คู่มือเที่ยวออสเตรเลียด้วยตัวเอง อัพเดทล่าสุด 2567
ออสเตรเลีย อีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวไม่ไกลบ้านเรา พร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์ความผสมผสานกันที่ลงตัวของความเจริญและธรรมชาติที่งดงามให้กับคุณ เตรียมสัมผัสกับเมืองสวยศิวิไลซ์ ทิวทัศน์อลังการ ป่าไม้เขียวขจี และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ที่ออสเตรเลีย ประเทศนี้เขามีจุดท่องเที่ยวเยอะ อากาศก็ดี เที่ยวเองก็ง๊าย ง่าย แต่หากใครที่ยังไม่แน่ใจว่าเตรียมตัวยังไงดี จะไปออสเตรเลียเที่ยวที่ไหนดี วันนี้ 12Go จะมาแนะนำวิธีเตรียมตัวเที่ยวออสเตรเลียเอง อ่านกันได้ที่นี่เลย!
ข้อมูลประเทศออสเตรเลีย
ประเทศออสเตรเลีย (Australia) มีสภาพเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ตรงใจกลางระหว่างมหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแอนตาร์กติก และมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งที่ตั้งนี้อยู่ในทวีปโอเชียเนีย (Oceania) ใกล้กับประเทศนิวซีแลนด์ ปาปัวนิกินี และอีกหลายประเทศหมู่เกาะเพื่อนบ้าน
รัฐและเขตแดนต่างๆของออสเตรเลีย
แผนที่รัฐและเขตแดนการปกครองภายในของประเทศออสเตรเลีย
ออสเตรเลียถูกแบ่งออกเป็น 6 รัฐ ประกอบไปด้วย นิวเซาท์เวลส์ (New South Wales) ควีนส์แลนด์ (Queensland) เซาท์ออสเตรเลีย (South Australia) แทสเมเนีย (Tasmania) วิกตอเรีย (Victoria) และเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Western Australia) 2 เขตแดนการปกครองภายใน คือ มณฑลนครหลวงของออสเตรเลีย (Australian Capital Territory) และ นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี (Northern Territory) และ 8 เขตแดนการปกครองภายนอก โดยในแต่ละรัฐและเขตแดนต่างก็มีเมืองหลวงเป็นของตัวเอง ส่วนเมืองหลวงของประเทศออสเตรเลีย คือ แคนเบอร์รา (Canberra) ซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลนครหลวงของออสเตรเลียนั่นเอง
ภูมิประเทศของออสเตรเลีย
แผนที่ภูมิประเทศออสเตรเลีย
เนื่องจากออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่มาก พื้นที่โดยรวมกว่า 7 ล้านตารางกิโลเมตร และเป็นเกาะ ทำให้ประเทศนี้มีความหลากหลายทางภูมิประเทศเป็นอย่างมาก หากมองแผนที่ออสเตรเลียตามหลักภูมิศาสตร์แล้ว จะเห็นได้ว่าออสเตรเลียมีทั้งพื้นที่ราบ ภูเขา ทะเลทราย ทุ่งหญ้า และป่าไม้
สภาพอากาศที่ประเทศออสเตรเลีย
ด้วยขนาดที่ใหญ่มากของประเทศออสเตรเลีย ทำให้ภูมิอากาศที่ออสเตรเลียนั้นมีความแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ โดยสภาพอากาศทั่วไปเป็นแบบเขตอบอุ่นถึงเขตร้อน และมีด้วยกันทั้งหมด 4 ฤดูกาล
ฤดูใบไม้ผลิ
อากาศอุ่นขึ้นเรื่อยๆ ดอกไม้ผลิบาน ธรรมชาติสดชื่นเขียวขจี เริ่มตั้งแต่ประมาณช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน อุณหภูมิที่ประเทศออสเตรเลียเฉลี่ยอยู่ที่ 9 ถึง 18 องศา โดยจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับฤดูใบไม้ผลิคือมณฑลนครหลวงของออสเตรเลียและรัฐวิกตอเรียที่จะคึกคักกันเป็นพิเศษในช่วงนี้เพราะมีสภาพอากาศที่น่าเที่ยวที่สุด นักท่องเที่ยวนิยมเข้าร่วมกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ เช่น ชมเทศกาลดอกไม้บาน สดชื่นไปกับธรรมชาติที่มีชีวิตชีวาและอากาศที่ไม่หนาวจนเกินไป
