คู่มือเที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง ฉบับอัพเดทล่าสุด 2567
ฮ่องกง (Hong Kong) หรือชื่อเต็มอย่างเป็นทางการคือ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน หนึ่งในจุดหมายปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวจากทั่วโลกรวมถึงชาวไทย เนื่องจากฮ่องกงอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยมากนัก ทำให้หากใครมีวันหยุดสั้นๆก็สามารถไปเที่ยวฮ่องกงได้ง่ายๆ วันนี้ 12Go รวบรวมข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ไม่ได้จองทริปไปฮ่องกงกับทัวร์ และคนที่อยากไปเที่ยวฮ่องกงคนเดียว หากพร้อมแล้วก็ตามมากันได้เลย
ฮ่องกงบนแผนที่โลก
อากาศและอุณหภูมิฮ่องกง
ฮ่องกงมีทั้งหมด 4 ฤดูกาล โดยสภาพอากาศที่ฮ่องกงในแต่ละเดือนจะแตกต่างกันไปในแต่ละช่วง
- ฤดูหนาว
ช่วงเดือนธันวาคม ถึง กุมภาพันธ์ ด้วยสภาพภูมิอากาศของฮ่องกงที่อยู่ในพื้นที่กึ่งเขตร้อน ทำให้ช่วงฤดูหนาวค่อนข้างสั้น อากาศเย็นและแห้ง ท้องฟ้าใส อุณภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 16 องศา แต่ตอนกลางคืนอุณหภูมิจะตกลงไปอีกถึง 10 กว่าองศา โดยในเดือนมกราคมจะเป็นช่วงที่หนาวเย็นที่สุด อุณหภูมิอาจลดลงไปถึงเลขเพียงหลักเดียวเท่านั้น - ฤดูใบไม้ผลิ
ช่วงเดือนมีนาคม ถึง พฤษภาคม อากาศร้อนชื้น มีหมอก และฝนตกมาก อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 18 - 25 องศา - ฤดูร้อน
ช่วงเดือนพฤษภาคม ถึง กันยายน สภาพอากาศคล้ายกับที่กรุงเทพหน้าร้อน นั่นคืออากาศจะร้อนชื้น อีกทั้งยังมีฝนตก อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 28 องศา และอาจสูงขึ้นไปถึง 33 องศาในช่วงเดือนกรกฏาคม โดยเดือนสิงหาคมจะเป็นเดือนที่ปริมาณของน้ำฝนสูงที่สุด - ฤดูใบไม้ร่วง
ช่วงเดือนกันยายน ถึง ธันวาคม อากาศที่ฮ่องกงจะแห้งและเย็น แดดแรงจ้า ฝนไม่ค่อยตก อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 23 - 25 องศา
เดือนที่เหมาะสำหรับการไปเที่ยวฮ่องกงคือช่วงเดือนเมษายนถึงปลายมีนาคม เพราะอากาศจะแห้ง เย็นสบาย และฝนไม่ค่อยตก ทั้งนี้นักท่องเที่ยวควรเช็คพยากรณ์สภาพอากาศฮ่องกงก่อนไป เนื่องจากฤดูกาลในแต่ละปีอาจมีความคลาดเคลื่อน รวมถึงในหน้าร้อนอาจมีพายุไต้ฝุ่น น้ำท่วม หรือดินถล่มในบางพื้นที่
การเดินทางจากไทยไปฮ่องกง
เราสามารถเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงได้โดยการนั่งเครื่องบิน สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลา โดยใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณไม่เกิน 3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
สายการบินที่มีเที่ยวบินไปฮ่องกงก็มีให้เลือกนั่งกันมากมาย เช่น ฮ่องกงแอร์ไลน์ (Hong Kong Airlines) ฮ่องกงเอ็กซ์เพรส (HK Express) แอร์เอเชีย (Airasia) การบินไทย (Thai Airways) คาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific) ฯลฯ
เช็คเที่ยวบิน เช็คราคาตั๋วเครื่องบิน หรือจองตั๋วเครื่องบินจากไทยไปฮ่องกงกับ 12Go ได้นะ
กรุงเทพ ไป ฮ่องกง
เชียงใหม่ ไป ฮ่องกง
ภูเก็ต ไป ฮ่องกง
เช็คเที่ยวบิน เช็คราคาตั๋วเครื่องบิน หรือจองตั๋วเครื่องบินกลับไทยจากฮ่องกง
ฮ่องกง มา กรุงเทพ
ฮ่องกง มา เชียงใหม่
ฮ่องกง มา ภูเก็ต
การเดินทางในฮ่องกง
รถไฟฟ้าใต้ดิน (MTR)
เดินทางง่ายๆด้วยขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว มีทั้งหมดมากกว่า 10 สายด้วยกัน ครอบคลุมเกือบทั่งทั้วฮ่องกง ให้คุณไปถึงประตูของจุดหมายโดยไม่ต้องออกแรงเลยสักนิด แม้แต่คนฮ่องกงเองก็ใช้รถไฟใต้ดินนี้ในการเดินทางเป็นหลักเลย เพราะวิธีนี้สะดวกที่สุดแล้ว
รถรางฮ่องกง (Tram)
ยานพาหนะเสน่ห์แรงยอดนิยม สีสันสดใส ลวดลายหลากหลาย นอกจากจะเป็นสื่อโฆษณาเคลื่อนที่แล้ว ยังเป็นฉากถ่ายรูปสวยๆสำหรับเหล่านักท่องเที่ยวอีกด้วย รถรางมีให้บริการด้วยกันทั้งหมด 6 สาย ราคาค่าบริการก็ถูกมาก นั่งรถชิคๆ ชมวิวเมืองชิลๆ จี๊ดขนาดนี้จะพลาดได้ไง
