ snorkeling หรือดำน้ำลึกแบบ diving ลงไปสัมผัสโลกใต้ทะเลแบบใกล้ชิด
เมืองนันโจ (Nanjo)
โอกินาว่า เวิลด์ (Okinawa World) ไฮไลท์ของจังหวัดโอกินาว่า สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยถ้ำเกียวคุเซนโด (Gyokusendo Cave) ถ้ำหินงอกหินย้อยที่มีธารน้ำไหลตลอดเวลา สวยงามสุดๆ ภายในถ้ำมีคาเฟ่ให้แวะพักระหว่างการรับชมความสวยงามของภายในถ้ำ และพิพิธภัณฑ์งูสวนฮาบุ (Habu Museum Park) มีการจัดแสดงงูสายพันธุ์ต่างๆ ภายในสวนมีร้านค้าขายสินค้าท้องถิ่น และร้านอาหาร
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido)
ภูมิภาคนี้เป็นเกาะตอนบนสุดของประเทศญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยจังหวัดเดียวเท่านั้น คือ จังหวัดฮอกไกโดนั่นเอง จังหวัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องวิวสวย อาหารท้องถิ่นหลากหลายและคุณภาพสูง
เมืองซัปโปโร (Sapporo)
เมืองหลวงแห่งเกาะฮอกไกโด มีกิจกรรมให้ทำมากมายในช่วงหน้าหนาว ไม่ว่าจะสกี สไลด์หิมะ สโนว์บอร์ด หรือนักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมเทศกาลฤดูหนาว ซึ่งมีจัดขึ้นทุกปีในซัปโปโร และเป็นที่รู้กันว่าพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด ภายในงานมีทั้งการจัดแสดงประติมากรรมหิมะ การแสดงดนตรีสด ฯลฯ นอกจากนี้แล้ว หนึ่งในที่เที่ยวซัปโปโรหน้าหนาวที่ฮอตที่สุดคือ อุทยานแห่งชาติทาคิโนะสุสุรัน (Takino Suzuran Hillside Park) ที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวสวย พื้นที่กว้างขวางสำหรับประสบการณ์การเล่นกิจกรรมทางหิมะที่สุดยอด และความสวยงามของสถาปัตยกรรมการตกแต่งของสถานที่ซึ่งคงไว้ซึ่งความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
เมืองอาซาฮิคาวะ (Asahikawa)
สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo) ชมการเดินพาเหรดของนกเพนกวินและการแสดงของเหล่าแมวน้ำสุดน่ารัก นอกจากนี้ที่นี่ยังมีหมีขั้วโลก หมาป่าหิมะ กวางขนยาว และสัตว์เมืองหนาวอื่นๆ สวนสัตว์อะซาฮิยาม่าโด่งดังในเรื่องความเป็นสวนสัตว์ที่นักท่องเที่ยวสามารถรับชมสัตว์ต่างๆได้แบบใกล้ชิด แม้ว่าที่นี่อาจไม่ใช่สวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แต่คุณภาพรับรองเลยว่าไม่เป็นสองรองใคร
ภูมิภาคคันไซ (Kansai)
ศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ ที่อยู่ของหลายจังหวัดที่คนไทยชอบไปกัน
จังหวัดโอซาก้า (Osaka)
เที่ยวญี่ปุ่น จะขาดโอซาก้าไปได้ยังไง จังหวัดนี้เต็มไปด้วยทั้งเสน่ห์และความสนุก มีสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งน่าสนใจมากมายรอให้คุณไปค้นหา
เขตชูโอ (Chuo)
แวะไปที่ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) แล้วถ่ายรูปกับป้ายไฟกูลิโกะ (Dotonbori Glico Sign) บริษัทขนมญี่ปุ่นซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้าไปแล้ว เดินเล่นในย่านนี้ตอนกลางคืนแล้วตื่นตาไปกับแสงไฟจากป้ายไฟและแสงนีออนจากทั่วทุกทิศทาง ชิมอาหารท้องถิ่นโอซาก้า ใครชอบทานทาโกะยากิ (Takoyaki) ลองลิ้มลองรสชาติแบบออริจินัลได้ที่นี่กันเลย