ฤดูร้อน
ฤดูร้อนที่ออสเตรเลียคือช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 30 ถึง 40 องศา สภาพอากาศร้อนจัดและแห้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ เหมาะสำหรับการเดินเล่นริมชายหาดและลงเล่นน้ำอุ่นๆในทะเล ในขณะเดียวกันที่ตอนบนของประเทศอาจมีฝนฟ้าคะนองได้
ฤดูใบไม้ร่วง
ฤดูนี้กินช่วงเวลาประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม อากาศค่อยๆเย็นลงเรื่อยๆ และเย็นเป็นพิเศษในช่วงกลางคืน โดยอุณหภูมิโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 9 ถึง 25 องศา ฤดูใบไม้ร่วงที่ออสเตรเลียนั้นเต็มไปด้วยกิจกรรม เช่น ชมใบไม้เปลี่ยนสี ชิมไวน์ ตั้งแคมป์ริมน้ำ ล่องแก่ง ฯลฯ ด้วยสภาพอากาศที่เย็นกำลังดีในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นอีกฤดูท่องเที่ยวออสเตรเลียที่น่าสนใจ
ฤดูหนาว
หน้าหนาวออสเตรเลียคือช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม อุณหภูมิประมาณ 4 ถึง 18 องศา โดยในภูมิภาคทางตอนใต้และพื้นที่ยกสูงอย่างภูเขาต่างๆจะค่อนข้างเย็นจัดเลยทีเดียว อีกทั้งอาจมีหิมะตกได้ในโซนเทือกเขาต่างๆ อย่างไรก็ตามทางตอนบนของประเทศออสเตรเลียจะหนาวน้อยกว่าอย่างรู้สึกได้ หากใครได้มีโอกาสเที่ยวออสเตรเลียหน้าหนาวในรัฐทางเหนือ อาจไม่เจออากาศเย็นเลยก็เป็นได้ ฤดูนี้เหมาะกับกิจกรรมพายเรือต่างๆ เช่น เรือคายัค เรือแคนู นอกจากนี้การเล่นสกีหิมะก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน กิจกรรมเยอะขนาดนี้จะหนาวแค่ไหนก็สู้เนอะ
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่แวะเที่ยวในพื้นที่ที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงอย่างทะเลทราย อาจมีพบกับความผันผวนของสภาพอากาศ เช่น ร้อนจัดในช่วงกลางวัน แต่หนาวเย็นสุดๆในตอนกลางคืน
ทั้งนี้ ด้วยความที่ออสเตรเลียนั้นใหญ่มาก สภาพอากาศแต่ละที่จึงไม่เหมือนกันไปซะทีเดียว ฤดูกาลอาจมีความคลาดเคลื่อนในแต่ละปีและแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงควรเช็คพยากรณ์อากาศออสเตรเลียให้แน่ใจก่อนการเดินทาง
ฤดูท่องเที่ยวออสเตรเลีย
จริงๆแล้วออสเตรเลียเป็นประเทศที่สามารถเที่ยวได้ทั้งปี แต่หากนับกันที่ความนิยมแล้ว ฤดูท่องเที่ยวออสเตรเลียคือตั้งแต่เดือนกันยายนไปจนถึงเดือนพฤษภาคม หรือฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง เพราะอากาศไม่หนาวจนเกินไป เที่ยวสนุก แต่ละฤดูนั้นมีข้อดีแตกต่างกันไป ฤดูใบไม้ผลิก็เต็มไปด้วยดอกไม้บานสะพรั่งสวยงาม ฤดูร้อนอากาศอบอุ่นเล่นทะเลได้ ส่วนฤดูใบไม้ร่วงสุดโรแมนติกนั้นก็ช่างเหมาะกับการจิบไวน์ชิวๆ
การเตรียมตัวไปเที่ยวออสเตรเลีย
นอกจากเอกสารที่ต้องใช้ กระเป๋าเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน และการจองที่พักแล้ว จะไปเที่ยวออสเตรเลียเองต้องเตรียมอะไรบ้างนะ?