รถบัส (Bus)
เส้นทางของเหล่ารถบัสครอบคลุมอยู่ทุกพื้นที่ มีทั้งบัสเล็กบัสใหญ่ให้เลือกนั่งกันได้ตามความเหมาะสม แอร์เย็นฉ่ำ พื้นที่กว้างขวาง นั่งสบาย บริการดี ราคาก็ค่อนข้างถูก นักท่องเที่ยวอาจใช้ Google Map ในการช่วยดูเส้นทางอีกทีก็ย่อมได้
รถตู้ (Van หรือ Minibus)
รถตู้ส่วนใหญ่แล้วจะวิ่งบนเส้นทางที่รถบัสไม่ค่อยจะไปกัน มีความยุ่งยากกว่ารถบัส เพราะต้องรู้จักเส้นทาง รู้จุดขึ้นลงรถ และมีกฏระเบียบที่แตกต่างกันไปในแต่ละคัน บางคันก็วิ่งเส้นทางเดิมตลอด บางคันก็เป็นแบบเหมา ฯลฯ ดังนั้นหากอยากนั่งรถตู้ควรศึกษาข้อมูลล่วงหน้าให้ดีก่อน
แท็กซี่ (Taxi)
นั่งสบาย บริการดีเยี่ยม เหมาะสำหรับคนมีงบเยอะๆหน่อย การนั่งแท็กซี่นั้นควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าทางด่วน ค่าใช้สะพานข้ามเกาะ หรือค่ารอดอุโมงค์ ที่อาจบวกเพิ่มเข้ามาในเส้นทางที่ไป ถ้ามีกระเป๋าใบใหญ่มาด้วยจะมีค่ากระเป๋าเพิ่มด้วย ที่สำคัญเลยคือกฎหมายบ้านเค้าผู้โดยสารห้ามเกิน 4 คน
เรือเฟอร์รี่ (Ferry)
เรือเฟอร์รี่ หรือ เรือข้ามฟาก สามารถใช้นั่งข้ามไปยังเกาะต่างๆในฮ่องกงได้ แต่เนื่องจากปัจจุบันมีวิธีเดินทางอื่นๆให้เลือกมากมาย นักท่องเที่ยวจึงนิยมนั่งเรือเพื่อการท่องเที่ยวเสียมากกว่า อย่างเช่นนั่งชมวิว ชมอ่าวชมหาดทราย หรือชมการแสดง Symphony of Lights
บัตรปลาหมึกเที่ยวฮ่องกง (Octopus Card)
บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แทนเงินสดสำหรับการใช้จ่ายแทบทุกอย่างในฮ่องกง บัตรเดียวเที่ยวสะดวกสุดๆ สามารถใช้ขึ้นรถไฟ MTR รถราง รถเมล์ รวมถึงใช้ซื้อของกินจากร้านอาหารฟาสฟู้ด ซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ต ใช้ซื้อตั๋วหนัง จ่ายค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว ไปจนถึงจ่ายค่าที่จอดรถก็ยังได้เลยละ มีให้เลือกทั้งแบบเช่าและแบบซื้อ ตามหาจับจองบัตรนี้ได้ในสนามบินฮ่องกง สถานีรถไฟ MTR และตามร้านสะดวกซื้อ
สถานที่ท่องเที่ยวฮ่องกงล่าสุด
ที่เที่ยวเกาลูน (Kowloon)
พื้นที่บนฝั่งแผ่นดินใหญ่ของฮ่องกง มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น เป็นที่ตั้งของย่านช้อปปิ้งฮ่องกงหลายๆย่าน มีที่พักให้เลือกพักมากมาย รวมทั้งมีร้านอาหารชื่อดังหลายแห่ง ที่เที่ยวก็มีเยอะ เต็มที่ไปด้วยทั้งแสงสีเสียงเลยทีเดียวเชียว
ย่านมงก๊ก (Mong Kok)
หนึ่งในย่านที่ตั้งอยู่ในเขตเยาซิมหมง (Yau Tsim Mong) ย่านนี้คึกคักมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยร้านค้าที่ล้วนขายของราคาถูก นอกจากนี้เรายังสามารถต่อรองราคาสินค้าในย่านนี้ได้อีกด้วย คุ้มในคุ้มขนาดนี้ ต้องแวะมงก๊กสักหน่อยไหมล่ะ
เลดี้ส์ มาร์เก็ต (Ladies Market)
ตลาดบนถนนคนเดินกลางคืน สวรรค์ของนักท่องเที่ยวสายช้อปโดยเฉพาะ ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอางค์ สินค้าของก็อป ตุ๊กตา ของฝาก ของที่ระลึก ที่นี่มีหมดเลย ราคาก็ถู๊กถูก ขอเชิญทุกคนเลือกจับจ่ายใช้สอยกันได้ตามสบาย
ห้างแลงแฮม เพลส (Langham Place Mall)
ห้างนี้เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางย่านมงก๊กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย ภายในห้างนี้มีซุเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้าต่างๆ ไฮไลท์ของศูนย์การค้านี้คือสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของทางเดินโค้งวนที่เรียกว่า เดอะสไปรอล (The Spiral)
ถนนไซเยิงชอยใต้ (Sai Yeung Choi St South)
แหล่งรวมสินค้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีขายทุกอย่างตั้งแต่โทรศัพท์มือถือยันเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารให้แวะพักเติมพลัง และร้านขายสินค้าชนิดอื่นๆให้ช้อปสลับกันไปอีกด้วย ส่วนช่วงกลางคืนที่นี่จะกลายร่างไปเป็นถนนคนเดินที่น่าแวะมาสำรวจ