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) แลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เรียนรู้ประวัติศาสตร์การสร้างของปราสาทนี้ที่ใช้เวลานานกว่า 16 ปี ชมวิวโอซาก้าเต็มๆตาจากข้างบน รอบปราสาทมีสวนดอกไม้สวยงาม เหมาะสำหรับการเดินเล่นและพักผ่อน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิอย่างเดือนมีนาคมถึงเมษายนมีการจัดแสดงดอกซากุระด้วยนะ
เขตโคโนฮานะ (Konohana)
ที่ตั้งของยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ (Universal Studios Japan) อีกหนึ่งสวนสนุกขึ้นชื่อที่นักท่องเที่ยวหลายคนเดินทางมาญี่ปุ่นเพื่อมาที่นี่โดยเฉพาะ พบกับการโซนภาพยนตร์และความบันเทิงมากมาย มีทั้งโซนฮอลลีวูด (Hollywood) แฮร์รี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) จูราสสิค พาร์ค (Jurassic Park) ซุปเปอร์นินเท็นโด (Super Nintendo) และโซนที่น่าสนใจอีกมาก มีกิจกรรมให้เข้าร่วมด้วย เช่น การจัดแสดงต่างๆ ละครเพลง สนุกกันเสร็จแล้วก็แวะกินข้าวที่ร้านอาหารอร่อยๆ และซื้อของที่ระลึกที่หาที่ไหนไม่ได้
จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo)
ที่ตั้งของเมืองท่าชื่อดัง และศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ มีความเจริญรุ่งเรือง สถานที่ท่องเที่ยวเยอะ บรรยากาศสดชื่น
เมืองโกเบ (Kobe)
เมืองใกล้โอซาก้านี้เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta Shrine) สถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นโบราณที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วสารทิศให้เข้ามารับชมความงดงาม เป็นทั้งสถานที่สำหรับการสักการะบูชาเทพเจ้าแห่งสิ่งทอ และสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลและงานประเพณีต่างๆ ตกเย็นไปกันต่อที่ โกเบ พอร์ท ทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) สัญลักษณ์เมืองที่สูง 108 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปข้างบนและชมวิวได้แบบ 360 องศา โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงกลางคืนจะเห็นแสงไฟจากในเมืองสวยมาก ภายในมีร้านอาหารและร้านค้า
เมืองฮิเมจิ (Himeji)
แวะชมปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) หรือ ปราสาทนกกระสาขาว สถาปัตยกรรมญี่ปุ่นสไตล์โบราณทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสามของปราสาทที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ภายในปราสาทมีห้องจัดแสดงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่น ภายนอกมีสวนดอกไม้และพื้นที่จัดแสดงงานประเพณีต่างๆ นอกจากนี้ที่เมืองนี้ยังมีสวนโคโคเอ็น (Koko-en Garden) สวนที่มีพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย 9 สวนย่อย แต่ละสวนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง บรรยากาศเงียบสงบสวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อน ชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงได้ที่นี่
จังหวัดวากายาม่า (Wakayama)
จังหวัดวากายาม่าเป็นที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ธรรมชาติสวยงาม และเต็มไปด้วยวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบเน้นๆ
เมืองนะชิคัตซึอุระ (Nachikatsuura)