งบเที่ยวออสเตรเลีย
การคำนวนและวางแผนค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ล่วงหน้านั้นมีความสำคัญมากในการไปออสเตรเลีย ทั้งค่าวีซ่า ประกันสุขภาพ ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ค่าเข้าใช้บริการสถานที่ท่องเที่ยว ค่าอาหาร ค่าซื้อของฝากและของที่ระลึก รวมไปจนถึงค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดอื่นๆ รวมกันแล้วเริ่มต้นที่ประมาณ 40000 บาท ทั้งนี้ราคาค่าใช้จ่ายในแต่ละส่วนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับว่าต้องการประหยัดขนาดไหน หากคุณอยากช้อปกระจาย เก็บที่เที่ยวให้ครบเพื่อรับประสบการณ์รอบด้าน อยากเที่ยวออสเตรเลียหลายๆวันหน่อย หรืออยากได้ความสะดวกสบายระหว่างทริป ค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้นไปตามกัน
ค่าเงินออสเตรเลีย
สกุลเงินของประเทศออสเตรเลียคือ ดอลลาร์ออสเตรเลีย (Australian Dollar) ค่าเงินของออสเตรเลียแข็งกว่าค่าเงินของไทย ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินออสเตรเลียเป็นเงินไทยบาทอยู่ที่ประมาณ 23 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 1 บาท มีค่าเท่ากับ 0.043 ดอลลาร์ออสเตรเลียนั่นแหละ
เสื้อผ้าสำหรับใส่ในออสเตรเลีย
ผู้ที่จะไปเที่ยวออสเตรเลียในฤดูอื่นนอกเหนือจากฤดูร้อน ควรเตรียมเสื้อผ้าที่หนาและอุ่นไปด้วย อย่างแรกเลยคือเสื้อผ้าชั้นในที่ให้ความอบอุ่นอย่าง thermal underwear เช่น long johns เสื้อผ้าชั้นถัดออกมาควรมีความหนา ทอละเอียด เช่น เสื้อผ้าที่ทำจากไหมพรม หรือขนสัตว์ และชั้นนอกสุดที่อาจต้องสวมใส่เพิ่มคือ outerwear เช่น เสื้อโค้ท แจ็คเก็ต หรือคาร์ดิแกน หากใครมีแพลนจะไปเที่ยวออสเตรเลียในช่วงหน้าหนาว อาจเตรียมถุงมือไปด้วยเพื่อความอุ่นขั้นสุด หรืออาจหาซื้อ hand warmers ใส่ไว้ในกระเป๋า outerwear เพื่อที่เวลาซุกมือเข้าไปจะได้หายหนาว
ไฟฟ้าที่ออสเตรเลีย
กระแสไฟฟ้าของประเทศออสเตรเลียมีค่าเท่ากันกับที่ไทย คือ 220-250 โวลต์ 50 เฮิรตซ์ แต่ต่างกันที่ปลั๊กไฟ ออสเตรเลียใช้แบบ 3 ขา หัวเฉียงออกจากกัน ดังนั้นก่อนการเดินทางไปออสเตรเลียอย่าลืมเตรียมหัวแปลงปลั๊กไฟไปด้วยนะ
ของต้องห้าม
รายชื่อสิ่งที่ห้ามนำเข้าประเทศออสเตรเลีย อย่าเผลอพกติดกระเป๋าไปเลยเด็ดขาด มีดังต่อไปนี้
- อาหาร
พืชผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม - สิ่งมีชีวิต
สัตว์เลี้ยง แมลง ต้นไม้ ดอกไม้ ผลิตผลจากต้นไม้ทั้งหลาย เปลือกไม้ เชื้อรา - เมล็ดพืช
- อาหารสัตว์ ยาสำหรับสัตว์
- แอลกอฮอล์ บุหรี่ และยาเส้น ในปริมาณที่เกินกำหนด
- อาวุธ
ทั้งอาวุธจริงและปลอม ไม่ว่าจะเป็นปืนจริง ปืนอัดลม สเปร์ยพริกไทย และอื่นๆที่อาจสร้างความบาดเจ็บให้แก่ผู้อื่นได้ - ยา
- ยาเสพติด
- ดิน โคลน และทราย
- สินค้าปลอม หรือ ของก๊อป
- ของที่นำมาจากต่างประเทศหรือซื้อมาโดยไม่เสียภาษี ที่มีมูลค่ามากกว่ากำหนด
การเดินทางไปประเทศออสเตรเลีย