ถนนตลาดดอกไม้ (Flower Market Road)
อารมณ์ประมาณปากคลองตลาดในไทยนั่นแหละ แหล่งช้อปดอกไม้นานาชนิด ที่นี่หาได้แม้แต่ดอกไม้เมืองหนาว บรรยากาศก็น่าเดินสุด ดอกไม้สวยๆเรียงรายตลอดทาง จัดวางเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ละร้านก็มีคอนเซปเป็นของตัวเองทำให้เดินดูได้ไม่มีเบื่อเลย
ย่านจิมซาจุ่ย (Tsim Sha Tsui)
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกกันอีกหน่อยที่นี่ อีกหนึ่งย่านที่ต้องมาให้ได้เลย เพราะนอกจากย่านนี้จะเต็มไปด้วยที่ช้อปแล้ว ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆหลายแห่งเลย มาเที่ยวที่ย่านนี้ได้ทั้งช้อป กิน เที่ยว รูปถ่ายสวยๆ และประสบการณ์ดีๆอีก ครบรสสุดๆ
พิพิธภัณฑ์อวกาศฮ่องกง (Hong Kong Space Museum)
ที่เที่ยวในจิมซาจุ่ย บอกเล่าเรื่องราวของสิ่งที่อยู่นอกโลกของเราผ่านการจัดแสดงและกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมได้ ภายในตัวอาคารแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ มีทั้งโรงหนัง เครื่องเล่น และการแสดงโชว์ต่างๆที่เต็ม แวะเติมเกร็ดความรู้กันได้ที่พิพิธภัณฑ์นี้เลย
อ่าววิคตอเรีย (Victoria Harbour)
อ่าวที่แบ่งเกาะฮ่องกงออกจากเกาลูนนั่นเอง เป็นสถานที่เที่ยวฮ่องกงกลางคืนที่วิวสวยติดอันดับโลก จุดถ่ายรูปฮ่องกงที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างแวะมาเก็บภาพประทับใจกัน นอกจากวิวขอบฟ้าที่สวยแทบลืมหายใจแล้ว อ่าวนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่คูลๆหลายแห่งอีกด้วย
ซิมโฟนี่ออฟไลท์ (Symphony of Lights)
การแสดงมัลติมีเดียที่จัดขึ้นบนฝั่งของอ่าววิคตอเรีย ประกอบไปด้วยแสงสีสวยงามอลังการ เลเซอร์ ไฟ LED ร่วมกับเพลงซิมโฟนีของวงดุริยางค์ที่มีความคึกคักและสดใสในตัว กรุ่นไปด้วยกลิ่นอายของความร่วมสมัยผสมกับความขลังของเครื่องดนตรีสไตล์จีนโบราณ
ห้างฮาร์เบอร์ซิตี้ (Harbour City)
ห้างที่โด่งดังที่สุดของฮ่องกงนี้ คือแหล่งช้อปปิ้งสุดหรูขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนฝั่งของอ่าววิคตอเรีย มีของแทบจะทุกแบรนด์เลยทีเดียว ถัดจากที่นี่ไปไม่ไกลจะเจอห้างสำหรับช้อปเอ้าเลทฮ่องกงที่ฮอตไม่แพ้กันคือ ห้างไชน่า ฮ่องกง ซิตี้ (China Hong Kong City)
ย่านหว่องไทซิน (Wong Tai Sin หรือ Chuk Un)
เขตเดียวจากทั้งหมด 18 เขตของฮ่องกงที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นของตัวเอง เป็นที่ตั้งของทั้งวัดดังและตึกสูงๆ ด้วยเหตุนี้ย่านนี้จึงได้ชื่อว่าเต็มไปด้วยการผสมผสานกันของความเงียบสงบ ผ่อนคลาย และความคึกคักของผู้คน กลายมาเป็นหนึ่งในที่เที่ยวฮิตติดอันดับ
วัดหวังต้าเซียน หรือ วัดหว่องไทซิน (Wong Tai Sin Temple)
วัดหวังต้าเซียนที่คนไทยรู้จัก หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ วัดหว่องไทซินนั่นเอง ตั้งอยู่ในย่านหว่องไทซิน (Wong Tai Sin) ย่านที่ตั้งชื่อตามวัดแห่งนี้ ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดหมายของสายมูเที่ยวฮ่องกง เหล่าคนโสดนิยมมาไหว้พระขอพรด้านความรัก ด้ายแดงฮ่องกงของแท้ต้องมาที่วัดนี้เท่านั้นนะ
ถนนหลงเซียง (Lung Cheung Road)
ถนนสายหลักที่ทอดตัวยาวระหว่างทิศตะวันตกและทิศตะวันออกในเกาลูน บนถนนสายนี้มีจุดชมวิวที่สามารถชมความสวยงามของท่าเรือวิคตอเรียได้แบบเหมาะเจาะ รวมถึงเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าหลงเซียงพลาซ่า (Lung Cheung Plaza) และ ห้างเทมเปิ้ลมอลล์ (Temple Mall)
สวนตักฟุง (Fung Tak Park)