ศาลเจ้าคุมาโนะนาชิ (Kumano-Nachi Taisha) หนึ่งในสามของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คุมาโนะซานซัง (Kumano Sanzan) ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์นี้เกิดจากการรวมกันอย่างสมบูรณ์ของศาสนาชินโตและศาสนาพุทธ เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญบนเส้นทางแสวงบุญคุมาโนะโคโด (Kumano Kodo) ของผู้นับถือศาสนา และผู้ที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมสวยงาม ที่นี่เป็นอีกหนึ่งมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ตั้งอยู่ใกล้กับน้ำตกนาชิ (Nachi Falls) น้ำตกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และวัดพุทธเซงันโทะจิ (Seigantoji) ที่มีเจดีย์สามชั้นสีแดง
เกาะมารีน่าซิตี้ (Marina City)
ตลาดปลาคุโรชิโอะ (Kuroshio Market) ไฮไลท์ของมารีน่าซิตี้ เกาะที่เกิดจากการถมทะเล ชมการโชว์แล่ปลามากุโระ (Maguro) สดๆ เดินเลือกซื้ออาหารทะเลและของที่ระลึกท้องถิ่นให้อิ่มใจ จากนั้นไปต่อกันได้ที่พอร์โต ยูโรป้า (Porto Europa) สวนสนุกประจำจังหวัดสไตล์ยุโรป ประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมสวยงามเรียงรายถ่ายรูปสวย ที่นี่มีทั้งเครื่องเล่น ปราสาทจำลอง การแสดงสัตว์ และความน่าตื่นเต้นอีกหลายอย่าง
ภูมิภาคชูบุ (Chubu)
ภูมิภาคที่อยู่ตอนกลางของประเทศพอดี ภูมิภาคชูบุพร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์แบบครบรสให้กับคุณ ไม่ว่าจะทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และอาหาร
จังหวัดไอจิ (Aichi)
จังหวัดนี้เคยเป็นศูนย์กลางในยุคที่มีการสู้รบกันภายในประเทศ และเป็นจังหวัดบ้านเกิดของสุดยอดซามูไรถึงสามคนเชียวนะ
เมืองนาโกย่า (Nagoya)
อาคารโอเอซิส 21 (Oasis 21) แลนด์มาร์คนาโกย่าที่อยู่ในย่านใจกลางเมือง ตึกนี้เป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้ง แหล่งรวมร้านอาหารและร้านค้ามากมาย รวมทั้งยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆอีกด้วย อีกที่ที่น่าสนใจคือพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า (Nagoya City Science Museum) ที่แค่ตัวตึกเองก็อลังการสุดๆแล้ว ภายในมีสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ รวมทั้งหนึ่งในท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ติดอันดับโลกด้วย
เมืองอินุยามะ (Inuyama)
พิพิธภัณฑ์เมจิมูระ (Meiji Mura Museum) พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่มีพื้นที่กว่า 1,000,000 ตารางเมตร จัดแสดงสถาปัตยกรรมและสิ่งปลูกสร้างในสมัยก่อน ให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของยุคเมจิและยุคต้นของญี่ปุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น ตกเย็นลองแวะไปเดินเล่นที่ย่านการค้าโบราณอินุยามะ โจกะมาจิ (Inuyama Jokamachi) ชมบรรยากาศย้อนยุคของอาคารไม้ที่เรียงรายกันไป ที่นี่เต็มไปด้วยร้านขายของ คาเฟ่ และพิพิธภัณฑ์จัดแสดงต่างๆ
จังหวัดกิฟุ (Gifu)
จังหวัดที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ ทั้งป่า ภูเขา และแม่น้ำสวยๆทั้งนั้น มีทั้งวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและความเจริญรุ่งเรือง
เมืองทาคายามะ (Takayama)