การเดินทางจากไทยไปออสเตรเลียนั้นเราต้องนั่งเครื่องบินไป สายการบินที่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยกับออสเตรเลีย มีให้เลือกใช้บริการหลากหลาย เช่น การบินไทย (Thai Airways) สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) คาเธ่ย์แปซิฟิก (Cathay Pacific) เอมิเรตส์ (Emirates) แควนตัส (Qantas) มาเลเซียแอร์ไลน์ (Malaysia Airlines) สกู๊ต (Scoot) เวียดเจ็ทแอร์ (VietJet Air) เวียดนามแอร์ไลน์ (Vietnam Airlines) บางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways) ไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ (China Southern Airlines) เจ็ทสตาร์ (Jetstar Airways) แอร์เอเชีย (AirAsia) เป็นต้น
เช็คตารางเที่ยวบิน เช็คราคาค่าตั๋วเครื่องบิน หรือจองตั๋วเครื่องบินจากไทยไปออสเตรเลียได้กับ 12Go
จากไทยไปออสเตรเลีย
กรุงเทพ ไป ซิดนีย์
กรุงเทพ ไป บริสเบน
กรุงเทพ ไป เมลเบิร์น
กรุงเทพ ไป เพิร์ท
จากออสเตรเลียกลับไทย
ซิดนีย์ มา กรุงเทพ
บริสเบน มา กรุงเทพ
เมลเบิร์น มา กรุงเทพ
เพิร์ท มา กรุงเทพ
การเข้าประเทศออสเตรเลีย
ทางออสเตรเลียได้ทำการยกเลิกข้อมูลสุขภาพและสถานะการฉีดวัคซีนโควิด19 หรือ Digital Passenger Declaration (DPD) แล้ว ดังนั้นเราจึงไม่ต้องเตรียม DPD สำหรับทริปไปออสเตรเลีย ในส่วนของทาง ตม. ออสเตรเลีย หากใครกังวลว่าจะโดนถามอะไร ขอให้สบายใจได้เลย เพราะว่าเขาก็ถามทั่วๆไปเหมือนทุกประเทศนั่นแหละ เช่น ทำงานอะไร มาทำอะไร พักที่ไหน ฯลฯ หรือในกรณีส่วนมากอาจไม่ถามอะไรเลยด้วยซ้ำ ขอแค่พูดภาษาอังกฤษพอได้บ้างก็รอดฉลุยแล้วละ
ที่เที่ยวออสเตรเลีย
ประเทศออสเตรเลียนั้นมีที่เที่ยวมากมาย ทั้งที่เที่ยวแบบในเมืองและที่เที่ยวทางธรรมชาติ จะเหนือ ใต้ ออก ตก จะบนดินหรือใต้น้ำ แต่ละที่ต่างก็มีเสน่ห์แรงกล้า เรามาเริ่มการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศออสเตรเลียด้วยตัวเองกันดีกว่า
ซิดนีย์ (Sydney)
เมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์และเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรเลีย มหานครสุดคึกคักนี้เต็มไปด้วยแลนด์มาร์ค นอกจากโรงละครโอเปร่าซิดนีย์ (Sydney Opera House) และสะพานท่าเรือซิดนีย์ (Sydney Harbour Bridge) ที่โด่งดังระดับโลกแล้ว เมืองนี้ยังมีชายหาดสวยๆด้วยนะ เช่น หาดบอนได (Bondi Beach) และ หาดแมนลี่ (Manly Beach)
บลูเมาเทนส์ (Blue Mountains)
ดินแดนแห่งขุนเขาของรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่อยู่ติดกันกับซิดนีย์เลย ชื่อเสียงเลื่องลือในด้านวิวสวยอลังการ ทั้งหุบเขาตระหง่าน หน้าผาสูงชัน ไปจนถึงป่ายูคาลิปตัส ที่นี่คือหนึ่งในมรดกโลกที่พลาดไม่ได้ รวมถึงหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวสำหรับนักผจญภัย นักเดินป่า และผู้รักธรรมชาติ หากใครได้แวะไปบลูเมาเทนส์ อย่าลืมเก็บรูปหินหญิงสามพี่น้อง (Three Sisters rock) ชื่อดังจากตำนานของชาวอะบอริจินด้วยล่ะ
เดอะเกรตแบร์ริเออร์รีฟ (The Great Barrier Reef)
เดอะเกรตแบร์ริเออร์รีฟ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์ เป็นทั้งมรดกโลกยูเนสโกและแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่ทั้งหมดกว่า 2300 ตารางกิโลเมตร อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ทั้งปะการังสีสด ปลาทะเลหลากชนิด ทำให้ที่นี่เป็นเหมือนตัวแทนของความงามแห่งท้องทะเล และจุดหมายสำหรับการดำน้ำและดำน้ำตื้นของเหล่านักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