สวนสาธารณะที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมจีน นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาชมความสวยงามนี้ได้ทั้งบนกำแพงของสวน ทางเดิน และบนสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีหินรูปทรงแปลกๆที่เป็นเอกลักษณ์ และภูเขาจำลองน่ารักๆ ถูกจัดแสดงไว้ท่ามกลางแมกไม้ร่มรื่น
ย่านไดมอนด์ฮิลล์ (Diamond Hill)
ย่านไดมอนด์ฮิลล์ ได้ชื่อนี้มาจากเนินเขาไดมอนด์ฮิลล์ (Diamond Hill) อีกทั้งชื่อนี้ยังเป็นชื่อของสถานีรถไฟ MTR ในพื้นที่อีกด้วย ย่านนี้เป็นที่ตั้งของที่เที่ยวฮ่องกงและสิ่งปลูกสร้างที่มีอายุนานหลายร้อยปี รวมถึงสถาปัตยกรรมงดงามหลายแห่ง
สวนหนานเหลียน (Nan Lian Garden)
สวนสาธารณะบรรยากาศดี มีแต่ความเงียบสงบ ต้นไม้ร่มรื่น ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมโบราณสไตล์จีนผสมกับญี่ปุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ หรือพักจากความวุ่นวายในเมืองมาสูดบรรยากาศผ่อนคลาย มีสะพานเชื่อมไปยังวัดที่ตั้งอยู่ข้างกัน
วัดนางชีฉีหลิน (Chi Lin Nunnery)
วัดเก่าแก่ที่เชื่อมติดอยู่กับสวนหนานเหลียน ถูกสร้างขึ้นในปี 1934 โดยความว้าวอยู่ที่ตัววัดสร้างจากไม้ล้วนๆ ไม่มีตะปูเหล็กเลยแม้แต่ตัวเดียว ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ที่ดูคล้ายกับญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน ภายในบริเวณของวัดมีสระดอกบัวใหญ่สวยงาม
ห้างฮอลลีวูดพลาซ่า (Plaza Hollywood)
ใครว่าไดมอนด์ฮิลล์ไม่มีที่ช้อป นี่เลยห้างฮอลลีวูดพลาซ่า มีของให้เลือกซื้อหลากหลาย ทั้งเสื้อผ้า ที่ช้อปปิ้งมากมาย รวมถึงร้านอาหารอร่อยและที่เดินเล่นสุดเพลิน ใครชมวัดชมสวนแล้วเหนื่อย แวะมาพักที่นี่ได้เพราะอยู่ไม่ไกลกันมาก
ที่เที่ยวเกาะฮ่องกง (Hong Kong Island)
เกาะฮ่องกงแห่งฮ่องกง ที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด โดยการเดินทางจากเกาลูนนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟ MTR รถบัส รถทัวร์ หรือเรือเฟอรี่เพื่อข้ามฟากมายังเกาะฮ่องกงได้ง่ายๆ แป้ปเดียวถึง ใช้เวลาไม่นานเลย
เขตกลางและตะวันตก (Central and Western District)
เขตศูนย์กลางธุรกิจที่เป็นเมืองหลักของฮ่องกง เขตนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะฮ่องกง แม้ว่าจำนวนประชากรของเขตนี้จะไม่มาก แต่ประชากรในเขตกลางและตะวันตกมีการศึกษามากที่สุด รวมถึงมีรายได้ต่อหัวสูงสุดเป็นอันดับต้นๆของฮ่องกงเลยละ
เดอะพีค (The Peak)
จุดที่สูงที่สุดของเกาะฮ่องกง และเป็นย่านไฮโซที่หรูที่สุด เนื่องจากเหล่าเศรษฐีฮ่องกงและคนดังทั้งหลายอาศัยอยู่ที่นี่กันเยอะ วิวก็สวย ตอนกลางวันสามารถมองเห็นวิวเนินเขา ชมท้องฟ้าเปลี่ยนสียามพระอาทิตย์ตก และชมแสงไฟสวยงามระยิบระยับจากตึกทั้งหลายในตอนกลางคืน
ถนนฮอลลีวูด (Hollywood Road)
เนื่องจากถนนเส้นนี้เคยเป็นถนนสายหลักของเมืองในด้านการค้า ทำให้ถนนนี้เต็มไปด้วยตึกเก่าบนทั้งสองข้างทาง สัมผัสกับกลิ่นอายฮ่องกงยุคโบราณกันไปเต็มๆได้ที่นี่ ปัจจุบันถนนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของมีร้านค้า ร้านขายของเก่า ร้านขายงานศิลป์ และคาเฟ่แนวๆให้แวะเช็คอินสวยๆ
ถนนแคทสตรีท (Cat Street Antique Market หรือ Upper Lascar Row)
ถนนนี้มีร้านขายของสะสมและของเก่าเยอะที่สุด ทั้งของแต่งบ้าน เครื่องลายคราม ผลงานศิลปะ ของเก่า สินค้าสไตล์วินเทจ งานฝีมือแฮนด์เมด ของมือสอง ฯลฯ สินค้าบางชิ้นมีอายุหลายยุคสมัย ผ่านเรื่องราวมามากมาย บางชิ้นเดินทางมาจากอีกซีกหนึ่งของโลก
เดอะ ฟรินจ์ คลับ (The Hong Kong Fringe Club)
อาคารปูนปั้นสไตล์วิคตอเรียที่มีอายุกว่า 100 ปีนี้ ได้ถูกดัดแปลงให้กลายมาเป็นสถานที่สำหรับจัดแสดงงานศิลปะของเหล่าศิลปินหน้าใหม่โดยองค์กรไม่แสวงผลกำไร ภายในตึกประกอบไปด้วยแกลเลอรี่ เวทีสำหรับการแสดงดนตรีสด อัฒจรรย์ รวมถึงบาร์ คาเฟ่ และร้านอาหาร
เขตภาคใต้ (Southern District)