เริ่มกันเลยที่ฮิดะทาคายามะ (Hida Takayama) ที่ท่องเที่ยวที่อยู่ท่ามกลางขุนเขา เมืองเก่าที่กรุ่นไปด้วยบรรยากาศญี่ปุ่นสมัยโบราณที่ถูกรักษาไว้ในสภาพดีเยี่ยม ประกอบไปด้วยอาคารบ้านเรือนแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้า หรือจะไปเที่ยวหมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะ (Hida Folk Village) ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน หมู่บ้านเก่านี้ได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและสงครามที่เคยเกิดขึ้นในญี่ปุ่น ทั้งสถาปัตยกรรมและเครื่องใช้ภายในบ้านสวยงามและดูขลังสุดๆเลยละ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีเวทีสำหรับการแสดงศิลปะและกิจกรรมอีกด้วย
เมืองโอกาคิ (Ogaki)
ปราสาทโอกาคิ (Ogaki Castle) มรดกแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์มากๆ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์กลางที่ตั้งของกองกำลังสู้รบ บางส่วนเคยถูกระเบิดลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองแต่ในภายหลังได้รับการบูรณะเป็นอย่างดีแล้ว ชมความสวยงามของปราสาทและคลองซุอิมง-กาวะ (Suimon-Gawa Canal) ที่อยู่รอบปราสาท สนุกไปกับการนั่งเรือไม้แบบดั้งเดิมและชมดอกซากุระบานไประหว่างทางในฤดูใบไม้ผลิ
จังหวัดนากาโนะ (Nagano)
จังหวัดนากาโนะนั้นถูกรายล้อมไปด้วยภูเขาและธรรมชาติที่งดงาม วิวสุดอลังการของจังหวัดนี้ ทำให้ที่นี่ได้รับขนานนามว่าเป็นแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps) เลยเชียว
เมืองยามาโนะอุจิ (Yamanouchi)
พูดถึงนากาโนะก็ต้องไปที่สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Monkey Park) ท่ามกลางหุบเขาและวิวสวยงามอลังการ ลิงหิมะเหล่านี้อาศัยอยู่ตามธรรมชาติและรักการแช่น้ำร้อนเป็นชีวิตจิตใจ ดูการใช้ชีวิตประจำวันและการแช่ออนเซ็นอย่างผ่อนคลายสุดๆของลิงแบบใกล้ชิด แต่อย่าไปยอมแพ้ลิง มาค่ะ ไปต่อกันได้ที่ชิบุออนเซน (Shibu Onsen) เมืองออนเซนชื่อดังของจังหวัด เป็นทั้งแหล่งน้ำพุร้อนและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ออนเซนที่นี่จะเป็นสไตล์ดั้งเดิมที่ถูกคงไว้ตั้งแต่สมัยก่อน
เมืองนากาโนะ (Nagano)
เมืองที่ตั้งของวัดเซนโคจิ (Zenkoji Temple) วัดพุทธแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นที่คลาสสิกสุดๆ หากใครอยากเข้าชมต้องรอกันหน่อย เพราะที่นี่เปิดให้ชมทุกๆ 6 ปีเท่านั้น และแต่ละครั้งที่เปิดสามารถเข้าชมได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ ชมประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมสวยงามของวัดแล้ว อย่าลืมซื้อของที่ระลึกกลับไปเป็นของฝากกันด้วยนะ
การเดินทางในประเทศญี่ปุ่น
การเดินทางในญี่ปุ่นด้วยระบบขนส่งสาธารณะนั้นสะดวกสบายเป็นที่สุด มีหลายวิธีให้เลือกตามความต้องการของแต่ละคน เส้นทางที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางกันคือระหว่างโตเกียวและโอซาก้า ซึ่งสองจังหวัดนั้นอยู่ห่างกันประมาณ 500 กิโลเมตร 12Go ได้รวมวิธีเดินทางจากโตเกียวไปโอซาก้า และจากโอซาก้าไปโตเกียวไว้แล้ว อ่านกันได้ที่นี่เลย
รถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น (Shinkansen)