เมลเบิร์น (Melbourne)
อีกหนึ่งที่เที่ยวในรัฐวิกตอเรียที่ติดอันดับน่าเที่ยวที่สุด มหานครเมลเบิร์นแห่งประเทศออสเตรเลียนั่นเอง เมืองนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความหลากหลายของผู้คน สตรีทอาร์ตโดดเด่น วัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์ คาเฟ่สวย และอาหารอร่อยเริ่ด นอกจากนี้ เมลเบิร์นยังได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก และมอบความลงตัวให้กับผู้อยู่อาศัย ทั้งในด้านความทันสมัย และความมีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์
อุทยานแห่งชาติอูลูรู-คาตา ทจูทา (Uluru-Kata Tjuta National Park)
อุทยานแห่งชาติอูลูรู-คาตา ทจูทา ตั้งอยู่ในเขตแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีของออสเตรเลีย คว้าตำแหน่งมรดกโลกยูเนสโกมาด้วยความสำคัญทางด้านวัฒนธรรมและวิวที่สวยตะลึง อุทยานนี้เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพื้นเมือง อานางู (Anangu) ภายในมีหินทรายสีแดงเพลิงขนาดยักษ์ชื่อ อูลูรู หรืออีกชื่อคือ หินแอร์ส และกลุ่มหินรูปทรงเหมือนโดมที่เรียกว่า คาตา ทจูทา หรือ ดิ ออลก้าส์ (The Olgas) นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิวบนเส้นทางเดินเท้า ศึกษาประวัติศาสตร์ของหินและชาวเผ่า และดื่มด่ำไปกับวิวยามพระอาทิตย์ตกดินได้ที่นี่เลย
เกรทโอเชี่ยนโรด (Great Ocean Road)
เส้นทางเรียบชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรเลียในรัฐวิคตอเรีย โด่งดังในเรื่องวิวทะเลสวยสดชื่นที่มาพร้อมป่าฝนเขียวขจี นักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมวิวไปตามเส้นทางนี้แล้วแวะชมจุดท่องเที่ยวฮอตฮิตได้ระหว่างทาง ทั้งเสาหิน 12 อัครสาวก (Twelve Apostles) และเหล่าหินปูนรูปร่างน่าประทับใจ มาขับรถสำรวจเส้นทางเรียบชายฝั่งที่สวยที่สุดในออสเตรเลียกันเถอะ
ป่าฝนเดนทรี (Daintree Rainforest)
ป่าฝนเดนทรี ตั้งอยู่ในเมืองแคนส์ รัฐควีนสแลนด์ นอกจากจะเป็นหนึ่งในป่าฝนเขตร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่มีอายุกว่า 135 ล้านปี ที่นี่ยังเป็นมรดกโลกยูเนสโกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเดินหรือนั่งเรือเพื่อสำรวจป่าฝนเดนทรี แล้วพบกับความหลายหลากทางชีวภาพ ทั้งสัตว์ป่าที่แตกต่างไปจากที่อื่นอย่างสิ้นเชิง ทั้งพืชพันธุ์โบราณ และระบบนิเวศหลากหลายในที่เดียว
เกาะทาสมาเนีย (Tasmania)
รัฐทาสมาเนียมีลักษณะเป็นเกาะขนาดใหญ่ ขึ้นชื่อเรื่องความดิบ มีความเป็นธรรมชาติมาก ระบบนิเวศสมบูรณ์หลากหลาย วิวเมืองชายฝั่งสวย รวมทั้งเต็มไปด้วยกลิ่นอายทางวัฒนธรรมของชาวเผ่าพื้นเมือง ที่เที่ยวก็ไม่น้อยหน้าใคร นำทัพมาด้วยภูเขาเครเดิล (Cradle Mountain) อ่าวไวน์กลาส (Wineglass Bay) และอุทยานประวัติศาสตร์พอร์ตอาร์เทอร์ (Port Arthur)
หมู่เกาะวิตซันเดย์ (Whitsunday Islands)