เขตนี้มีจำนวนประชากรน้อยเป็นอันดับหนึ่งของฮ่องกง ครอบคลุมพื้นที่ทางตอนใต้ของเกาะ เต็มไปด้วยธรรมชาติเขียวขจี มีที่เที่ยวเด็ดๆเยอะ กิจกรรมแยะ สถานที่ดังๆหลายแห่งก็ตั้งอยู่ในเขตภาคใต้ของเกาะฮ่องกงนี่แหละ
อ่าวรีพัลส์เบย์ (Repulse Bay)
อ่าวที่มีความสำคัญของฮ่องกงนี้ เป็นที่ตั้งของวัดเจ้าแม่กวนอิม หรือ วัดทินหัว (Tin Hau Temple) ที่โด่งดังขึ้นชื่อว่าเจ้าแม่กวนอิมเป็นเทพที่ศักดิ์สิทธิ หากขอพรด้วยแล้วจะสมหวังดังปราถนา นักท่องเที่ยวสายมูต่างก็หลั่งไหลกันมาขอพรมากมาย
โอเชี่ยนพาร์คฮ่องกง (Ocean Park Hong Kong)
โอเชี่ยนพาร์คฮ่องกง หรือเรียกสั้นๆได้ว่า โอเชี่ยนพาร์ค (Ocean Park) สถานที่ท่องเที่ยวฮ่องกงที่รวมทุกความสนุกไว้ในที่เดียว ภายในพื้นที่มีทั้งสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สวนสาธารณะตีมสัตว์โลกน่ารัก และสวนสนุก ออลอินวันขนาดนี้ เข้าไปแล้วจะออกมาอีกทีวันไหนดีนะ
เขาหลังมังกร (Dragon's Back)
เส้นทางเดินเขาที่ประกอบไปด้วยจุดชมวิว 4 จุด สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเกาะได้ โดยจุดชมวิวที่ดังที่สุดคือจุดสุดท้าย มีชื่อว่าอ่าวบิ๊ก เวฟ เบย์ (Big Wave Bay) ตั้งอยู่ในย่านเช็คโอ (Shek O) ซึ่งที่จุดนี้เราสามารถลงเล่นน้ำหรือเล่นกระดานโต้คลื่นได้ด้วย
ตลาดสแตนลีย์ (Stanley Market)
จตุจักรฮ่องกงที่ตั้งอยู่ริมทะเล ที่นี่คือตลาดขายของสไตล์จีนๆ ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของแต่งบ้าน ของที่ระลึก ล้วนมีกลิ่นอายและมีความเป็นเอเชียสุดๆ เป็นที่โปรดปรานสำหรับทั้งชาวฮ่องกงเองและเหล่านักท่องเที่ยว เดินชิว ของถูก ได้ชมวิวทะเลไปพลางๆอีกด้วยแน่ะ
ที่เที่ยวเกาะลันเตา (Lantau Island)
เกาะที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง มีพื้นที่ป่าอย่างเยอะจนได้รับขนานนามว่าเป็นปอดของฮ่องกงเลยทีเดียว บนเกาะนี้มีที่เที่ยวฮ่องกงทางธรรมชาติอัดแน่น วิวสวย และแม้แต่ความสนุกก็มีมากอยู่ไม่แพ้กัน จัดทริปฮ่องกงอย่าลืมแพลนแวะเที่ยวเกาะลันเตากันด้วยนะ
ดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง (Hong Kong Disneyland)
หรือที่เรียกกันว่า ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ นั่นแหละ นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงด้วยตัวเอง เพราะที่นี่เค้ามีแผนที่แจกให้ พื้นที่ใหญ่ขนาดไหนก็ไม่ต้องกลัวหลงเลย โดยตั๋วดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2600 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และ 2000 บาท สำหรับเด็ก ทั้งนี้นักท่องเที่ยวควรซื้อบัตรไว้ล่วงหน้าก่อนไปจะดีกว่า
ภายในพื้นที่ของดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงมีโรงแรมตั้งอยู่ หากใครจองโรงแรมที่นี่ เล่นเครื่องเล่นเสร็จก็ได้พักตรงนั้นเลย ตื่นมาก็ได้เวลาสนุกต่อ
ในส่วนของวิธีการเดินทางไปดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงนั้นก็ไม่ซับซ้อน เพียงนั่ง MTR ไปลงที่สถานี Sunny Bay แล้วต่อสายสีชมพูอ่อนไปลงที่สถานี Disneyland Resort ก็ถึงแล้ว
นองปิง 360 (Ngong Ping 360)
วิธีเดินทางขึ้นไปสักการะพระใหญ่แห่งนองปิงบนยอดเขามุกเย่ (Muk Yue) เตรียมตัวรับวิวทะเลและวิวเมืองแบบ 360 องศาได้เลยล่ะ มีทั้งกระเช้าแบบปกติและกระเช้าใส เมื่อไปอยู่บนเขาแล้วจะพบกับร้านค้า สามารถหาซื้อของที่ระลึกระหว่างทางขึ้นไปสู่ยอดเขาได้
องค์พระใหญ่เทียนถาน (The Big Buddha หรือ Tian Tan Buddha)
ตั้งอยู่บนยอดเขามุกเย่ องค์พระมีความสูง 34 เมตร ยิ่งใหญ่อลังการและสง่างามมากๆ ส่วนฐานประกอบด้วยเจดีย์ 3 ชั้น องค์พระใหญ่มีความศักดิ์สิทธิ์ ว่ากันว่าขอพรด้วยแล้วจะสมปราถนา ไหว้พระเสร็จแล้วสามารถชมวิวจากบนยอดเขา มองเห็นวิวเกาะลันตาและทะเลจีนใต้เต็มๆ
เส้นทางแห่งปัญญา (The Wisdom Path)