ใช้เวลาประมาณ 2.5 - 4 ชั่วโมง แล้วแต่ขบวนที่เลือกนั่ง เพราะแต่ละขบวนมีความเร็ว และจำนวนสถานีที่จอดต่างกันไป บางขบวนสามารถใช้ JR Pass (Japan Rail Pass) ได้ด้วย วิธีนี้สะดวกที่สุดในการเดินทางจากโตเกียวไปโอซาก้า หรือโอซาก้าไปโตเกียว สะอาด รถไฟไม่ค่อยสั่นหรือโยกเยก ได้ชมวิวภูเขาไฟฟูจิระหว่างทาง
รถไฟธรรมดา
ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง และต้องต่อรถหลายเที่ยวหน่อย ประหยัดกว่าชินคันเซ็น การนั่งรถไฟแบบธรรมดามีข้อดีตรงที่สามารถแวะเที่ยวระหว่างทางได้อย่างอิสระเลย จะขึ้นลงแวะสถานีไหนก็ได้ตามใจชอบ เมืองน่าเที่ยวที่ผ่านระหว่างโตเกียวและโอซาก้าก็มีเยอะแยะ เช่น ฮาโกเน่ (Hakone) หรือนาโกย่า (Nagoya)
รถไฟกลางคืน (Sleeper Train)
สำหรับการเดินทางจากโอซาก้าไปโตเกียว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6.5 ชั่วโมง ตู้นอนมีหลายประเภทซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป บางตู้นอนสามารถใช้ JR Pass ได้ นอนสบาย ประหยัดค่าที่พักไปในตัว มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องอาบน้ำ ห้องอาหาร ตู้ขายน้ำ แต่ว่าบนรถไฟไม่มีอาหารขายนะ ขนาดคนญี่ปุ่นเองยังนิยมนั่งกันสนุกๆเลย มีผู้ให้บริการเดียว คือซันไรส์ เอ็กซ์เพรส (Sunrise Express)
เที่ยวบินในประเทศ
ใช้เวลาประมาณ 1 - 2 ชั่วโมงเท่านั้น วิธีนี้ประหยัดเวลาที่สุด จากสนามบินฮาเนดะ (HND) หรือสนามบินนาริตะ (NRT) ไปลงที่สนามบินอิตามิ (ITM) หรือสนามบินคันไซ (KIX) ราคาขึ้นอยู่กับสายการบินที่เลือกใช้บริการ มีทั้งสายการบินแบบ Full Service ไปจนถึงสายการบิน Low Cost
รถบัสด่วน และ รถบัสกลางคืน (Night Bus)
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 - 9 ชั่วโมง วิธีการเดินทางนี้ประหยัดคุ้มค่าที่สุดในตัวเลือกทั้งหมด ราคาขึ้นอยู่กับประเภทของที่นั่ง เวลาเดินทาง และประเภทของรถบัสที่เลือกใช้บริการ สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้ก็แตกต่างกันไป เช่น ที่ชาร์ตแบตมือถือ ที่นวด หรือแม้แต่ Lounge ตามจุดขึ้นลงรถ มีหลายบริษัทให้เลือกใช้บริการ ต่างก็นั่งสบายและให้บริการดี สามารถจองล่วงหน้าได้ มีรถสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะให้เลือกด้วยนะ
รถยนต์
ถ้าขึ้นทางด่วนจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 - 7 ชั่วโมง ผู้ขับควรศึกษากฎจราจรของญี่ปุ่นให้ดี นอกจากนี้วิธีนี้ยังต้องหารถเช่าล่วงหน้า เตรียมใบขับขี่สากล ค่าเช่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถตามสถานที่ต่างๆ ข้อดีคือสามารถขับรถเที่ยวในเมืองต่างๆได้ตามสะดวก เพราะรถยนต์สามารถเข้าถึงในบางจุดที่รถไฟเข้าไม่ถึง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
ซื้อตั๋วรถ เครื่องบิน รถไฟล่วงหน้าได้กับ 12Go
โตเกียวไปโอซาก้า
โอซาก้าไปโตเกียว
ของฝากจากญี่ปุ่น
ขนมญี่ปุ่น
ที่ญี่ปุ่นมีผู้ผลิตขนมขึ้นชื่อมากมาย เช่น ช๊อกโกแลตจากรอยซ์ (Royce) คิทแคท (Kit Kat) และป๊อกกี้ (Pocky) หาซื้อช็อกโกแลตรสชาดแปลกๆได้ที่ญี่ปุ่นเลย คุกกี้ที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito) และโตเกียวมิลค์ชีสแฟคทอรี่ (Tokyo Milk Cheese Factory) รวมถึงขนมปังนุ่มสอดไส้ โตเกียว บานาน่า (Tokyo Banana) ก็เป็นของฝากที่ไม่ว่าใครได้รับต่างก็ชอบใจกันแน่นอน