หาดทรายขาว น้ำใสแจ๋ว หมู่ปะการังสีสดใส พบกับสวรรค์บนดินที่หมู่เกาะวิตซันเดย์แห่งรัฐควีนสแลนด์ หมู่เกาะวิตซันเดย์มีทั้งหมดด้วยกัน 74 เกาะ ตั้งอยู่ท่ามกลางเดอะเกรตแบร์ริเออร์รีฟ ใครชอบกิจกรรมทางน้ำรับรองถูกใจสุดๆ ไม่ว่าจะแล่นเรือใบ ดำน้ำดูปะการัง หรือจะชิวก็ได้หมด โดยสถานที่สุดฮอตคือ หาดไวท์เฮเวน (Whitehaven Beach) และ เกาะฮามิลตัน (Hamilton Island)
หุบเขาบารอสซ่า (Barossa Valley)
ใครชอบการดื่มไวน์ แนะนำให้แวะไปที่หุบเขาบารอสซ่าที่รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ที่นี่คือแหล่งผลิตไวน์ระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งองุ่นพันธุ์ชีราส (Shiraz) ที่คุณภาพคับแก้ว นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมชิมไวน์พร้อมอาหารระดับเหลา ท่ามกลางวิวสวนองุ่นที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ ใกล้ๆสวนองุ่นของบารอสซ่ายังมีหมู่บ้านและสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์หลายแห่งให้ไปสำรวจกันอีกด้วย
การเดินทางในออสเตรเลีย
ในการเดินทางในประเทศออสเตรเลียที่กว้างใหญ่ คุณสามารถเลือกวิธีการเดินทางที่เหมาะกับแพลนเที่ยวของคุณ งบประมาณที่มี และความเหมาะสมในด้านต่างๆ วิธีการเดินทางในประเทศออสเตรเลียมีดังต่อไปนี้
เที่ยวบินในประเทศ
ประเทศออสเตรเลียมีเครือข่ายของเที่ยวบินภายในประเทศที่ดีมาก ทำให้การเดินทางวิธีนี้นั้นแสนสะดวก เหมาะสำหรับการเดินทางระหว่างเมืองที่อยู่ห่างจากกัน สายการบินที่มีเที่ยวบินในประเทศออสเตรเลีย เช่น แควนตัส (Qantas) เวอร์จินออสเตรเลีย (Virgin Australia) และ เจ็ตสตาร์ (Jetstar)
รถยนต์
การเช่ารถขับเองฮิตมากๆในหมู่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียเลยละ เหมาะมากโดยเฉพาะสำหรับการสำรวจพื้นที่ที่ห่างไกลออกไปจากตัวเมือง หรือ พื้นที่ว่างเปล่า (the Outback) ที่ออสเตรเลียถนนดีมาก ขับคล่อง การขับรถเที่ยวเองจึงเป็นโอกาสดีที่คุณจะได้สำรวจประเทศนี้ด้วยตัวเอง
รถบ้าน
สำหรับผู้ที่ชอบการเดินทางแบบยืดหยุ่น ลองเช่ารถบ้านขับเที่ยวออสเตรเลียเองดูสิ ประเทศออสเตรเลียเต็มไปด้วยจุดตั้งแคมป์ ดังนั้นใครที่เช่ารถบ้านขับสามารถลองลิ้มรสประสบการณ์แบบ open road และรับความอิสระในการเดินทางอย่างเต็มที่ไปเลย
รถไฟ
ประเทศออสเตรเลียมีรถไฟให้บริการสำหรับการเดินทางระยะไกล เช่น รถไฟสายเดอะกาน (The Ghan) และ รถไฟสายอินเดียแปซิฟิก (Indian Pacific) ซึ่งการรถไฟเหล่านี้นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวสวยๆตลอดสองข้างทาง และเดินทางข้ามภูมิภาคต่างๆในออสเตรเลียได้อย่างสะดวกสบายเป็นที่สุด
รถบัส รถโค้ช
การเดินทางข้ามเมืองด้วยรถบัสหรือรถโค้ชนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเดินทาง ไม่รีบ และต้องการซึมซึบทิวทัศน์ระหว่างทาง ผู้ให้บริการก็มีหลายเจ้าให้เลือก ต่างก็บริการดีและราคาย่อมเยา เช่น เกรย์ฮาวด์ออสเตรเลีย (Greyhound Australia) หนึ่งในผู้ให้บริการที่โด่งดังในเรื่องเส้นทางที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ทั้งในเมืองและพื้นที่ห่างไกลออกไป
ขนส่งสาธารณะ