ถัดลงมาที่เนินเขาจะพบกับเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวน 38 ต้น ห้อมล้อมไปด้วยวิวภูเขาและต้นไม้เขียวขจี เสาแต่ละต้นมีความสูง 8 - 10 เมตร แกะสลักบทสวดของศาสนาพุทธไว้ในภาษาจีน จากมุมด้านบนจะสามารถมองเห็นเสาไม้เหล่านี้ตั้งเรียงกันเป็นรูปอินฟินิตี้ ∞ (infinity)
หมู่บ้านชาวประมงไทโอ (Tai O Fishing Village)
หมู่บ้านที่กรุ่นไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน โดยความโด่งดังของหมู่บ้านนี้มาจากการที่ ที่นี่เป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงฮ่องกงโบราณที่ยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงปัจจุบันนั่นเอง มีความสวยคลาสสิกสุดๆ ถึงขนาดได้ชื่อว่าเป็นเวนิสแห่งตะวันออกเลยละ
อ่าวดิสคัฟเวอรี่เบย์ (Discovery Bay)
ริมทะเลฮ่องกงเขาก็มีความคึกคักเหมือนกันนะ หาดของเมืองตากอากาศนี้มีความยาวประมาณ 400 เมตร เป็นที่ตั้งของกิจกรรมและความบันเทิงหลากหลาย ทั้งคลับ สนามกอล์ฟ ไปจนถึงยอชท์คลับ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ที่น่าสนใจมากมาย
ซิตี้เกทเอ๊าท์เล็ตส์ (Citygate Outlets)
ห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่ขายสินค้าจากกว่า 80 แบรนด์ แต่ละเจ้าก็ลดแลกแจกแถมกัน ปีโปรตลอดทั้งปี นอกจากสินค้าแฟชั่น สินค้ากีฬา เครื่องสำอางค์ กระเป๋า น้ำหอม ของเด็กเล่น และของใช้ในบ้านแล้ว ที่นี่ยังมีสปา ร้านอาหาร โรงละครกลางแจ้ง และโรงแรมในตัวอีกด้วย
ป้อมตุงชุง (Tung Chung Fort)
ป้อมปราการโบราณที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์นี้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1832 เพื่อปกป้องเมืองจากผู้ลักลอบและเหล่าโจรสลัด จากนั้นกลายเป็นศูนย์บัญชาการทหารในช่วงของราชวงศ์ชิง (Qing Dynasty) และปัจจุบันได้กลายมาเป็นสถานที่เช็คอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
โบสถ์ Our Lady of Joy Abbey หรือ Trappist Haven Monastery
โบสถ์โรมันคาทอลิกบนเกาะลันเตาที่โด่งดัง ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลและถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขา สวยงามและเงียบสงบ ภายในบริเวณประกอบไปด้วยโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม วิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่มารี หอพักนักบุญ และสวนร่มรื่นเล็กๆ
ทางเดินป่าลันเตา (Lantau Trail)
ทางเดินป่าที่ทอดตัวยาว 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง ธรรมชาติเงียบสงบ ป่าเขาเขียวขจี ทิวทัศน์สวยงาม อากาศก็สดชื่น เหมาะสำหรับการหลบหลีกความวุ่นวายมาสูดอากาศดีๆ แวะมาพักผ่อน ชมวิวแบบ 360 องศาจากบนยอดเขาที่นี่กันได้
ที่พักฮ่องกง
ไปฮ่องกงพักที่ไหนดี? จริงๆแล้วฮ่องกงมีที่พักให้เลือกหลากหลาย ทั้งที่พักราคาถูกไปจนถึงโรงแรม 5 ดาว โดยส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวสามารถเลือกพักใกล้สถานที่ๆจะไป เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทาง บางคนอาจเน้นที่พักใกล้แหล่งช้อปปิ้งอย่างย่านมงก๊ก บางคนชอบพักในเกาลูน บางคนอาจหาโรงแรมใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน MTR หรือหาที่พักตาม Airbnb ท้ายที่สุดแล้วควรเลือกที่พักที่สะดวกและเหมาะสมกับแพลนเที่ยวของแต่ละคน
ของฝากฮ่องกง
ของกิน
- ไข่ม้วน
ไข่ม้วนฮ่องกงโฮมเมดของร้าน Duck Shing Ho โด่งดังเลื่องชื่อ ของแท้มีแค่สาขาเดียวเท่านั้น ขายดีจนหลายๆคนรอคิวนานกว่า 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว มีขายอยู่ทั้งหมด 3 รสชาด คือ ดั้งเดิม เนย และมะพร้าว
- ทาร์ตไข่
กรอบนอกนุ่มในขนาดนี้ใครก็รัก ขอบอกไว้ก่อนว่าทาร์ตไข่ที่นี่รสชาดแตกต่างไปจากของไทยนะ มีขายอยู่ทั่วไปในฮ่องกงทำให้หาซื้อได้ง่าย แต่ถ้าให้แนะนำต้องเป็นร้าน Cheung Heung Yuen Restaurant ร้าน Tai Choeng และ ร้าน Hoover Cake Shop