ทิปเด็ด: หากใครจะไปเที่ยวโอซาก้า รู้หรือยังว่าโอซาก้าเป็นที่รู้จักในเรื่องของของหวาน ภายในร้านขายของหวานต่างๆ คุณสามารถเลือกซื้อวาราบิโมจิ(Warabimochi) เค้กคาสเทลล่า (Castella) ไอศกรีมเพื่อสุขภาพรูปทรงดอกไม้ หรือช็อกโกแลตสูตรพิเศษได้ด้วย
เครื่องสำอาง และสกินแคร์สัญชาติญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นมีแบรนด์เครื่องสำอางและสกินแคร์ระดับโลกมากมาย แบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก เช่น Hada Labo, THREE, Shiseido, Tatcha, DHC, Canmake, SK-II, SHU Uemura, Biore ฯลฯ มีให้เลือกในหลายระดับราคา แต่ละแบรนด์ล้วนคุณภาพสูง อ่อนโยน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญส่วนผสมส่วนใหญ่เน้นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงมั่นใจได้เลยว่าดีต่อผิวแน่นอน
เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับแบรนด์ญี่ปุ่น
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้ายี่ห้อ Jill Stuart, Uniqlo, Earth Music & Ecology, Play Comme Des Gracon, Muji และอื่นๆ ราคาที่ญี่ปุ่นค่อนข้างจะถูกกว่าที่ไทย รองเท้า Onitsuka Tiger ก็น่าซื้อกลับบ้าน หรือกระเป๋า Issey miyake, Anello, Bao Bao, Pleats Please ก็เป็นเป็นไอเดียของฝากที่ดีเหมือนกัน
ผลไม้ญี่ปุ่น
เลือกซื้อผลไม้ญี่ปุ่นสดๆเป็นของฝากก็น่าสนใจไม่เบานะ ในแต่ละพื้นที่ในญี่ปุ่นมีผลไม้ขึ้นชื่อที่ต่างกันไป เมล่อนจากฮอกไกโด แอปเปิ้ลจากอาโอโมริ หรือลูกพลับจากวากายามะ เชื่อว่าชื่อของผลไม้เหล่านี้เป็นที่คุ้นหูชาวไทย นอกจากนี้ยังมีผลไม้ชนิดอื่นที่ควรค่าแก่การซื้อกลับบ้านอีกเยอะ ลองมองหาตามแหล่งขายอาหารในแต่ละเมืองดูนะ
อาหารสำเร็จรูป และอาหารทะเลแปรรูป
เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องปรุงอาหารญี่ปุ่น เช่น ซอสแกงกะหรี่ญี่ปุ่น หรือผงโรยข้าว มีให้เลือกซื้อเยอะมากก ในหลายๆพื้นที่ในญี่ปุ่นมีอาหารที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อกลับไปเป็นของฝาก เช่น ของฝากฟุกุโอกะที่เป็นที่นิยมอย่างฮากาตะราเม็ง (Hakata Ramen) สามารถซื้อกลับไปทำกินเองที่บ้าน มีขายเป็นชุดๆ ประกอบด้วยเส้นราเม็งและน้ำซุปเข้มข้น
หรือหากไปฮอกไกโด เลือกซื้ออาหารทะเลแบบแปรรูปเพื่อเป็นของฝาก มีให้เลือกหลากหลาย เป็นที่ยอมรับทั้งในเรื่องของรสชาติและคุณภาพ เช่น ปลาแซลมอน ปู หอยเชลล์ ไข่หอยเม่น ปลาหมึก
ชาเขียวญี่ปุ่น
ของฝากญี่ปุ่นฮอตฮิต บางคนอาจคิดว่าชาเขียวญี่ปุ่นมีแต่มัทฉะ แต่แท้จริงแล้วญี่ปุ่นยังมีชาชนิดอื่นอีกมากมาย เช่น เซนฉะ (Sencha) ฟุกามุชิ (Fukamushi) เกียวคุโระ (Gyokuro) โฮจิฉะ (Hojicha) และอื่นๆอีกมายมาย เลือกซื้อได้ในรูปแบบเครื่องดื่ม ใบชา ผง หรือแบบซอง
เครื่องเขียน
เครื่องเขียนสัญชาติญี่ปุ่นคุณภาพดีมากก มีความมินิมอล น่ารักน่าใช้ แบรนด์เครื่องเขียนญี่ปุ่นใช้ดีและเป็นที่นิยมกัน เช่น Muji, Midori, Tombow, Kokuyo, uni Mitsubishi Pencil, Pilot, Sun-Star
ร่ม