ในเมืองใหญ่ๆอย่างซิดนีย์ เมลเบิร์น บริสเบน และเพิร์ท ต่างก็มีระบบขนส่งสาธารณะดีเยี่ยม ทั้งรถบัส รถไฟ รถราง และเรือเฟอร์รี่ เพียงซื้อบัตรหรือตั๋วเดินทางที่ราคาถูกมาก แล้วออกเดินทางเที่ยวเมืองต่างๆในออสเตรเลียได้เลย
แท็กซี่
แท็กซี่และอูเบอร์ (Uber) มีให้บริการทั่วไปในเมือง สะดวกสบายและมีความยืดหยุ่น เหมาะมากสำหรับการเดินทางที่ไม่ไกลจนเกินไป หรือเวลาที่ไม่สามารถใช้ขนส่งสาธารณะได้
จักรยาน
การขี่จักรยานสำรวจประเทศออสเตรเลียก็ถือเป็นวิธีที่เป็นที่นิยมเช่นกัน ในหลายๆพื้นที่มีเลนสำหรับขี่จักรยานโดยเฉพาะ เลนจักรยานที่นี่ถูกสร้างไว้ดีมาก ขี่ไม่ยากเลย นอกจากจะได้ชมวิวสวยๆแล้วยังรักษ์โลกอีกด้วยนะ
เช็คตารางการเดินทาง จองตั๋วรถบัส รถไฟ เครื่องบิน เรือเฟอร์รี่ แท็กซี่ ได้กับ 12Go
ซิดนีย์ ไป เมลเบิร์น
เมลเบิร์น ไป ซิดนีย์
ซิดนีย์ ไป บริสเบน
บริสเบน ไป ซิดนีย์
บริสเบน ไป เมลเบิร์น
เมลเบิร์น ไป บริสเบน
ซิดนีย์ ไป เพิร์ท
เพิร์ท ไป ซิดนีย์
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้าง จบไปแล้วกับคู่มือเที่ยวออสเตรเลียด้วยตัวเอง ประเทศกว้างใหญ่ขนาดนี้คงต้องไปกันหลายวันหน่อย ครบรสขนาดนี้ ทั้งเมือง ทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ทุกอย่างถูกรวมไว้ให้คุณแล้วที่ออสเตรเลีย เริ่มต้นการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ มุ่งตรงสู่ออสเตรเลียเพื่อเริ่มการผจญภัย แล้วสัมผัสกับประสบการณ์ดีๆ พร้อมสร้างความทรงจำไม่รู้ลืมได้ที่ออสเตรเลียกันเลย
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประเทศออสเตรเลีย
ไปเที่ยวออสเตรเลียช่วงเดือนไหนดี
คำตอบที่แท้ทรูนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณวางแผนจะไปเที่ยวในภูมิภาคไหนของออสเตรเลียบ้าง เนื่องจากในแต่ละพื้นที่สภาพอากาศแตกต่างกันไปแม้จะเป็นในช่วงฤดูกาลเดียวกัน
-
ภูมิภาคทางตอนใต้ ตะวันออก และตะวันตก
เช่น ซิดนีย์ เมลเบิร์น แอดิเลด เพิร์ท และบรูม เหมาะกับการท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบ้ไม้ผลิ (เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน) และ ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม) และฤดูรองคือฤดูร้อน (เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์) -
ภูมิภาคทางตอนเหนือ
เช่น ควีนสแลนด์ แนวปะการังเกรทแบร์ริเออร์รีฟ เหมาะกับการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว (เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม) และ ฤดูใบ้ไม้ผลิ (เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน) -
ภูมิภาคทางตอนกลาง
เช่น ภูเขาหินอูลูรู อลิซสปริงส์ เหมาะกับการท่องเที่ยวในช่วงฤดูฤดูใบไม้ร่วง (เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม) -
แทสมาเนีย
เหมาะกับการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน (เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์) และฤดูรองคือฤดูใบ้ไม้ผลิ (เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน) และ ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม)