- ช็อกโกแลต 3 มิติ
ของดีฮ่องกง ช็อกโกแลตของแบรนด์ Ryan L Foote ที่นอกจากรูปร่างจะเป็น 3 มิติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว ทางแบรนด์ยังใช้เทคนิคในการผลิตแบบดั้งเดิม ทำให้รสชาดคงความคลาสสิกไว้ วัตถุดิบที่ใช้ก็เน้นเป็นของท้องถิ่นฮ่องกง
- คุกกี้
แนะนำคุกกี้ร้าน Jenny Bakery เบเกอรี่ช็อปที่มี signature เป็นกล่องตุ๊กตารูปหมี ที่นี่เขามีคุกกี้หลากหลายสไตล์ให้เลือกชิมเลือกซื้อกัน หนึ่งในไอเดียของฝากจากฮ่องกงที่อร่อยหวานมัน ตราตรึงใจผู้รับ
- บิสกิตแท่งอบกรอบ
ขนมแท่งอบกรอบยี่ห้อ Pretz ที่เราคุ้นเคยกัน ที่ฮ่องกงเค้ามีรสที่แตกต่างไปจากที่ไทย เช่น รสเป๋าฮื้อ และ รสหูฉลาม ซื้อกลับไปลองกรุบกรอบกันได้ หรือจะซื้อให้เพื่อนเป็นของฝากก็ร้องว้าวกันแน่นอน
- ชาจีน
ชาจากร้านน้ำชาและติ่มซำ LUK YU เจ้าของรางวัล Michelin Star ใบชาสดแปรรูปกลิ่นหอมเข้มข้น มีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือก อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงทางเดินอาหาร เป็นทางเลือกของฝากที่ดีต่อสุขภาพสุดๆ
ตราประทับชื่อ
ตราประทับชื่อแบบที่เราเห็นในซีรีย์จีนนั้นช่างโซคูล ที่ฮ่องกงมีร้านที่รับทำตราประทับสไตล์ราชวงศ์จีนโบราณด้วย เพียงไปที่ร้านแล้วแจ้งชื่อ ทางร้านจะแปลชื่อคุณเป็นภาษาจีนเพื่อใช้บนตราประทับ โดยวัสดุที่ใช้ทำก็มีให้เลือกว่าจะใช้เป็นไม้ โลหะ หยก หินอ่อน หรือพลาสติก
เครื่องรางนำโชค
หาซื้อเครื่องรางที่เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อน และครอบครัว เพื่อส่งเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตกันเถอะ เครื่องรางฮ่องกงตามวัดต่างๆมีให้เลือกตามวัตถุประสงค์ของผู้ถือครอง เช่น ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป ขจัดอุปสรรค ภัยและอันตราย นำพาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต ส่งเสริมด้านสุขภาพ ความรัก การงาน การเรียน โชคลาภ การเงิน เดินทางปลอดภัย ฯลฯ
เครื่องประดับหยก
ของฝากที่มีมูลค่าในตัวเอง สัญลักษณ์แห่งความสวยงาม ความบริสุทธิ์ อายุที่ยืนยาว และสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัย เครื่องประดับหยกมาในหลากหลายรูปแบบ เช่น ต่างหู จี้ แหวน กำไล สร้อยคอ หรือแม้แต่พวงกุญแจ
เครื่องเซรามิคลายคราม
เครื่องเซรามิคลายครามสไตล์จีนโบราณ พื้นสีขาว ลวดลายสีฟ้าสวยงามอลังการ ราคาขึ้นอยู่ความละเอียดของงานและขนาดของชิ้นงาน เป็นไอเดียของฝากที่มีความสวยประณีต ละเอียดอ่อนช้อย อากงอาม่ากดไลค์ ญาติผู้ใหญ่ถูกใจแน่นอน
สินค้าแบรนด์ G.O.D. (Goods of Desire)
ของฝากที่ฮ่องก๊ง ฮ่องกง สินค้าของร้านนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมพื้นเมืองของฮ่องกง ผสมผสานอย่างลงตัวเข้ากับความร่วมสมัย มีขายทุกอย่าง ตั้งแต่ของกุ๊กกิ๊กๆชิ้นเล็กไปจนถึงของชิ้นใหญ่ เครื่องเขียน ของแต่งบ้าน เสื้อผ้า ก็มากันหมด
สินค้าแบรนด์ Giordano
แท้จริงแล้วแบรนด์ที่คนไทยคุ้นเคยนี้เป็นแบรนด์สัญชาติฮ่องกงนั่นเอง มาถึงถิ่นก็ต้องซื้อหน่อยจริงไหม มีสไตล์และคุณภาพดีขนาดนี้ ที่สำคัญเลยคือที่ฮ่องกงราคาก็ถูกกว่าที่ไทยไปอีก ช้อปคุ้มๆได้ตามแหล่งช้อปปิ้งในฮ่องกงเลย
เครื่องสำอางค์ น้ำหอม
อันนี้ไม่ต้องพูดเยอะ เรารู้กันว่าเครื่องสำอางค์และน้ำหอมที่ฮ่องกงถูกกว่าไทยมากๆ จะซื้อกลับไปใช้เองหรือฝากเพื่อน ฝากครอบครัวก็ได้หมด โกยได้รีบโกยเลยจ้า
รองเท้าผ้าใบ
ในย่านมงก๊กมีร้านขายรองเท้าผ้าใบและอุปกรณ์กีฬามากมาย มีเกือบทุกแบรนด์ทุกรุ่น หาดีๆอาจได้ราคาถูกกว่าซื้อจากช็อปด้วยนะ คุ้มขนาดนี้ต้องได้อย่างน้อยสักคู่นึงแล้วละ
โมเดลของเล่น ฟิกเกอร์
เอาใจสายสะสมของกันบ้าง ในย่านมงก๊กมีร้านขายโมเดลเยอะมาก มีหลากหลายประเภทให้ซื้อสะสมกัน ใครตามหาของแรร์ลองแวะไปดู อาจได้ของหายากติดมือกลับบ้านในราคาดีด้วยนะ