ร่มที่ญี่ปุ่นมีหลากหลายสไตล์ ส่วนใหญ่แล้วจะมีคุณสมบัติเดียวกันคือทำจากวัสดุคุณภาพดี บางเบา ทนทาน แห้งไว กันฝน แดด และลมได้ดี มีทั้งแบบพับได้และแบบด้ามยาว หากใครอยากได้ร่มเป็นของฝากแบบไม่ซ้ำใคร สามารถสั่งทำได้ด้วยนะ ร้านขายร่มหลายร้านมีแบบและสีให้เลือกได้ตามใจชอบเลยละ
เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แกดเจ็ต และเครื่องเล่นเกมส์
ไม่ว่าจะเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน ไดร์เป่าผม โดรน กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์และมือถือ แบตเตอรี่ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องช่วยฟัง เครื่องเล่น Playstation ที่ญี่ปุ่นมีขายหมดเลย
นาฬิกา
มีทั้งแบรนด์หรู และแบรนด์ที่ราคาดีแต่คุณภาพไม่เบา แบรนด์นาฬิกาญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยม เช่น Casio, Seiko, Grand Seiko, Credor, Issey Miyake, Alba, Citizen, Orient แบรนด์เหล่านี้ล้วนมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน เดินตรงเวลาแม่นยำ มีดีไซน์ที่สวยงาม และคุณภาพไร้ที่ติ
เครื่องราง
ของนำโชคถูกใจสายมู มีทั้งแมวกวัก โอมาโมริ (Omamori) เหรียญมงคล ต้นไม้มงคล ด้ายแดง ตุ๊กตาดารุมะ (Daruma) ตุ๊กตาไล่ฝนเทะรุเทะรุโบซุ (Teruteru Bouzu) กระพรวนญี่ปุ่น หินมงคล เซ็นบะซุรุ (Senbazuru) และสินค้าเกี่ยวกับสัตว์มงคลต่างๆ
ของเล่น ของสะสม
ผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นดังๆ เช่น Sanrio, Line, Studio Ghibli, Medicom Toy, Bandai ต่างก็ผลิตของเล่นและของสะสมต่างๆออกมาให้เราได้ชื่นชมกัน ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา โมเดล หรือฟิกเกอร์
วิตามิน อาหารเสริม
เนื่องจากคนญี่ปุ่นใส่ใจกับเรื่องสุขภาพเป็นอย่างมาก ในญี่ปุ่นจึงมีร้านขายยา วิตามิน และอาหารเสริมหลายเจ้า อาหารเสริมแบรนด์ญี่ปุ่นที่ฮิตๆกัน เช่น DHC, Takeda, Meiji, Rohto, Positif, Asahi, Fancl, Shiseido, Lactis, Taisho และอื่นๆ แต่ละยี่ห้อล้วนมีคุณภาพและราคาสมเหตุสมผล
ของฝากท้องถิ่นที่มีลวดลายสื่อถึงความเป็นญี่ปุ่น
ของตกแต่งบ้านลายญี่ปุ่น เช่น ผ้าคลุมโต้ะ ผ้าห่ม หรือสิ่งของเครื่องใช้ลายญี่ปุ่น เช่น เสื้อผ้า ผ้าพันคอ กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ
ของฝากท้องถิ่นก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจ เช่น หากใครได้ไปฟุกุโอกะ ลองหาซื้อตุ๊กตาดินเผาที่เรียกว่าตุ๊กตาฮากาตะนิงเงียว (Hakata Ningyo) หรือหาซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากผ้าฮากาตะได้ เนื่องจากฟุกุโอกะมีชื่อเสียงในด้านการผลิตตุ๊กตาฮากาตะนิงเงียวและเป็นแหล่งผลิตผ้าฮากาตะ
ทิปเด็ด: ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่นลองหาข้อมูลดูก่อนว่า แต่ละจังหวัดเป็นผู้ผลิตอะไร จะได้ซื้อของถูกแหล่งและได้ราคาที่ดีกว่าไปอีก
บทส่งท้าย
ประเทศญี่ปุ่นมีที่เที่ยวเยอะมากจริงๆ ไม่ว่าจะไปกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อแน่นอน ลองจัดทริปญี่ปุ่นไปเที่ยวในหลายๆจังหวัด แล้วสัมผัสกับเสน่ห์ของแต่ละเมืองดูสิ รับรองเลยว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ดีๆมากมาย เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นเน้นๆ และอิ่มนำไปกับอาหารเลิศรส 12Go หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่มีแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่น ว่าแล้วก็จองตั๋วไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเถอะ
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นใช้ปลั๊กไฟแบบไหน
เต้าเสียบปลั๊กไฟที่ญี่ปุ่นนั้นรองรับปลั๊กขาแบนเช่นเดียวกับที่ไทย ดังนั้นนักท่องเที่ยวไทยสามารถใช้ปลั๊กที่นำไปจากไทยได้เลย เว้นแต่ว่าปลั๊กที่นำติดตัวไปเป็นชนิดหัวกลมที่จำเป็นต้องใช้หัวสำหรับแปลงปลั๊กไฟ อย่างไรก็ตามค่าแรงดันไฟฟ้าของประเทศญี่ปุ่นกับไทยนั้นต่างกัน ดังนั้นควรเช็คให้มั่นใจก่อนว่า ค่าแรงดันของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆที่จะนำไปใช้ระหว่างการท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นนั้นมีความเหมาะสมสำหรับการใช้งานที่นั่น เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
ไปญี่ปุ่นเตรียมงบไว้เท่าไหร่ดี
การตั้งงบสำหรับทริปญี่ปุ่นนั้นควรคำนึงถึงหลายอย่าง ทั้งวิธีการที่จะใช้เดินทางในประเทศญี่ปุ่น สถานที่ที่ต้องการจะแวะเที่ยว ต้องการความสะดวกสบายเพียงใด ที่พักราคาประหยัดหรือหรูหราหน่อย รวมถึงประเภทของอาหารที่จะกิน ของฝากที่จะซื้อกลับ และอยากช้อปหนักขนาดไหน โดยเฉลี่ยแล้ว ทริปญี่ปุ่น 5 - 7 วัน ใช้เงินไม่เกิน 30000 บาทก็เอาอยู่ ส่วนทริปญี่ปุ่น 10 วัน ใช้งบ 50000 บาทโดยประมาณ หากคิดค่าใช้จ่ายรวมๆต่อวันแล้วก็ประมาณ 3000 - 5000 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นราคาเท่าไหร่
ตั๋วเครื่องบินจากไทยไปญี่ปุ่นนั้นมีหลายราคา ขึ้นอยู่กับว่าซื้อตั๋วจากสายการบิน หรือซื้อจาก Travel Agency ตั๋วที่ซื้อมีการจัดโปรโมชั่นอยู่หรือไม่ ซื้อตั๋วล่วงหน้าหรือซื้อกระชั้นชิดวันที่จะเดินทาง ไฟลท์ออกบินวันไหนในสัปดาห์ เดินทางช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือว่านอกเทศกาล เที่ยวบินต้องมีการเปลี่ยนเครื่องหรือไม่ เคล็ดไม่ลับคือการเช็คราคาล่วงหน้า เทียบราคาจากหลายๆเว็บไซต์ จากนั้นเลือกเที่ยวบินที่เหมาะสมที่มาพร้อมราคาที่ถูกใจ
ห้องน้ำประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างไร
ห้องน้ำญี่ปุ่นสุดไฮเทคนั้นมีให้เข้าใช้บริการอยู่ตามพื้นที่สาธารณะ ความสะอาดเป็นเลิศ ใช้งานก็สะดวก แถมยังมักมีทิชชู่ให้บริการอีกด้วย ตัวชักโครกญี่ปุ่นถูกประดับไปด้วยปุ่มสั่งการ ใครอยากนั่งสบาย อยากได้รับความอบอุ่นก็ย่อมได้ การกดฉีดน้ำก็เล็งได้แม่นยำ นอกจากนี้ยังมีปุ่มอื่นอีกมากมายที่รอให้คุณได้กดใช้งาน เพื่อปรับประสบการณ์การใช้ชักโครกให้เหมาะสมถูกใจแต่ละคนที่สุด
ไปญี่ปุ่นซื้อของฝากอะไรดี
ญี่ปุ่นเรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีของดีครบรอบด้าน นักท่องเที่ยวจึงสามารถเลือกซื้อของฝากได้หลากหลาย มีตั้งแต่ช็อกโกแลต ขนมปังสอดไส้ คาสเทลล่าเค้ก โมจิ ผลไม้ อาหารสำเร็จรูป อาหารทะเลที่ได้รับการแปรรูปแล้ว ชาเขียว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เมกอัพ เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ เครื่องเขียน ร่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า นาฬิกา เครื่องราง ของสะสม วิตามินและอาหารเสริม ไปจนถึงของฝากท้องถิ่นลายแบบญี่ปุ่น