ไปเที่ยวออสเตรเลียใช้งบเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวประเทศออสเตรเลียนั้นเริ่มต้นอยู่ที่ 40000 บาทโดยประมาณ โดยจำนวนเงินนี้คิดจากการใช้จ่ายอย่างประหยัดสุดตัวในทุกๆด้าน และไม่รวมค่าของฝากหรือช้อปปิ้ง ทั้งนี้งบเที่ยวออสเตรเลียอาจไม่เท่ากันในแต่ละคน ดังนั้นหากคุณต้องการเที่ยวออสเตรเลียอย่างสบายๆ ซื้อของบ้าง เที่ยวครบทุกเม็ด พักโรงแรมดี ฯลฯ อย่าลืมคำนวนค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆที่อาจมีเพิ่มขึ้นมาด้วยล่ะ
ไปออสเตรเลียต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่
แม้ว่าทางสถานทูตจะไม่มีข้อกำหนดชี้แจงที่ระบุชัดเจนว่าผู้สมัครวีซ่าออสเตรเลียต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อยเท่าไหร่ สำหรับคนที่ต้องการไปเที่ยวออสเตรเลีย ควรมีเงินในบัญชี 2000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 46000 บาทเป็นอย่างต่ำก็เพียงพอแล้วสำหรับการยื่นสมัครวีซ่าออสเตรเลีย หรือหากใครมีเยอะกว่านี้ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก ทั้งนี้การพิจารณาวีซ่าว่าจะผ่านหรือไม่ขึ้นอยู่กับเอกสารทุกอย่างที่ใช้ยื่นในการเข้าสมัครประกอบกัน
1 เหรียญออสเตรเลียเท่ากับกี่บาทไทย
หากเราต้องการแลกค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเป็นเงินบาทไทย อัตราแลกเปลี่ยนคือ 1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เท่ากับประมาณ 23 บาทไทย และ 100 เหรียญเซนต์ออสเตรเลีย มีค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ดังนั้น
- เหรียญ 5 เซนต์ออสเตรเลีย เท่ากับประมาณ 1.15 บาท
- เหรียญ 10 เซนต์ออสเตรเลีย เท่ากับประมาณ 2.3 บาท
- เหรียญ 50 เซนต์ออสเตรเลีย เท่ากับประมาณ 11.5 บาท
- 5 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เท่ากับประมาณ 115 บาท
- 10 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เท่ากับประมาณ 230 บาท
- 20 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เท่ากับประมาณ 460 บาท
- 50 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เท่ากับประมาณ 1150 บาท
ค่าวีซ่าออสเตรเลียราคาเท่าไหร่
วีซ่านักท่องเที่ยวประเทศออสเตรเลีย หรือ Visitor Visa 600 ค่าสมัครราคา 190 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 4000 บาท นอกจากนี้ผู้สมัครจะต้องจ่ายค่าดำเนินการตรวจไบโอเมตริกซ์ (Biometrics) ด้วย เป็นจำนวนเงินเพิ่มเติมอีก 735 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบินไปออสเตรเลียราคาเท่าไหร่
ค่าเครื่องบินจากไทยไปออสเตรเลีย ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 10000 บาท ส่วนค่าเครื่องบินไปกลับออสเตรเลียและไทย ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 15000 บาท ทั้งนี้ราคาขึ้นอยู่กับว่าจองตั๋วล่วงหน้านานขนาดไหน ใช้บริการสายการบินอะไร บินช่วงเทศกาลหรือไม่ ตั๋วมีโปรหรือเปล่า ฯลฯ นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบเที่ยวบิน เปรียบเทียบราคาตั๋ว และจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าก่อนการเดินทาง