บทส่งท้าย
ฮ่องกงเป็นสถานที่ๆเกิดจากการผสมผสานกันที่ลงตัวของตะวันตกและตกวันออก วัฒนธรรมและความร่วมสมัย ตึกสูงใหญ่และธรรมชาติ ความคึกคักของแสงสีและความเงียบสงบที่อยู่ร่วมกัน เรียกได้ว่าบาลานซ์มากๆ นอกจากนี้ยังมอบประสบการณ์ดีๆรอบด้านให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ช้อปกระจายกันไป อิ่มอกอิ่มใจไปกับแต้มบุญที่ได้รับมาจากวัด อาหารก็อร่อย วิวก็ดีงาม เที่ยวเองก็ไม่ยาก ฮ่องกงนี่ช่างตอบโจทย์ชาวเราเสียจริง ดีไปหมดขนาดนี้ต้องรีบจัดทริปไปฮ่องกงกันแล้วล่ะ
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฮ่องกง
ไปฮ่องกงเดือนไหนดี
จากทั้งหมด 4 ฤดูกาลของฮ่องกง ประมาณเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม หรือระหว่างฤดูใบไม้ร่วง อากาศที่ฮ่องกงจะเหมาะกับการไปเที่ยวมากๆ เพราะไม่ค่อยมีฝน อากาศเย็นกำลังดี อุณหภูมิไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไปที่ 23 - 25 องศา อย่างไรก็ตามก่อนถึงวันเดินทางนักท่องเที่ยวอาจเช็คพยากรณ์อากาศให้แน่ใจอีกครั้ง เพราะแต่ละปีอาจมีการคลาดเคลื่อนกันในช่วงระยะเวลาของฤดูกาลต่างๆ
ไปฮ่องกงกี่วันดี
การไปเที่ยวฮ่องกงแนะนำว่าควรมีอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน แต่ถ้าหากนักท่องเที่ยวต้องการได้ประสบการณ์การการเที่ยวฮ่องกงแบบเต็มเหนี่ยว เก็บครบทุกอย่างที่ห้ามพลาดเลยนั้น ประมาณ 5 วัน 4 คืน จะเหมาะสมที่สุดสำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช็คอินตามสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ดื่มด่ำไปกับสถานที่แต่ละแห่ง ช้อปปิ้งให้เต็มเหนี่ยว ชิมอาหารตามร้านเด็ด เดินเล่นชมวิวแบบไม่เร่งรีบจนเกินไป ก่อนการเดินทางกลับพร้อมความทรงจำดีๆอย่างเต็มอิ่ม
ตั๋วเครื่องบินไปฮ่องกงราคาเท่าไหร่
ตั๋วเครื่องบินจากไทยไปฮ่องกงนั้นมีหลากราคา ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ซื้อตั๋วโดยตรงจากเว็บของสายการบินหรือไม่ มีโปรโมชั่นหรือเปล่า ซื้อล่วงหน้านานขนาดไหน จะบินวันอะไรในสัปดาห์ อยู่ระหว่างหรือนอกเทศกาลท่องเที่ยว เที่ยวบินตรงหรือเปล่า ฯลฯ โดยราคาตั๋วไปฮ่องกงส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มต้นที่หลักพัน และมีราคาสูงขึ้นไปจนถึงหลักหมื่น
เลือกที่พักในฮ่องกงอย่างไร
ฮ่องกงมีที่พักมากมายให้เลือกตามความต้องการของแต่ละคนเลย ทั้งโรงแรมแบบราคาประหยัดไปจนถึงที่พักพรีเมี่ยมสุดหรู นอกจากปัจจัยเรื่องราคาแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถพิจารณาเลือกที่พักฮ่องกงตามความต้องการพิเศษ เช่น พักในระยะใกล้เคียงกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะแวะ พักในย่านต่างๆที่สะดวกสำหรับการช้อปปิ้ง พักไม่ไกลจนเกินไปจากสถานีรถไฟใต้ดิน หรือพักใน Airbnb เพื่อรับประสบการณ์ที่แตกต่าง อย่างไรก็ตามควรเลือกที่ๆสะดวกและเหมาะสม สอดคล้องกับแผนการเที่ยวของตัวเองเป็นหลัก
ไปฮ่องกงซื้ออะไรเป็นของฝากดี
อันดับหนึ่งคือของกิน เช่น ไข่ม้วน ทาร์ตไข่ ช็อกโกแลต คุกกี้ บิสกิตแท่งอบกรอบ และชาจีน รองลงมาคือของที่ระลึกที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์อย่างตราประทับชื่อ สินค้าแบรนด์ฮ่องกงต่างๆ และเครื่องเซรามิคลายครามสไตล์ฮ่องกง สำหรับสายมูจะเป็นพวกเครื่องรางนำโชคจากวัดชื่อดังในฮ่องกง นอกจากนี้แล้วเครื่องประดับที่ทำจากหยกในฮ่องกงมีคุณภาพสูง จึงเป็นไอเดียของฝากที่น่าประทับใจเช่นกัน นักท่องเที่ยวหญิงสามารถหาซื้อเครื่องสำอางค์และน้ำหอมราคาดีได้ตามแหล่งช้อปปิ้งที่ฮ่องกง ส่วนรองเท้าผ้าใบจะเป็นที่นิยมซื้อกันในหมู่นักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว อีกอย่างหนึ่งคือในฮ่องกงมีขายโมเดลของเล่นและฟิกเกอร์สำหรับสะสมเยอะเลยล่ะ